xs
xsm
sm
md
lg

ภาพจากอดีต มโนสำนึกของยุทธนา มุกดาสนิท !

เผยแพร่:   โดย: คำนูณ สิทธิสมาน

พักนี้ภาพจากอดีตหวลกลับมาเตือนความทรงจำให้ย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์เก่า ๆ หลายภาพ

ความขัดแย้งทางความคิดในประเด็นที่ลงรากลึกทำให้ภาพของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ย้อนกลับมาฉายในสมองเหมือนเพิ่งเกิดไม่นาน ไม่ได้มีแค่เฉพาะภาพเหตุการณ์วันนั้น แต่มีภาพของการเคลื่อนไหวและการต่อสู้ทางความคิดในขบวนนักศึกษาก่อนหน้าวันนั้นเป็นปี ๆ หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 พ่วงเป็นฉาก ๆ ตามมาด้วย มีภาพการจัดนิทรรศการจีนแดงที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีภาพการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมเสนอให้เผาวรรณคดี มีภาพการรุกคืบเข้ามาจัดตั้งฝ่ายนำของขบวนนักศึกษาของแกนนำพคท.ที่ผูกติดอยู่กับพคจ.ยุคแก๊งสี่คนยังยึดกุมอำนาจ เรื่อยมาถึงการแสดงละครที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2519 ภาพข่าวหน้า 1 นสพ.บางกอกโพสต์ฉบับเช้าวันที่ 5 ตุลาคม 2519 รวมทั้งภาพข่าว(ตกแต่ง)หน้า 1 นสพ.ดาวสยามฉบับเผยแพร่ตอนเย็นวันที่ 5 ตุลาคม 2519

แทบทุกภาพที่ย้อนมาในห้วงความคิดบังเอิญมีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นฉากหลังทั้งสิ้น

ความขัดแย้งทางความคิดในกรณีข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของคณะนิติราษฎร์ที่ตามมาด้วยคำสั่งกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้ภาพและข้อความในอดีตครั้งที่ตัวเองเพิ่งเข้าไปเป็นนักศึกษาปี 1 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปีการศึกษา 2516 ย้อนกลับมาเป็นประเด็นทางสังคมในวันนี้

“ธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว”

“ชาวธรรมศาสตร์รักมหาวิทยาลัยของเขา เพราะมหาวิทยาลัยของเขาสอนให้รักประชาชน”

“หากขาดโดมเจ้าพระท่าพระจันทร์ เสมือนขาดสัญลักษณ์พิทักษ์ธรรม”


การเคลื่อนไหวของกลุ่มวารสารฯต้านนิติราษฎร์นำโดยคุณยุทธนา มุกดาสนิทเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 ยิ่งทำให้ภาพสำคัญในอดีตจุดก่อกำเนิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ย้อนกลับมาฉายในสมอง

สำหรับผม ยุทธนา มุกดาสนิทไม่ใช่เพียงผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังเท่านั้น แต่เป็นชื่อที่มีความหมายแทนกลุ่มคนที่รักชาติ รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย รักพระมหากษัตริย์ และมีจิตวิญญาณของการต่อสู้สูงส่งในยามวิกฤต แม้จะไม่เคยรู้จักไม่เคยพบกันเป็นการส่วนตัว แต่ก็เคารพการตัดสินใจในการลงมือก่อการของเขาและเพื่อนในวันหนึ่งเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน

เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มีจุดกำเนิดมาจากตำรวจจับกุมกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ 13 คนเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2516 มีทั้งนักศึกษาและอาจารย์หลายสถาบัน รวมทั้งธรรมศาสตร์ด้วย การเคลื่อนไหวต่อสู้ของขบวนนักศึกษาในขณะนั้นเกิดขึ้นได้ไม่ง่ายนัก เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างใกล้วันสอบภาค 1 โดยธรรมศาสตร์จะสอบวันแรกในวันที่ 9 ตุลาคม 2516 หากรอไปจนสอบเสร็จก็ไม่รู้ว่าอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาจะเป็นอย่างไร แต่จะเคลื่อนไหวทันทีให้มีพลังโดยนักศึกษาละทิ้งห้องสอบมาชุมนุมกันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากพลังมีไม่พอเพียงก็เสี่ยงต่อการถูกจับกุมเพิ่มเติม

องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขณะนั้นไม่สามารถมีมตินำการประท้วงอย่างเป็นทางการ

ยุทธนา มุกดาสนิทกับเพื่อนชาววารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก้าวเข้ามาตรงจุดนี้ เขากับเพื่อนทั้งที่เป็นศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันในขณะนั้นเสนออย่างแรงกล้าต่อประชาคมนักกิจกรรมของมหาวิทยาลัยในช่วงวันที่ 8 ตุลาคม 2516 ว่าจะต้องเริ่มต้นการประท้วงทันที จะยอมให้การสอบผ่านไปก่อนไม่ได้

ยุทธนา มุกดาสนิทกับเพื่อนชาววารสารฯ และกลุ่มอิสระกลุ่มอื่น ๆ ร่วมกันเป็นผู้ก่อการในคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2516 ตลอดทั้งคืน ปิดประตูห้องสอบด้วยโซ่และกุญแจ เอาปูนปลาสเตอร์เทใส่รูกุญแจ ตัดไฟลิฟท์ เขียนป้ายประท้วงทั่วมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะป้ายสำคัญหน้าประตูทางเข้าด้านท่าพระจันทร์ ขึงผ้าดำหน้าป้ายชื่อมหาวิทยาลัยด้านประตูสนามหลวง ชักธงดำขึ้นยอดโดม

เช้าตรู่วันที่ 9 ตุลาคม 2516 จึงสามารถเปิดการประท้วงขึ้นที่ลานโพธิ์ได้สำเร็จ

เล่ามาดูเหมือนง่าย แต่แท้จริงแล้วเหนื่อยยากแสนสาหัสมาตลอดคืน ช่วงเช้ามืดก็เกือบมีเหตุกับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยและรองอธิการบดีท่านหนึ่ง ถ้าไม่สำเร็จ คือธรรมศาสตร์สามารถเปิดสอบได้ตามปกติ พวกเขามีแต่ถูกคัดชื่อออกจากความเป็นนักศึกษาสถานเดียว ดีไม่ดีถูกดำเนินคดีอาญาอีกต่างหาก

นี่คือยุทธนา มุกดาสนิทกับชาววารสารฯที่อยู่ในความทรงจำของผมมาโดยตลอด

ไม่อยากเรียกพวกเขาว่าวีรชน ไม่กล้าเรียกว่าผู้กล้า แต่วิถีของพวกเขานับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง ก่อนจะเกิดเหตุวิกฤตไม่เคยเห็นพวกเขาแสดงตัวในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เห็นแต่ทำในกิจกรรมที่เขารัก เฉพาะยุทธนา มุกดาสนิทเขาโด่งดังที่สุดจากการกำกับละครของนักศึกษาธรรมศาสตร์เรื่อง “สี่แผ่นดิน” ที่เปิดการแสดงที่หอประชุมเล็กในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2516 หลังจากการประท้วงเกิดขึ้น และพัฒนาเป็นการเดินขบวนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวันที่ 13 ตุลาคม 2516 แล้วก็แทบไม่เห็นเขาและเพื่อน ๆ ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองใด ๆ อีก

เขียนมาถึงตอนนี้ก็ขนลุก เพราะละครเวที “สี่แผ่นดิน” ก็ย้อนกลับมาเปิดแสดงอีกครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้

สำหรับผม ยุทธดา มุกดาสนิทไม่ใช่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างเพื่อหวังผลทางการเมือง ไม่ทำอะไรเพราะมีใครบงการ แต่ทำอะไรสักอย่างในบางขณะเพราะมโนธรรมใต้สำนึกสั่งการ เป็นมโนธรรมที่ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นลัทธิการเมืองใด หรือพูดอีกอย่างว่าจะใช้หลักคิดทางรัฐศาสตร์เข้าไปจับได้ยาก

ยุทธนา มุกดาสนิทรักความเป็นธรรม

ยุทธนา มุกดาสนิทรักประชาธิปไตย

ยุทธนา มุกดาสนิทรักความเป็นธรรมศาสตร์และปณิธานของท่านผู้ประศาสน์การปรีดี พนมยงค์

ยุทธนา มุกดาสนิทรักและทิดทูนพระมหากษัตริย์


แม้จะเขียนถึงยุทธนา มุกดาสนิท และชาววารสารฯธรรมศาสตร์ ทั้งที่เคยเคลื่อนไหวร่วมกันเมื่อคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2516 ทั้งที่ออกมาเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เชื่อว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณคนที่ร่วมเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มาด้วยกัน ผู้คนเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงคนมีชื่อเสียงที่ขึ้นเวที มิได้มีเพียงคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองชัดเจน มิได้มีเพียงคนที่ต่อมาสมาทานอุดมการณ์สังคมนิยมเต็มตัวและเข้าสู่การจัดตั้งของพคท. มิได้มีเพียงคนที่เข้าป่าไปจับอาวุธร่วมอุดมการณ์กับพคท.หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่มีหลากหลาย จุดร่วมจุดเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ผู้คนมารวมตัวกันได้หลายแสนคนในการเดินขบวนวันที่ 13 ตุลาคม 2516 มีง่าย ๆ สั้น ๆ ไม่หรูหรานัก

รักความเป็นธรรม !

รักประชาธิปไตย !

รักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ !


ความเป็นธรรม ประชาธิปไตย และพระมหากษัตริย์ สำหรับคนไทยอย่างยุทธนา มุกดาสนิท ชาววารสารฯธรรมศาสตร์ ผม และท่านผู้อ่าน ไปกันได้อย่างดี ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคต่อกัน แต่แน่นอนว่าสามารถปรับเปลี่ยนตามธรรมชาติไปตามยุคสมัยได้

เราเชื่อของเราอย่างนี้

เขียนถึงยุทธนา มุกดาสนิทมามาก แต่ผมไม่อาจตอบได้ว่ามโนธรรมใต้สำนึกที่สั่งการให้เขาลงไปนำการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นมโนธรรมใต้สำนึกเดียวกับที่สั่งการให้เขาผลักดันให้เกิดการก่อการในคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2516 หรือไม่

และถ้าใช่...จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป....

กำลังโหลดความคิดเห็น