“เดอะมอลล์” เอาจริง ขายสินค้าผ่านออนไลน์ ทุ่ม 100 ล้านพัฒนาระบบเปิดตัว www.mglobemall.com คาดยอดขายผานช่องทางนี้ปีแรก 300 ล้านบาท
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 30% ต่อปี โดยปีที่แล้วมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 70,000 ล้านบาท ขณะที่จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกปีที่แล้วมีจำนวน 2,000 ล้านคน ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 500 ล้านคนทั่วโลกใช้เฟซบุ๊คทั่วโลก 800 ล้านคน ซึ่งเป็นประชากรมากเป็นอันดับสามรองจาก จีนทั้งประเทศมีประชากร 1,336 ล้านคน และอินเดีย 1,178 ล้านคน
ขณะที่ในประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 24.5 ล้านคน คิดเป็น 37% ของจำนวนประชากรทั้งหมด มีประชากรใช้มือถือ 18 ล้านราย มีประชากรเฟซบุ๊ค 13 ล้านราย สูงเป็นอันดับที่ 16 ของโลก ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีทิศทางเติบโตได้ดี ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซอย่างจริงจัง
ล่าสุดใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท พัฒนาระบบไอทีและระบบต่างๆ เพื่อเปิดตัว Social Shopping Lifestyle ผ่านเว็บไซต์ www.mglobemall.com ในโครงการ M Globe โดยมีพันธมิตรรายใหญ่เข้าร่วมช่วงแรก เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารธนชาต ไทยประกันชีวิต เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ปตท. และนิตยสารทีวีพูล และร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า จากสินค้าช่วงแรก 5 กลุ่มคือ แฟชั่น อาหาร ท่องเที่ยว ความงามสุขภาพ
และบันเทิง คาดยอดขายปีแรก 300 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดตัวโครงการนี้คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเข้าร่วมเป็นสมาชิก 1 แสนคน มีลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ 1 ล้านคน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ได้เปิดตัว การชอปปิ้งผ่านออนไลน์ ชื่อ “MODS” ผ่านเว็บไซต์ www.mods.co.th ลงทุน 100 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมายบีบวกขึ้นไป มีสินค้า 30,000 รายการ มีแฟนคลับประมาณ 10,000 ราย มียอดขายเฉลี่ย 30 ล้านบาทต่อเดือน เป้าหมายปีนี้เพิ่มสมาชิกเป็น 100,000 ราย
อย่างไรก็ตาม นางสาวศุภลักษณ์ ย้ำว่า ทั้ง 2 เว็บแตกต่างกัน โดย MODS เป็นเว็บเฉพาะห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียมและพารากอน มีสินค้าเฉพาะในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น และยังเปิดบริการอยู่เหมือนเดิม ขณะที่เว็บของ MGLOBEMALL จะเป็นเสมือนศูนย์การค้าที่มากกว่าห้างสรรพสินค้า
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 30% ต่อปี โดยปีที่แล้วมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 70,000 ล้านบาท ขณะที่จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกปีที่แล้วมีจำนวน 2,000 ล้านคน ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 500 ล้านคนทั่วโลกใช้เฟซบุ๊คทั่วโลก 800 ล้านคน ซึ่งเป็นประชากรมากเป็นอันดับสามรองจาก จีนทั้งประเทศมีประชากร 1,336 ล้านคน และอินเดีย 1,178 ล้านคน
ขณะที่ในประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 24.5 ล้านคน คิดเป็น 37% ของจำนวนประชากรทั้งหมด มีประชากรใช้มือถือ 18 ล้านราย มีประชากรเฟซบุ๊ค 13 ล้านราย สูงเป็นอันดับที่ 16 ของโลก ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีทิศทางเติบโตได้ดี ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซอย่างจริงจัง
ล่าสุดใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท พัฒนาระบบไอทีและระบบต่างๆ เพื่อเปิดตัว Social Shopping Lifestyle ผ่านเว็บไซต์ www.mglobemall.com ในโครงการ M Globe โดยมีพันธมิตรรายใหญ่เข้าร่วมช่วงแรก เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารธนชาต ไทยประกันชีวิต เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ปตท. และนิตยสารทีวีพูล และร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า จากสินค้าช่วงแรก 5 กลุ่มคือ แฟชั่น อาหาร ท่องเที่ยว ความงามสุขภาพ
และบันเทิง คาดยอดขายปีแรก 300 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดตัวโครงการนี้คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเข้าร่วมเป็นสมาชิก 1 แสนคน มีลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ 1 ล้านคน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ได้เปิดตัว การชอปปิ้งผ่านออนไลน์ ชื่อ “MODS” ผ่านเว็บไซต์ www.mods.co.th ลงทุน 100 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมายบีบวกขึ้นไป มีสินค้า 30,000 รายการ มีแฟนคลับประมาณ 10,000 ราย มียอดขายเฉลี่ย 30 ล้านบาทต่อเดือน เป้าหมายปีนี้เพิ่มสมาชิกเป็น 100,000 ราย
อย่างไรก็ตาม นางสาวศุภลักษณ์ ย้ำว่า ทั้ง 2 เว็บแตกต่างกัน โดย MODS เป็นเว็บเฉพาะห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียมและพารากอน มีสินค้าเฉพาะในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น และยังเปิดบริการอยู่เหมือนเดิม ขณะที่เว็บของ MGLOBEMALL จะเป็นเสมือนศูนย์การค้าที่มากกว่าห้างสรรพสินค้า
