อุบลราชธานี- กลุ่มเครือข่ายคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อุบลราชธานี จัดเวทีเสวนาสะท้อนปัญหาชาวนาญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ใช้เป็นบทเรียนแก่ชาวนาไทยที่ต้องเผชิญปัญหาในอนาคตด หากมีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เผยมีชาวบ้านกว่า 80 %ไม่เอาโรงไฟฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องบัวทิพย์ 1 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ชาวบ้านอำเภอสิรินธร และชาวบ้านจากกลุ่มเครือข่ายคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดอุบลราชธานี จัดเสวนาจากชาวนาญี่ปุ่นถึงชาวนาไทยกับภัยพิบัติจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเชิญนายชิมเป มูระกามิ ชาวนาญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมะเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่ผ่านมา มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง โดยมีคนเข้ารับฟังล้นห้องประชุมกว่า 100 คน
นายชิมเป เล่าว่า ตนประกอบอาชีพปลูกพืชผลเกษตรอินทรีย์ส่งไปยังเมืองต่างๆของประเทศญี่ปุ่น เมื่อเกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ต้องอพยพหนีภัยจากนิวเคลียร์ไปอยู่ในเมืองอื่นที่อยู่ห่างไปกว่า 700 กิโลเมตร ส่วนพืชผลก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ เพราะผลผลิตมีสารกัมมันตรังสีเจือปน จึงเห็นถึงพิษภัยของการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และต้องการนำประสบการณ์มาเล่าให้ชาวนาไทยได้รับทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้
ขณะที่ น.ส.สดใส สร่างโศก แกนนำเครือข่ายคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสนับสนุนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ได้รับการจัดตั้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยคนกลุ่มนี้เป็นผู้นำท้องถิ่นที่มีแนวความคิดสนับสนุนอยู่เดิม พร้อมมีการปล่อยข่าวหากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใน อ.สิรินธร เจ้าของที่ดินแต่ละแปลงที่ถูกเวนคืนจะได้รับเงินรายละไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
กระบวนการเหล่านี้ ทำเพื่อลดกระแสการต่อต้านจากประชาชนใน อ.สิรินธร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระแสไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่มีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากชาวบ้านตื่นตัวจากข่าวเกี่ยวกับผลกระทบจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมะเมื่อเดือนมี.ค.ปีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ จ.อุบลราชธานี ถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 5 ของประเทศไทย ที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต ขณะเดียวกันในการเข้ารับฟังข้อมูลในครั้งนี้ กลุ่มคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ยังได้ถือป้ายต่อต้านไม่เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องบัวทิพย์ 1 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ชาวบ้านอำเภอสิรินธร และชาวบ้านจากกลุ่มเครือข่ายคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดอุบลราชธานี จัดเสวนาจากชาวนาญี่ปุ่นถึงชาวนาไทยกับภัยพิบัติจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเชิญนายชิมเป มูระกามิ ชาวนาญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมะเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่ผ่านมา มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง โดยมีคนเข้ารับฟังล้นห้องประชุมกว่า 100 คน
นายชิมเป เล่าว่า ตนประกอบอาชีพปลูกพืชผลเกษตรอินทรีย์ส่งไปยังเมืองต่างๆของประเทศญี่ปุ่น เมื่อเกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ต้องอพยพหนีภัยจากนิวเคลียร์ไปอยู่ในเมืองอื่นที่อยู่ห่างไปกว่า 700 กิโลเมตร ส่วนพืชผลก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ เพราะผลผลิตมีสารกัมมันตรังสีเจือปน จึงเห็นถึงพิษภัยของการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และต้องการนำประสบการณ์มาเล่าให้ชาวนาไทยได้รับทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้
ขณะที่ น.ส.สดใส สร่างโศก แกนนำเครือข่ายคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสนับสนุนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ได้รับการจัดตั้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยคนกลุ่มนี้เป็นผู้นำท้องถิ่นที่มีแนวความคิดสนับสนุนอยู่เดิม พร้อมมีการปล่อยข่าวหากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใน อ.สิรินธร เจ้าของที่ดินแต่ละแปลงที่ถูกเวนคืนจะได้รับเงินรายละไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
กระบวนการเหล่านี้ ทำเพื่อลดกระแสการต่อต้านจากประชาชนใน อ.สิรินธร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระแสไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่มีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากชาวบ้านตื่นตัวจากข่าวเกี่ยวกับผลกระทบจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมะเมื่อเดือนมี.ค.ปีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ จ.อุบลราชธานี ถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 5 ของประเทศไทย ที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต ขณะเดียวกันในการเข้ารับฟังข้อมูลในครั้งนี้ กลุ่มคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ยังได้ถือป้ายต่อต้านไม่เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ด้วย