สุพรรณบุรี - จนท.สรรพาวุธจำลองจุดพลุฉลองตรุษจีนสุพรรณบุรีหาสาเหตุระเบิด ผบ.ทบ.เสียใจคนเจ็บ-ตายให้ถือเป็นบทเรียน ด้าน ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี เผยมีประชาชนแจ้งความเสียหายแล้ว 435 ราย "บรรหาร" ย้ำงานศาลเจ้าพ่อสุพรรณฯ ไม่จุดพลุอีกต่อไป "ผบก.สุพรรณฯ" ยันจะเร่งรัดคดีให้เร็วที่สุด เผยเรียกสอบผู้รับเหมาจัดงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาใครได้ อ้างต้องรอความชัดเจนของข้อมูลก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุพลุระเบิดกลางงาน "ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีทองมังกรสวรรค์" ที่พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ณ อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (26 ม.ค.55) เจ้าหน้าที่สรรพาวุธจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพลุระเบิด เพื่อหาวิถีของการจุดชนวนพลุด้วยระบบไฟฟ้าโดยจำลองเหตุการณ์ด้วยการนำกระบอกพลุมาตั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่า การจุดพลุจนเกิดไฟไหม้ เกิดจากความประมาท หรืออุบัติเหตุ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีพลุที่ระเบิดว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ส่งชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดจำนวน 8 นาย ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิต การจุด และการทำลายพลุ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ การปฏิบัติงานของชุดเก็บกู้และทำลายพลุของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบกได้สำรวจที่เกิดเหตุตรวจสอบหาเศษพลุ พร้อมทั้งได้เก็บกู้และทำลายพลุที่ยังไม่ระเบิดโดยได้ทำการถอดชนวนและนำพลุจำนวน 223 ลูก ที่ยังไม่ระเบิดไปทำให้เกิดความชื้นด้วยการแช่น้ำ จากนั้นได้นำเม็ดสีและดินขยายการระเบิดที่อยู่ในลูกพลุนำกลับมาทำลายที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก และหลังจากที่ได้ตรวจสอบพื้นที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแล้ว จึงได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลต่อไป
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์พลุระเบิดศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีที่ผ่านมา สรุปตัวเลขความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตคาที่ 3 ราย เสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 4 ราย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 88 ราย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 16 ราย และมีผู้มาแจ้งความเสียหายของบ้านเรือนทั้งหมด 435 หลัง ในทั้งหมดนี้มี 71 ราย ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ได้เดินทางมาขอโทษผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งกล่าวว่า จะไม่มีการจัดแสดงพลุในงานประจำปีอีกต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวอีกว่า ทางจังหวัด องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว ซึ่งประชาชนก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ด้าน พล.ต.ต.วีระ บุตรโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า คาดวันนี้จะชัดเจนเรื่องสาเหตุพลุระเบิดเพิ่มขึ้น โดยได้เชิญผู้รับเหมาจัดงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการทำพลุมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาใครได้ ต้องรอความชัดเจนของข้อมูลก่อน ยืนยันจะพยายามเร่งรัดคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และวันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานให้ประชาชนใช้เป็นหลักฐานในการขอรับเงินเยียวยา
รายงานข่าวแจ้งวว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากหน่วยคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จะเข้าไปตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุพลุระเบิดระหว่างการจัดงานตรุษจีนที่ จ.สุพรรณบุรีว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเกิดเรื่องขึ้นได้มีการติดต่อขอมายังกองทัพบก ตนจึงได้ให้กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกจัดชุดปฏิบัติการจากกองร้อยวิทยาศาสตร์พร้อมเครื่องมือลงพื้นที่ไป เพื่อช่วยดูแลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร คงต้องระมัดระวังในโอกาสต่อไป บางครั้งมันเกิดจากอุบัติเหตุเพราะใช้พลุจำนวนมาก เมื่อมีการคลาดเคลื่อนก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อพลุที่เหลือและเกิดระเบิดก่อนเวลา เป็นที่น่าเสียใจต่อผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ คิดว่าคงต้องเป็นบทเรียนว่าต่อไปต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลังเก็บอาวุธแผนก 3 กองคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก จ.นครสวรรค์เกิดเพลิงไหม้ด้วยว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ตนก็ได้รับรายงาน ซึ่งตนได้สั่งการให้ระงับเพลิงให้ได้ทันที และสั่งให้เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุทันที ซึ่งได้รับรายงานไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยสาเหตุเกิดจากการอิ่มตัวของฟอสฟอรัสซึ่งเป็นสารส่องสว่างที่อยู่ในอุปกรณ์พลุที่หมดอายุแล้ว ซึ่งเขาได้นำมากองไว้ในลานเพื่อเตรียมขนย้ายไปทำลายในพื้นที่ทำลาย แต่ในระหว่างนั้นมันเกิดจุดตัวเองงขึ้นมา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และไม่น่าจะเกิดขึ้นได้แต่เกิดขึ้นแล้วและมันลุกลามไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลังไม้ แล้วเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ไม่ได้เกิดระเบิดตามที่มีข่าวออกมา ซึ่งได้สั่งการไปแล้วว่าจะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ได้ และได้สั่งการไปยังทุกหน่วยของกองทัพบกแล้วว่าให้ระมัดระวังมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของอัคคีภัยเพราะเริ่มเข้าฤดูแล้งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุพลุระเบิดกลางงาน "ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีทองมังกรสวรรค์" ที่พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ณ อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (26 ม.ค.55) เจ้าหน้าที่สรรพาวุธจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพลุระเบิด เพื่อหาวิถีของการจุดชนวนพลุด้วยระบบไฟฟ้าโดยจำลองเหตุการณ์ด้วยการนำกระบอกพลุมาตั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่า การจุดพลุจนเกิดไฟไหม้ เกิดจากความประมาท หรืออุบัติเหตุ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีพลุที่ระเบิดว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ส่งชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดจำนวน 8 นาย ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิต การจุด และการทำลายพลุ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ การปฏิบัติงานของชุดเก็บกู้และทำลายพลุของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบกได้สำรวจที่เกิดเหตุตรวจสอบหาเศษพลุ พร้อมทั้งได้เก็บกู้และทำลายพลุที่ยังไม่ระเบิดโดยได้ทำการถอดชนวนและนำพลุจำนวน 223 ลูก ที่ยังไม่ระเบิดไปทำให้เกิดความชื้นด้วยการแช่น้ำ จากนั้นได้นำเม็ดสีและดินขยายการระเบิดที่อยู่ในลูกพลุนำกลับมาทำลายที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก และหลังจากที่ได้ตรวจสอบพื้นที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแล้ว จึงได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลต่อไป
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์พลุระเบิดศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีที่ผ่านมา สรุปตัวเลขความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตคาที่ 3 ราย เสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 4 ราย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 88 ราย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 16 ราย และมีผู้มาแจ้งความเสียหายของบ้านเรือนทั้งหมด 435 หลัง ในทั้งหมดนี้มี 71 ราย ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ได้เดินทางมาขอโทษผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งกล่าวว่า จะไม่มีการจัดแสดงพลุในงานประจำปีอีกต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวอีกว่า ทางจังหวัด องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว ซึ่งประชาชนก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ด้าน พล.ต.ต.วีระ บุตรโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า คาดวันนี้จะชัดเจนเรื่องสาเหตุพลุระเบิดเพิ่มขึ้น โดยได้เชิญผู้รับเหมาจัดงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการทำพลุมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาใครได้ ต้องรอความชัดเจนของข้อมูลก่อน ยืนยันจะพยายามเร่งรัดคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และวันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานให้ประชาชนใช้เป็นหลักฐานในการขอรับเงินเยียวยา
รายงานข่าวแจ้งวว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากหน่วยคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จะเข้าไปตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุพลุระเบิดระหว่างการจัดงานตรุษจีนที่ จ.สุพรรณบุรีว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเกิดเรื่องขึ้นได้มีการติดต่อขอมายังกองทัพบก ตนจึงได้ให้กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกจัดชุดปฏิบัติการจากกองร้อยวิทยาศาสตร์พร้อมเครื่องมือลงพื้นที่ไป เพื่อช่วยดูแลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร คงต้องระมัดระวังในโอกาสต่อไป บางครั้งมันเกิดจากอุบัติเหตุเพราะใช้พลุจำนวนมาก เมื่อมีการคลาดเคลื่อนก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อพลุที่เหลือและเกิดระเบิดก่อนเวลา เป็นที่น่าเสียใจต่อผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ คิดว่าคงต้องเป็นบทเรียนว่าต่อไปต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลังเก็บอาวุธแผนก 3 กองคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก จ.นครสวรรค์เกิดเพลิงไหม้ด้วยว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ตนก็ได้รับรายงาน ซึ่งตนได้สั่งการให้ระงับเพลิงให้ได้ทันที และสั่งให้เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุทันที ซึ่งได้รับรายงานไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยสาเหตุเกิดจากการอิ่มตัวของฟอสฟอรัสซึ่งเป็นสารส่องสว่างที่อยู่ในอุปกรณ์พลุที่หมดอายุแล้ว ซึ่งเขาได้นำมากองไว้ในลานเพื่อเตรียมขนย้ายไปทำลายในพื้นที่ทำลาย แต่ในระหว่างนั้นมันเกิดจุดตัวเองงขึ้นมา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และไม่น่าจะเกิดขึ้นได้แต่เกิดขึ้นแล้วและมันลุกลามไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลังไม้ แล้วเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ไม่ได้เกิดระเบิดตามที่มีข่าวออกมา ซึ่งได้สั่งการไปแล้วว่าจะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ได้ และได้สั่งการไปยังทุกหน่วยของกองทัพบกแล้วว่าให้ระมัดระวังมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของอัคคีภัยเพราะเริ่มเข้าฤดูแล้งแล้ว
