ASTVผู้จัดการรายวัน - ซินเน็ค (ประเทศไทย) คาดยอดขายปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15% รับผลดีความนิยมแท็บเล็ตเพิ่มสูง อีกทั้งรายได้จากสมาร์ทโฟนสูงกว่าปีที่ผ่านมา เน้นรักษากำไรขั้นต้นสวนทางภาพรวมไอทีประเมินเติบโตเพียง 12%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) (มหาชน ) หรือ SYNEX เปิดเผยว่าบริษัทประเมินแนวโน้มตลาดไอทีในปี 55 ซึ่งคาดว่าราคาสินค้าระดับบนตั้งแต่ 20,000 บาท จะยังทรงตัวไม่ปรับลดลงมาก ขณะที่ราคาสินค้าระดับล่างตั้งแต่ 6,000-7,000 บาทคงจะปรับลดลงเหลือ 3,000-4,000 บาท ขณะภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้จะดีกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงและข้าราชการได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน ส่วนสินค้าไอทียังเป็นสินค้าที่มีความต้องการใช้และเป็นสินค้าแฟชั่นมากขึ้น
โดยในปี 54 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่ 20,000 ล้านบาท และมีกำไรเติบโตตามรายได้ ขณะที่ปี 55 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 15% สูงกว่าภาพรวมตลาดไอทีในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 12% โดยบริษัทเชื่อว่าจะได้รับผลดีจากกระแสความนิยมแท็บเล็ตที่มีเพิ่มขึ้น และสัดส่วนรายได้จากสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นเป็น 10-20% จากปี 54 ที่มียอดขายสินค้านี้ 10% พร้อมกันนั้นบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 5% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 1-2%
" ปีนี้เราคิดว่าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มสินค้า ทั้งพีซี โน้ตบุ๊ค ซึ่งจะมีรุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่วนสมาร์ทโฟน ตั้งเป้ามีสัดส่วนยอดขายเป็น 10-20% และทำรายได้หลักให้กับบริษัทเช่นเดียวกับปีก่อน"
ขณะที่แท็บแล็ตคาดว่าปีนี้จะเติบโตได้มาก รับผลดีนโยบายของรัฐบาลแจกแท็บเล็ตให้นักเรียน ทำให้โรงเรียนเอกชนก็มีความสนใจจะซื้อแท็บเล็ตมากขึ้นด้วย
"เราตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ 5% เท่ากับปี 54 และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 1-2% แต่จะพยายามทำให้อัตราเพิ่มสูงขึ้น จากการที่เราจะเน้นควบคุมต้นทุน และดันยอดขายเพิ่มมากขึ้น "
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) (มหาชน ) หรือ SYNEX เปิดเผยว่าบริษัทประเมินแนวโน้มตลาดไอทีในปี 55 ซึ่งคาดว่าราคาสินค้าระดับบนตั้งแต่ 20,000 บาท จะยังทรงตัวไม่ปรับลดลงมาก ขณะที่ราคาสินค้าระดับล่างตั้งแต่ 6,000-7,000 บาทคงจะปรับลดลงเหลือ 3,000-4,000 บาท ขณะภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้จะดีกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงและข้าราชการได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน ส่วนสินค้าไอทียังเป็นสินค้าที่มีความต้องการใช้และเป็นสินค้าแฟชั่นมากขึ้น
โดยในปี 54 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่ 20,000 ล้านบาท และมีกำไรเติบโตตามรายได้ ขณะที่ปี 55 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 15% สูงกว่าภาพรวมตลาดไอทีในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 12% โดยบริษัทเชื่อว่าจะได้รับผลดีจากกระแสความนิยมแท็บเล็ตที่มีเพิ่มขึ้น และสัดส่วนรายได้จากสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นเป็น 10-20% จากปี 54 ที่มียอดขายสินค้านี้ 10% พร้อมกันนั้นบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 5% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 1-2%
" ปีนี้เราคิดว่าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มสินค้า ทั้งพีซี โน้ตบุ๊ค ซึ่งจะมีรุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่วนสมาร์ทโฟน ตั้งเป้ามีสัดส่วนยอดขายเป็น 10-20% และทำรายได้หลักให้กับบริษัทเช่นเดียวกับปีก่อน"
ขณะที่แท็บแล็ตคาดว่าปีนี้จะเติบโตได้มาก รับผลดีนโยบายของรัฐบาลแจกแท็บเล็ตให้นักเรียน ทำให้โรงเรียนเอกชนก็มีความสนใจจะซื้อแท็บเล็ตมากขึ้นด้วย
"เราตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ 5% เท่ากับปี 54 และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 1-2% แต่จะพยายามทำให้อัตราเพิ่มสูงขึ้น จากการที่เราจะเน้นควบคุมต้นทุน และดันยอดขายเพิ่มมากขึ้น "