วานนี้(23ม.ค.)กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ประธานคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) กล่าวว่าได้ร่วมกับคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน (กคฐ.)เพื่อรีบนำเสนอให้ทันการประชุมครม.วันที่24 ม.ค.นี้ ขณะที่หน่วยงานต่างๆ อาทิ ด้านคมนาคมขนส่ง วงเงินรวม 559 ล้านบาท ด้านสถานที่ราชการและระบบสาธารณูปโภค วงเงินรวม 4,209.953 ล้านบาท ด้านศาสนสถานและโบราณสถาน วงเงินรวม 1,520.259 ล้านบาท ด้านสถานศึกษา วงเงินรวม 2,834.805 ล้านบาท ด้านแหล่งน้ำและระบบชลประทาน วงเงินรวม 5,780.814 ล้านบาท และแผนงานฟื้นฟูของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วงเงินรวม 194.711 ล้านบาท รวมเป็นเงินประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อมาถึงช่วงการพิจารณาโครงการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู ด้านสถานที่ราชการและระบบสาธารณูปโภคนั้น กองทัพอากาศได้เสนองบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 103 ล้านบาท สำหรับจัดซื้อชุดฝึกสำหรับนักบิน ซึ่งถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ดยได้จัดซื้อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง จึงต้องจัดหางบประมาณเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศเคยของบประมาณต่อกฟย.มาแล้วกว่า หนึ่งหมื่นล้านบาท แต่ถูกตัดออก จนเหลือเพียง 3,211 ล้านบาท ที่ประชุมเห้นว่า งบส่วนนี้คงต้องหั่นออกไปก่อน เพราะได้มีการพิจารณามาแล้วว่า การซื้อชุดนักบินนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน แต่ควรให้ไปหารือกับกฟย. ด้านสังคม แทน
วันเดียวกัน นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกเรื่อง “ภัยพิบัติกับสิทธิมนุษยชน” ถึงนายกรัฐมนตรี โดยตอนหนึ่งเสนอ ประชาชนควรมีสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องและรวดเร็วจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการภัยพิบัติ และรัฐต้องให้การปกป้อง คุ้มครองและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม เสมอภาค เท่าเทียม และเป็นธรรม โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้เมื่อมาถึงช่วงการพิจารณาโครงการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู ด้านสถานที่ราชการและระบบสาธารณูปโภคนั้น กองทัพอากาศได้เสนองบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 103 ล้านบาท สำหรับจัดซื้อชุดฝึกสำหรับนักบิน ซึ่งถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ดยได้จัดซื้อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง จึงต้องจัดหางบประมาณเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศเคยของบประมาณต่อกฟย.มาแล้วกว่า หนึ่งหมื่นล้านบาท แต่ถูกตัดออก จนเหลือเพียง 3,211 ล้านบาท ที่ประชุมเห้นว่า งบส่วนนี้คงต้องหั่นออกไปก่อน เพราะได้มีการพิจารณามาแล้วว่า การซื้อชุดนักบินนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน แต่ควรให้ไปหารือกับกฟย. ด้านสังคม แทน
วันเดียวกัน นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกเรื่อง “ภัยพิบัติกับสิทธิมนุษยชน” ถึงนายกรัฐมนตรี โดยตอนหนึ่งเสนอ ประชาชนควรมีสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องและรวดเร็วจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการภัยพิบัติ และรัฐต้องให้การปกป้อง คุ้มครองและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม เสมอภาค เท่าเทียม และเป็นธรรม โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ