ASTVผู้จัดการรายวัน- “ครรชิต” ยันไม่ส่งมอบปืน-รถให้ตำรวจสอบสวน โยนทนายดูแล ไม่ล็อบบี้ขอเอกสิทธิ์สส. “เฉลิม” ย้ำตร.ดำเนินการคดีตามพยานหลักฐาน ชี้ไม่ควรขอตัวที่รัฐสภา เหตุยังไงก็ได้เอกสิทธิ์ ส.ส. “มาร์ค”ซัด “เพื่อไทย”สองมาตรฐาน ให้เอกสิทธิ์ป้องแต่พวกตัวเอง
ที่รัฐสภา วานนี้ (12 ม.ค.55) นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สุมทรสาคร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากรณีนายอุดร ไกรวัตนุสรณ์ นายกฯอบ.จ.สมุทรสาครถูกสังหาร กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจเจ้าของคดีขอให้ส่งมอบปืนและรถกะบะเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานในคดียิง นายกฯอบจ.สมุทรสาครว่า ยืนยันว่าตนจะไม่นำอาวุธปืนและรถส่งให้ตำรวจตรวจ และถือเป็นหน้าที่ของทนายความผู้รับผิดชอบคดีนี้ที่จะว่าคดีในชั้นศาล ตนไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้เพราะเคยบอกแล้วว่าจะให้ปากคำในชั้นศาล และไม่ได้หลบหนีคดีโดยได้เดินทางเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี
ส่วนเรื่องการขอเอกสิทธิ์คุ้มครองจากสภาผู้แทนราษฎรนั้น ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของส.ส.แต่ละคน ซึ่งตนไม่ล็อบบี้หรือทำอะไร และก็ไม่ทราบว่า ส.ส.แต่ละคน จะยึดบรรทัดฐานเดิมที่สภาเคยปฏิบัติมา คือ การยืนยันให้เอกสิทธิ์คุ้มครองสมาชิกสภาฯหรือไม่ อย่างไร ก่อนที่จะขอตัวเข้าร่วมประชุมสภาฯ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จะทำจดหมายถามกรณี นายครรชิต ว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว แต่สำหรับเรื่องนี้ตำรวจจะต้องส่งเรื่องไปที่สภา ดังนั้นควรจะไปว่ากันที่สภาดีกว่า อย่าสร้างข่าว เล่นเกมการเมืองเลย และยังไม่เห็นตัวเรื่องที่ตำรวจขอตัวมา และทางเจ้าตัวก็ต้องมาพูดคุยกับพรรค แต่โดยปกติเมื่อตำรวจส่งเรื่องมาแล้วก็จะมีการเรียกประชุมส.ส. ของพรรคเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป โดยปกติเราก็จะฟังจากเจ้าตัว และหลายกรณีที่ผ่านมาเจ้าตัวก็บอกเองว่าเขาไม่ประสงค์จะใช้เอกสิทธิ์ก็สนองตอบความต้องการของเจ้าตัว
“แต่ที่แปลกใจคือจะทำหนังสือถึงผมเรื่องอะไรหรือจะให้พรรคประชาธิปัตย์ทำหนังสือถึงคุณพร้อมพงศ์บ้างว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันบอกว่าทุกกรณีนั้นห้ามส่งคนไปดำเนินคดี เหมือนในอดีตกรณีส.ส.รังสิมา รอดรัศมี ที่ถูกฟ้อง เจ้าตัวขอไปสู้คดี ไม่ใช้เอกสิทธิ์ แต่พรรคเพื่อไทยลงมติให้เอาไปดำเนินคดีเลย แต่พอกลุ่มของนายจตุพร พรหมพันธ์ และงใครต่อใครที่มีคดีก่อการร้าย แต่พรรคเพื่อไทยกลับไม่ยอม ผมว่าน่าจะเขียนจดหมายถามตัวเองมากกว่าว่าสับสนหรือเปล่า”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวพร้อมระบุว่าจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งก็ถือเป็นการใช้เอกสิทธิความเป็น ส.ส. ทั้งนี้ตนได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะต้องมีการดำเนินการในเรื่องนี้ตามพยานหลักฐาน และไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นทางการเมือง
ในส่วนการทำหนังสือเพื่อขอตัวนายครรชิตไปดำเนินคดีนั้นตนเห็นว่า ไม่สมควรที่จะมีการทำหนังสือของตัว เพราะเจ้าตัวก็ได้เข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ จะขอตัวทำไม เว้นแต่ทางเจ้าหน้าที่เห็นว่า พยานหลักฐานมีความชัดเจน สมควรส่งเรื่องให้อัยการสั่งฟ้องจึงค่อยทำหนังสือเพื่อขอตัวไปดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตามตนยังได้กำชับเจ้าหน้าที่มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาอย่ามองว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล
ด้าน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือขอตัวนายครรชิต เพื่อดำเนินคดี ในส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าไม่สมควรที่จะทำหนังสือขอตัวนายครรชิตไปดำเนินคดีนั้น ก็แล้วแต่ แต่หากมีการส่งหนังสือมาตนก็จะบรรจุเป็นวาระการประชุม.
ที่รัฐสภา วานนี้ (12 ม.ค.55) นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สุมทรสาคร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากรณีนายอุดร ไกรวัตนุสรณ์ นายกฯอบ.จ.สมุทรสาครถูกสังหาร กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจเจ้าของคดีขอให้ส่งมอบปืนและรถกะบะเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานในคดียิง นายกฯอบจ.สมุทรสาครว่า ยืนยันว่าตนจะไม่นำอาวุธปืนและรถส่งให้ตำรวจตรวจ และถือเป็นหน้าที่ของทนายความผู้รับผิดชอบคดีนี้ที่จะว่าคดีในชั้นศาล ตนไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้เพราะเคยบอกแล้วว่าจะให้ปากคำในชั้นศาล และไม่ได้หลบหนีคดีโดยได้เดินทางเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี
ส่วนเรื่องการขอเอกสิทธิ์คุ้มครองจากสภาผู้แทนราษฎรนั้น ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของส.ส.แต่ละคน ซึ่งตนไม่ล็อบบี้หรือทำอะไร และก็ไม่ทราบว่า ส.ส.แต่ละคน จะยึดบรรทัดฐานเดิมที่สภาเคยปฏิบัติมา คือ การยืนยันให้เอกสิทธิ์คุ้มครองสมาชิกสภาฯหรือไม่ อย่างไร ก่อนที่จะขอตัวเข้าร่วมประชุมสภาฯ
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จะทำจดหมายถามกรณี นายครรชิต ว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว แต่สำหรับเรื่องนี้ตำรวจจะต้องส่งเรื่องไปที่สภา ดังนั้นควรจะไปว่ากันที่สภาดีกว่า อย่าสร้างข่าว เล่นเกมการเมืองเลย และยังไม่เห็นตัวเรื่องที่ตำรวจขอตัวมา และทางเจ้าตัวก็ต้องมาพูดคุยกับพรรค แต่โดยปกติเมื่อตำรวจส่งเรื่องมาแล้วก็จะมีการเรียกประชุมส.ส. ของพรรคเพื่อกำหนดท่าทีต่อไป โดยปกติเราก็จะฟังจากเจ้าตัว และหลายกรณีที่ผ่านมาเจ้าตัวก็บอกเองว่าเขาไม่ประสงค์จะใช้เอกสิทธิ์ก็สนองตอบความต้องการของเจ้าตัว
“แต่ที่แปลกใจคือจะทำหนังสือถึงผมเรื่องอะไรหรือจะให้พรรคประชาธิปัตย์ทำหนังสือถึงคุณพร้อมพงศ์บ้างว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันบอกว่าทุกกรณีนั้นห้ามส่งคนไปดำเนินคดี เหมือนในอดีตกรณีส.ส.รังสิมา รอดรัศมี ที่ถูกฟ้อง เจ้าตัวขอไปสู้คดี ไม่ใช้เอกสิทธิ์ แต่พรรคเพื่อไทยลงมติให้เอาไปดำเนินคดีเลย แต่พอกลุ่มของนายจตุพร พรหมพันธ์ และงใครต่อใครที่มีคดีก่อการร้าย แต่พรรคเพื่อไทยกลับไม่ยอม ผมว่าน่าจะเขียนจดหมายถามตัวเองมากกว่าว่าสับสนหรือเปล่า”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวพร้อมระบุว่าจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งก็ถือเป็นการใช้เอกสิทธิความเป็น ส.ส. ทั้งนี้ตนได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะต้องมีการดำเนินการในเรื่องนี้ตามพยานหลักฐาน และไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นทางการเมือง
ในส่วนการทำหนังสือเพื่อขอตัวนายครรชิตไปดำเนินคดีนั้นตนเห็นว่า ไม่สมควรที่จะมีการทำหนังสือของตัว เพราะเจ้าตัวก็ได้เข้ามอบตัวแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ จะขอตัวทำไม เว้นแต่ทางเจ้าหน้าที่เห็นว่า พยานหลักฐานมีความชัดเจน สมควรส่งเรื่องให้อัยการสั่งฟ้องจึงค่อยทำหนังสือเพื่อขอตัวไปดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตามตนยังได้กำชับเจ้าหน้าที่มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาอย่ามองว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล
ด้าน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือขอตัวนายครรชิต เพื่อดำเนินคดี ในส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าไม่สมควรที่จะทำหนังสือขอตัวนายครรชิตไปดำเนินคดีนั้น ก็แล้วแต่ แต่หากมีการส่งหนังสือมาตนก็จะบรรจุเป็นวาระการประชุม.
