ASTVผู้จัดการรายวัน - จับตาหลัง “ศุภรัตน์ ” อดีตปลัดคลัง ได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เหลืออายุราชการอีก 1 ปี รอลุ้นนั่งปลัดคลัง!
กรณีที่นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ได้รับพระราชทานอภัยโทษทางวินัย กรณีถูกไล่ออกจากราชการตามคำกล่าวโทษของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปัญญา ฉายะจินดาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงการคลังได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในกระทรวงการคลังที่มีการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ที่ถูกไล่ออกจากราชการกรณีความผิดร้ายแรง ดังนั้น ทางกระทรวงการคลังจึงต้องปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติตามแนวทางที่ได้รับนายศุภรัตน์ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ต่อไป
“ถือเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้น เราเองก็ไม่มีระเบียบรองรับว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ตอนนี้ส่งหนังสือไปยัง ก.พ.และกฤษฎีกาแล้ว ซึ่งคงได้รับคำตอบในไม่ช้าเนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องพิจารณา ซึ่งหากมีหนังสือตอบกลับถึงแนวทางการปฏิบัติเราก็จะต้องส่งเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการตามความเห็นที่ส่งมาโดยเร็ว” นายปัญญากล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การพระราชทานอภัยโทษนายศุภรัตน์ในครั้งนี้ถือว่ามีความครอบคลุมหมดทั้งโทษทางอาญา โทษทางวินัย และโทษอื่นด้วย ดังนั้น กระทรวงการคลังต้องมีปัญหาในการดำเนินการอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางกฤษฎีกาและ ก.พ.จะตีความและเสนอคำแนะนำในการปฏิบัติตามคำสั่งพระราชทางอภัยโทษดังกล่าวโดยใช้ระยะเวลายาวนานเพียงใด หากมีคำสั่งมาก่อนที่นายศุภรัตน์จะเกษียณอายุราชการ (ต.ค.55) ก็คงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในการจัดสรรตำแหน่งแน่นอน แต่หาก ก.พ.และกฤษฎีกาส่งเรื่องมาช้าจะถึงช่วงที่นายศุภรัตน์เกษียณอายุก็คงไม่มีปัญหามากนัก
“ตอนนี้ต้องรอดูว่าการดำเนินการของ ก.พ.และกฤษฎีกาจะเร็วแค่ไหน หากเร็วก่อนที่นายศุภรัตน์เกษียณอายุก็คงวุ่นวายในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่านายศุภรัตน์จะตัดสินใจลาออกหลังกลับเข้ามารับตำแหน่งใหม่หรือไม่เพื่อให้เรื่องราวต่างๆ คลี่คลายลงไปด้วยดี หรือหากเรื่องจบช้าหลังนายศุภรัตน์เกษียณอายุราชการก็คงให้สิทธิประโยชน์ทั้งหลายต่างๆ ตามที่ควรได้รับคืนทั้งหมดตั้งแต่ถูกไล่ออกจากราชการ” แหล่งข่าวระบุ
กรณีที่นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ได้รับพระราชทานอภัยโทษทางวินัย กรณีถูกไล่ออกจากราชการตามคำกล่าวโทษของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปัญญา ฉายะจินดาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงการคลังได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในกระทรวงการคลังที่มีการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ที่ถูกไล่ออกจากราชการกรณีความผิดร้ายแรง ดังนั้น ทางกระทรวงการคลังจึงต้องปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติตามแนวทางที่ได้รับนายศุภรัตน์ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ต่อไป
“ถือเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้น เราเองก็ไม่มีระเบียบรองรับว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ตอนนี้ส่งหนังสือไปยัง ก.พ.และกฤษฎีกาแล้ว ซึ่งคงได้รับคำตอบในไม่ช้าเนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องพิจารณา ซึ่งหากมีหนังสือตอบกลับถึงแนวทางการปฏิบัติเราก็จะต้องส่งเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการตามความเห็นที่ส่งมาโดยเร็ว” นายปัญญากล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การพระราชทานอภัยโทษนายศุภรัตน์ในครั้งนี้ถือว่ามีความครอบคลุมหมดทั้งโทษทางอาญา โทษทางวินัย และโทษอื่นด้วย ดังนั้น กระทรวงการคลังต้องมีปัญหาในการดำเนินการอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางกฤษฎีกาและ ก.พ.จะตีความและเสนอคำแนะนำในการปฏิบัติตามคำสั่งพระราชทางอภัยโทษดังกล่าวโดยใช้ระยะเวลายาวนานเพียงใด หากมีคำสั่งมาก่อนที่นายศุภรัตน์จะเกษียณอายุราชการ (ต.ค.55) ก็คงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในการจัดสรรตำแหน่งแน่นอน แต่หาก ก.พ.และกฤษฎีกาส่งเรื่องมาช้าจะถึงช่วงที่นายศุภรัตน์เกษียณอายุก็คงไม่มีปัญหามากนัก
“ตอนนี้ต้องรอดูว่าการดำเนินการของ ก.พ.และกฤษฎีกาจะเร็วแค่ไหน หากเร็วก่อนที่นายศุภรัตน์เกษียณอายุก็คงวุ่นวายในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่านายศุภรัตน์จะตัดสินใจลาออกหลังกลับเข้ามารับตำแหน่งใหม่หรือไม่เพื่อให้เรื่องราวต่างๆ คลี่คลายลงไปด้วยดี หรือหากเรื่องจบช้าหลังนายศุภรัตน์เกษียณอายุราชการก็คงให้สิทธิประโยชน์ทั้งหลายต่างๆ ตามที่ควรได้รับคืนทั้งหมดตั้งแต่ถูกไล่ออกจากราชการ” แหล่งข่าวระบุ