xs
xsm
sm
md
lg

"เครื่องกรองน้ำ"ตีปีกหลังน้ำลด เร่งปั้นแบรนด์-เพิ่มผลิต-ขยายตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -ตลาดเครื่องกรองน้ำรับอานิสงส์หลังปัญหาน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย คาดปีหน้าการแข่งขันสูง “โคเวย์”มุ่งโมเดิร์นเทรด “H2o” รุกตลาดไซซ์เล็ก “มาซูม่า”เพิ่มกำลังการผลิต “คามาร์ซิโอ” เร่งสร้างแบรนด์เต็มสูบ

นายอิทธิพล ลี้ลับ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท วงจิน โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องกรองน้ำช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมใความต้องการสูงขึ้นมากกว่าช่วงปกติ 30% โดยในส่วนของโคเวย์นั้น พบว่า เครื่องกรองน้ำแบบฉุกเฉิน ไม่ต้องใช้ไฟ ราคาประมาณ 6,900 บาท ที่มีจำหน่ายเฉพาะในช่องทางโมเดิร์นเทรด เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดเติบโต 30-40%

ส่วนกลุ่มเครื่องกรองอากาศที่มีราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป จำหน่ายในช่องทางระบบขายตรง ทั้งแบบขายเช่าและขายขาดนั้น พบว่า มียอดขายเติบโตจากช่วงเวลาปกติถึง 30% เช่นกัน หากไม่มีปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้น ภาพรวมรายได้ของโคเวย์น่าจะสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดได้ถึง 30% แต่หลังจากมีปัญหานี้เกิดขึ้นแล้ว ทำให้เกิดอุปสรรคในการทำการขาย และเข้าถึงลูกค้า ดังนั้นในปีนี้มองว่าโคเวย์น่าจะมีส่วนแบ่ง 20%เท่านั้น

สำหรับสินค้าของโคเวย์นั้น เป็นการผลิตและนำเข้าทั้งหมดมาจากประเทศเกาหลี ปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทเข้ามารุกตลาดในกลุ่มขายเช่า ถือเป็นรายแรกของตลาดที่เข้ามารุกในช่องทางนี้ ทั้งนี้จากกระแสความต้องการเครื่องกรองน้ำในช่วง 1-2 เดือนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนั้น ทางโคเวย์ยังสามารถนำส่งสินค้าได้ตามความต้องการของผู้บริโภคได้ดีอยู่

“ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทเข้ามาทำตลาดเครื่องกรองน้ำอย่างจริงจัง หวังส่วนแบ่งทางการตลาด 30% จากปีก่อนเป็นการเข้ามาทดลองทำตลาดเท่านั้น มีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก ขณะที่สองปีนี้บริษัทเจอผลกระทบ 2 ด้านหลักๆ คือ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และปัญหาน้ำท่วมหนัก จึงทำให้เป้าหมายของส่วนแบ่งทางการตลาดน่าจะทำได้เพียง 20% เท่านั้น” นายอิทธิพล กล่าว

***เอชทูโอต่ำกว่าเป้า
นายไพฑูรย์ โตวรวิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชทูโอ ไลฟ ซอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ H2oของKYK Alkaline Water Ionizer กล่าวว่า สำหรับเครื่องกรองน้ำ H2o ถือเป็นสินค้าคนละกลุ่มกับพวกเครื่องกรองน้ำทั่วไปที่มีความต้องการสูงมากในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เนื่องจากว่า H2o เป็นเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ เพื่อสุขภาพ มีราคาค่อนข้างสูงกว่าเครื่องกรองน้ำแบบปกติถึง 5 เท่า หรือราคาประมาณ 89,000 บาท ต่อเครื่อง และจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อการทำงานด้วย จึงไม่เหมาะแก่สภาพปัญหาน้ำท่วมนัก

ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในช่วงน้ำท่วม หรือช่วงเวลาปกติ ยอดขายของH2o จึงไม่ได้แตกต่างกันนัก ขณะที่ปีนี้บริษัทเพิ่งจะเริ่มรุกตลาดอย่างจริงจัง หลังได้เริ่มเปิดตัวมาตั้งแต่ปี2553 ที่ผ่านมา ปีนี้ถือเป็นปีที่2 ของการทำตลาด เฉลี่ยยอดขายต่อเดือนทำได้ราว 20-30 เครื่อง ถึงสิ้นปีนี้ มองว่ายอดขายอาจจะต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ หรือมองว่าน่าจะทำได้ที่ 20 ล้านบาท จากเป้า 30 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 12 ล้านบาท

ยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าเกิดจากแผนการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์และการสร้างแบรนด์ ที่ยังใช้เงินน้อยเกินไป ปีนี้ใช้เพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น ในปีหน้าจะใช้งบการตลาดมากยขึ้น เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นเล็กที่มีราคาต่ำลง ราคาประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อเครื่อง เจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น มองว่าจะมียอดขายต่อเดือน 40-50 เครื่อง

***มาซูม่าบุกหนักหวังโต35%ปีหน้า***
นายวฤธ ดุรงค์เดช รองกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่าย Supply Chain และ IT บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อน ตู้น้ำดื่ม ปั้มน้ำ และผลิตภัณฑ์ระบบจัดการน้ำคุณภาพแบบครบวงจร แบรนด์ “มาซูม่า” เปิดเผยว่า ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เชื่อว่าตลาดเครื่องกรองน้ำเติบโตสูงมาก ในส่วนของมาซูม่า ก็มีดีมานด์เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่เนื่องจากโรงงานที่ลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานีเจอน้ำท่วม ทำให้ต้องหยุดผลิตสินค้าไปกว่า 2 อาทิตย์ สูญเสียโอกาสทางการขายไปราว 5-10 ล้านบาท แต่คาดว่า กลุ่มเครื่องกรองน้ำจะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น หรือในสิ้นปีนี้ บริษัทจะมีรายได้อยู่ที่280 ล้านบาท มาจากกลุ่มเครื่องกรองน้ำ 50% และเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน 50%

ปีหน้าบริษัทวางงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 25% เป็น 1.4 แสนเครื่องจากปีละ 1 แสนเครื่อง และใช้สร้างแบรนด์ มาซูม่า ในรอบ 20 ปี โดยมีเจนเนอร์เรชั่นรุ่น 2 คือ “ไข่มุก-ชุติมา ดุรงค์เดช” มาเป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักสำหรับกลุ่มลูกค้าโฮมยูสเซอร์ พร้อมรุกสินค้าในกลุ่มเครื่องกรองน้ำเต็มกำลัง หลังพบตลาดดังกล่าวมีความต้องการสูงขึ้นและมีต่อเนื่อง ภายหลังจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วม มั่นใจว่าจะทำให้รายได้รวมในปี 2555 เติบโตขึ้นได้กว่า 35% คิดเป็นรายได้รวมกว่า 378 ล้านบาท มาจากเครื่องกรองน้ำ 60% และเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน 40%

***คามาร์ซิโอ เร่งสร้างแบรนด์*
นางสุภาพร สนธิจิรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด หรือ Sbo ผู้นำเข้าและทำตลาดเครื่องกรองน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่น ภายใต้แบรนด์ ‘คามาร์ซิโอ’ (Camarcio) เปิดเผยว่า หลังจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นได้ขยายวงกว้างในหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้อย่างหนัก ขณะเดียวกัน ยังเกิดความวิตกกังวลต่อคุณภาพของน้ำประปา ที่มีคุณภาพลดลงทั้งสีและกลิ่น จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวในเรื่องของการจัดหาน้ำสะอาดไว้เพื่ออุปโภคบริโภค ซึ่งทำให้ความต้องการเครื่องกรองน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดขายเครื่องกรองน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเครื่องกรองน้ำที่มีระบบ Ultrafiltration (UF) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มาตามท่อประปารวมถึงโลหะหนัก คลอรีน สารอินทรีย์อื่นๆ และสารปนเปื้อนในน้ำประปาที่มีมากกว่า 2,000 ชนิด

ดังนั้นบริษัทจึงได้เร่งทำตลาดเครื่องกรองน้ำดื่มน้ำใช้ แบรนด์ “คามาร์ซิโอ” เพื่อผลักดันยอดขาย โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นที่ต้องการของตลาด ได้แก่ เครื่องกรอง น้ำดื่ม “คามาร์ซิโอ” รุ่น UF 002 SB โดยจะวางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท, เครื่องกรองน้ำใช้ รุ่น CM003 B วางจำหน่ายในราคา 8,590 บาท คาดว่าจะผลักดันให้ยอดขายของแบรนด์ “คามาร์ซิโอ” เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 150 ล้านบาทได้
กำลังโหลดความคิดเห็น