ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักวิเคราะห์คาดปี 2555 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคใต้สดใสต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากราคายางพาราที่สูงขึ้นและเม็ดเงินสะพัดจากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ เทรนด์คอนโดมิเนียมมาแรง โดยเฉพาะใน อ.หาดใหญ่ มีคอนโดมิเนียมจ่อผุดขึ้นในย่านเศรษฐกิจแล้วไม่ต่ำกว่า 15 อาคาร
จากรายงานภาวะอสังหาริมทรัพย์ในภาคใต้ ไตรมาสที่ 3 ปี 2554 ของส่วนเศรษฐกิจภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ พบว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ภาวะอสังหาริมทรัพย์ของภาคใต้โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดัชนีอสังหาริมทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 80.6 เนื่องจากรายได้ของผู้ซื้อยังอยู่ในระดับสูง จำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่และจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการยังคงเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ปริมาณการขายลดลงจากไตรมาสก่อน จากการแข่งขันและราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ จำนวนที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม และยังไม่มีภาวะโอเวอร์ซัพพลายแต่อย่างใด
สำหรับวัตถุประสงค์ในการซื้อที่อยู่อาศัยโดยรวมทั่วทั้งภาคใต้ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยเอง ซึ่งกำลังซื้อส่วนหนึ่งเป็นผู้ซื้อที่อยู่ในอำเภอรอบนอกและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งผู้ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าเกษตร เช่น ยางพาราและปาล์มน้ำมัน และผู้ที่ต้องการจัดหาที่อยู่อาศัยในตัวเมืองให้บุตรหลานอาศัยเพื่อศึกษาต่อในเมืองต่างๆ ที่มีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงและทันสมัย ประกอบกับภาวะการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้มากถึง 4.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 24.1 % ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามลำดับด้วย
จากการสำรวจโดยรวมพบว่า ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาที่อยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ สำหรับลูกค้าระดับล่าง-กลาง มากขึ้น ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทบ้านแฝดและอาคารพาณิชย์มีภาวะที่ทรงตัว ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวลดลง
สำหรับในส่วนของ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ตอนล่าง นายธนวัตน์ พูนศิลป์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในปี 2555 ทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน จ.สงขลา จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นปีทองของวงการบ้านและที่พักอาศัย มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นใน อ.หาดใหญ่ และใน จ.สงขลา รวมกันไม่ต่ำกว่าร้อยโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ ประมาณ 5,000 หน่วย และมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 15 อาคาร จำนวนรวมไม่น้อยกว่า 2,000 หน่วย ได้แก่ ดิ แอททรีบิวท์ คอนโด, Prompt condominium, ไอบี เพลส, ซิตี้โฮมหาดใหญ่ โดย ศุภาลัย และโครงการ THE FIRST / THE SECOND เป็นต้น
“คอนโดมีเนียมจะกระจุกตัวอยู่ในเขตเมือง ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นหนุ่มสาวสมัยใหม่ หรือผู้ที่ต้องการพักอาศัยใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก ส่วนบ้านเดี่ยวมีบริเวณ บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์นั้น ผู้บริโภคก็ยังคงต้องการอยู่ แต่ประเภทหลังนี้จะขยายตัวออกไปทางสนามบินหาดใหญ่ หรือทางสงขลามากกว่า
ทั้งนี้ ทำเลสำคัญของโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน อ.หาดใหญ่ ในปีหน้า จะเป็นแนวถนนกาญจนวนิช จากสี่แยกโปะหมอ บ้านพรุ เรื่อยมาจนถึงบริเวณหน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ โดยเฉพาะที่ดินและโครงการบ้านบริเวณใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และโฮมโปรแห่งใหม่ ยังเป็นทำเลทอง ราคาสูง ส่วนถนนปุณณกัณฑ์ ความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยมีเพิ่มขึ้น โดยจะมีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นอย่างน้อย 7 อาคาร รวมเกือบ 1,000 ห้อง” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดสงขลา กล่าว
ขณะเดียวกัน จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นปัตตานี ก็มีการลงทุนครั้งใหญ่ ก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภท Community Mall รวมที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมและศูนย์การค้าเข้าด้วยกัน ภายใต้ชื่อ “ปัตตานี เพลส” ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 4 อาคาร รวมกว่า 250 ห้อง และมียอดจองเต็มทั้งหมดแล้ว
นายอิบรอเฮ็ง เจะอาลี ประธานกรรมการ บริษัท ดีอาร์เอส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เจ้าของโครงการ “ปัตตานี เพลส” เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นชาวปัตตานีโดยกำเนิด เห็นเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นแล้วอยากใช้ธุรกิจเป็นตัวนำในการแก้ปัญหาดังกล่าว บนพื้นฐานของจริยธรรมที่สามารถตอบแทนสังคมได้ จึงทำโครงการ “ปัตตานี เพลส” ขึ้น เดิมทีต้องการสร้างเป็นศูนย์การค้าแหล่งรวมโรงเรียนกวดวิชา เนื่องจากหากต้องการที่เรียนพิเศษ และที่จับจ่ายซื้อของ ชาวปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียงก็มุ่งหน้าสู่ อ.หาดใหญ่ เป็นหลัก แต่เนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการทำโครงการนั้น จึงพัฒนามาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมและศูนย์การค้า ในเนื้อที่รวม 10 ไร่ ใกล้กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และปรากฏว่าผลตอบรับนั้นดีเกินคาด แม้จะเป็นคอนโดมิเนียมซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวปัตตานี
นอกจากนี้ นายอิบรอเฮ็ง เจะอาลี ประธานกรรมการ บริษัท ดีอาร์เอส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ก็ยังทุ่มเงินลงทุนก่อสร้างโครงการ “ไอบี เพลส” คอนโดมิเนียม จำนวน 198 ห้อง ย่านถนนปุณณกัณฑ์ ซึ่งเป็นทำเลทองของ อ.หาดใหญ่ อีกด้วย แม้จะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่สำหรับเมืองหาดใหญ่ แต่โครงการ “ไอบี เพลส” ดังกล่าวก็ค่อนข้างไปได้สวยกว่าโครงการอื่นๆ ที่เปิดตัวก่อนหน้า ด้วยยอดจองกว่า 80% หลังจากเปิดตัวโครงการได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปัจจัยบวกสำคัญที่ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน จ.สงขลา และทั่วทั้งภาคใต้ขยายตัว คือ ราคายางพารายังอยู่ในระดับสูง ถึงแม้ราคาจะตกลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่ราคาก็ปรับขึ้นตามลำดับในช่วงเดือนธ.ค. และมีโอกาสจะปรับขึ้นไปอยู่ในระดับราคากิโลกรัมละ 120-140 บาทในปี 2555 และภาวะการท่องเที่ยวที่ดี ซึ่งส่งผลทำให้เม็ดเงินสะพัด และประชาชนมีอำนาจซื้อมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของภาคใต้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า จะยังมีแนวโน้มดีขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยราคาที่อยู่อาศัย ราคาที่ดิน และต้นทุนการก่อสร้างจะสูงขึ้นก็ตาม แต่ที่อยู่อาศัยจะมีแนวโน้มดีขึ้นทุกประเภท ทั้งทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ และบ้านแฝด
โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียมที่ราคาไม่สูงมากยังเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อระดับล่างและระดับกลาง ประกอบกับที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมเริ่มเข้ามามีบทบาทแทนที่ที่อยู่อาศัยในแนวราบมากยิ่งขึ้น ทั้งจากปัญหาราคาที่ดินแพง และจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คือต้องการที่อยู่ขนาดกะทัดรัด ดูแลง่าย และไม่ไกลจากย่านเศรษฐกิจ คอนโดมิเนียมจึงถือเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง