xs
xsm
sm
md
lg

ที่สุดแห่งปี 54 โพลยี้นักการเมืองโกง งง!คนชอบ"ยิ่งลักษณ์-เหลิม"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอแบคโพล เผยผลสำรวจ ที่สุดแห่งคนการเมืองปี 54 พบฝ่ายรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์-เหลิม"เป็นที่ชื่นชอบ ส่วนฝ่ายค้านคือ "อภิสิทธิ์-ชูวิทย์ " ยี้พฤติกรรมนักการเมืองขี้ฉ้อ ปี 55 หวังบ้านเมืองสงบสุข คนไทยรักกัน

สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "ที่สุดแห่งคนการเมืองปีที่ผ่านมา และความหวัง ความกลัวของประชาชนในปีใหม่นี้" กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,149 ตัวอย่าง โดยดำเนินการวิจัยข้อมูลในช่วง 20 - 31 ธ.ค.54 พบว่า

นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบที่สุดแห่งปี 2554 อันดับแรกหรือร้อยละ 77.7 ระบุเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รองลงมาอันดับที่สองได้แก่ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ร้อยละ 13.9 และรอง ลงไปได้แก่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ตามลำดับ

นักการเมืองฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบที่สุดแห่งปี 2554 อันดับแรก หรือร้อยละ 74.9 ระบุเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมาอันดับสองคือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้ร้อยละ 16.7 และรองๆ ลงไปได้แก่ นายชวน หลีกภัย และ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตามลำดับ

ส่วนพฤติกรรมของข้าราชการ และนักการเมืองที่ประชาชน “ไม่ชอบหรือ ยี้” ในรอบปี 2554 พบว่า ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 79.0 ระบุ เป็นการทุจริตคอร์รัปชัน การฮั้วประมูล และการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ รองลงไปคือ ร้อยละ 55.6 ระบุ บริการไม่ดี ก้าวร้าว พูดจาไม่สุภาพ และ ร้อยละ 54.6 ระบุ แบ่งพรรค แบ่งพวก เห็นแก่ตัว เบียดเบียนประชาชน ร้อยละ 52.3 ทำงานช้า ร้อยละ 52.1 ใช้อิทธิพล วางอำนาจ และ รองๆลงไปคือ เลือกปฏิบัติ ชู้สาว ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ความไม่สามัคคี และไม่มีความรับผิดชอบ ตามลำดับ

ส่วนพฤติกรรมของข้าราชการ และนักการเมืองที่ประชาชน “ชื่นชอบ และอยากเห็น” ในปี 2555 พบว่า ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 70.4 ระบุซื่อสัตย์ สุจริต ในขณะที่รองลงไปคือ ร้อยละ 65.9 ระบุ ขยัน ตั้งใจทำงาน พูดจริงทำจริง ร้อยละ 64.0 เอาใจใส่ประชาชนมากกว่านี้ ร้อยละ61.1 ใช้ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย และรองๆ ลงไปได้แก่ รับผิดชอบต่อสังคมให้มากขึ้น เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน มีมารยาท ความสามัคคี การปราบปรามยาเสพติด ให้ความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เห็นแก่ตัว ให้เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ตามลำดับ

เมื่อถามถึงความหวัง และความกลัวในปีใหม่ 2555 นี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 53.8 เริ่มมีความหวังที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในปีใหม่นี้ ในขณะที่ร้อยละ 46.2 มีความกลัวต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า

ทั้งนี้ ในกลุ่มคนที่มีความหวัง 5 อันดับแรก ของความหวังของคนไทย ได้แก่ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 82.9 หวังว่าบ้านเมืองจะสงบสุข คนไทยรักกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลมีไมตรีจิตต่อกัน รองลงมาคือ ร้อยละ 73.5 หวังว่ารัฐบาลจะทำตามนโยบายหาเสียง ค่าจ้างแรงงาน 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรีเริ่ม 15,000 บาท บัตรเครดิตชาวนา บัตรเครดิตพลังงาน เป็นต้น ร้อยละ 62.8 หวังว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้น ร้อยละ 60.1 หวังว่าจะมีความเป็นธรรมทางสังคม ไม่เลือกปฏิบัติ และร้อยละ 59.3 หวังจะได้สังคมที่มีคุณภาพดีขึ้น ตามลำดับ

ส่วนในกลุ่มคนที่มีความกลัว พบ 5 อันดับแรกของประเภทความกลัว ได้แก่ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 80.7 กลัวความวุ่นวาย แตกแยกรุนแรงของคนในชาติ รองลงมาคือ ร้อยละ 71.0 กลัวปัญหาราคาสินค้าสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ ร้อยละ 68.3 กลัวภัยธรรมชาติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ร้อยละ 65.9 กลัวอาชญากรรมและยาเสพติด และร้อยละ 63.3 กลัวปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ตามลำดับ

เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อประเด็นสำคัญทางการเมืองด้านต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 66.8 เชื่อมั่นว่าบรรดาแกนนำพรรคไทยรักไทย บ้านเลขที่ 111 จะกลับมาทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากกว่ารัฐมนตรีชุดปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.4 ไม่เชื่อมั่นว่า บรรดานักการเมืองและข้าราชการยุคนี้จะซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกง และร้อยละ 56.1 ไม่เชื่อมั่นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือการแก้ปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ

ยิ่งไปกว่านั้น เกือบครึ่งหรือร้อยละ 48.7 ยังคิดว่า ความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองในปีใหม่นี้ จะแตกแยกรุนแรงมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 33.9 คิดว่าจะเหมือนเดิม และร้อยละ 17.4 คิดว่า จะลดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น