ASTVผู้จัดการรายวัน - ยิ่งใกล้เทศกาลวันหยุด หุ้นไทยไม่ค่อยขยับ ปรับตัวลดลง 0.19 จุด ตามตลาดอื่นๆในภูมิภาค เหตุไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาผลักดัน โบรกฯคาดแกว่งตัวในกรอบแคบไปจนถึงวันศุกร์
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (28ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 1,028.19 จุด ลดลง 0.19 จุด หรือ -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 9,707.74 ล้านบาท ระหว่างวันแตะจุดสูงสุด ที่ระดับ 1,028.94 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,023.10 จุด ตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกับต่างประเทศ เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีและไม่มีปัจจัยสำคัญเข้ามา นักลงทุนจึงไปรอเข้าเล่นใหม่ในปีหน้า
โดยหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 170 หลักทรัพย์ ลดลง 251 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 168 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,061.98 ล้านบาท ปิดที่ 88.00 บาท ลดลง 0.25 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 436.44 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 397.08 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท ลดลง 3.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 368.99 ล้านบาท ปิดที่ 317.00 บาท ลดลง 1.00 บาท และIRPC มูลค่าการซื้อขาย 319.32 ล้านบาท ปิดที่ 4.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท
ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค พบว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดอ่อนตัวลง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง หลังจากที่ตลาดผิดหวังกับข้อมูลเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยอ่อนตัว 51.60 จุด ปิดที่ 4,088.80 จุด
ขณะที่ ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดลดลง สอดคล้องตลาดหุ้นในภูมิภาค ท่ามกลางการซื้อขายเบาบางช่วงปลายปี
โดยลบ 28.36 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 7,056.67 จุด , ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ16.94 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 8,423.62 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย หลังจากมีรายงานว่า เกาหลีเหนือจัดพิธีฝังศพนายคิม จอง อิล
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วง 0.92% หรือ 16.9 จุด แตะ 1,825.12 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูง หลังจากรอบการจ่ายเงินปันผลของบริษัทเหล่านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่เงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ , ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายเบาบาง โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและหลักทรัพย์ที่ดีดตัวขึ้น โดยขยับขึ้น 3.81 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 2,170 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นดีดขึ้น 28.18 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 8,739.73 จุด และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลง โดยการนำของหุ้นกลุ่มธนาคารจีน เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองหุ้น ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนสิ้นปี ซึ่งปิดลบ 110.5 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 18,518.67 จุด
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เงียบเหงา โดยแกว่งตัวในกรอบแคบๆเช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีและไม่ได้มีปัจจัยสำคัญเข้ามา นักลงทุนคงไปรอเล่นใหม่ในปีหน้า จึงแนะนำให้ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ของสหรัฐฯและดัชนีความเชื่อมั่นของเยอรมนี ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกเล็กๆให้กับตลาดฯช่วงวันศุกร์ ส่วนการทำรายการปิดงวดบัญชีสิ้นปี(Window Dressing)คิดว่าคงไม่มี เพราะดัชนีฯปรับตัวขึ้นมาพอสมควรแล้ว ช่วงนี้นักลงทุนก็จ้องจะขายทำกำไรมากกว่า
โดยแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(29 ธ.ค.) คาดว่า ดัชนีคงแกว่งตัวในกรอบแคบไปจนถึงวันศุกร์ พร้อมให้แนวรับ 1,020 จุด แนวต้าน 1,035 และ 1,040 จุด
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลุยทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเงียบเหงา และปริมาณการซื้อขายเบาบางต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนเพราะใกล้วันหยุดยาวปีใหม่ รวมถึงได้รับผลกระทบทางจิตวิทยาจากการที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลง
ส่วนแนวโน้มวันนี้(29 ธ.ค.)ดัชนียังแกว่งในกรอบแคบ และปริมาณการซื้อขายเบาบาง เพราะนักลงทุนจะชะลอการลงทุนต่อเนื่อง หลังใกล้เทศกาลหยุดปีใหม่ อีกทั้งบางส่วนจะรอดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ โดยประเมินแนวรับที่ 1,018-1,020 จุด และแนวต้าน 1,030 จุด ด้านกลยุทธ์ แนะนำรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (28ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 1,028.19 จุด ลดลง 0.19 จุด หรือ -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 9,707.74 ล้านบาท ระหว่างวันแตะจุดสูงสุด ที่ระดับ 1,028.94 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,023.10 จุด ตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกับต่างประเทศ เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีและไม่มีปัจจัยสำคัญเข้ามา นักลงทุนจึงไปรอเข้าเล่นใหม่ในปีหน้า
โดยหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 170 หลักทรัพย์ ลดลง 251 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 168 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,061.98 ล้านบาท ปิดที่ 88.00 บาท ลดลง 0.25 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 436.44 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 397.08 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท ลดลง 3.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 368.99 ล้านบาท ปิดที่ 317.00 บาท ลดลง 1.00 บาท และIRPC มูลค่าการซื้อขาย 319.32 ล้านบาท ปิดที่ 4.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท
ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค พบว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดอ่อนตัวลง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง หลังจากที่ตลาดผิดหวังกับข้อมูลเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยอ่อนตัว 51.60 จุด ปิดที่ 4,088.80 จุด
ขณะที่ ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดลดลง สอดคล้องตลาดหุ้นในภูมิภาค ท่ามกลางการซื้อขายเบาบางช่วงปลายปี
โดยลบ 28.36 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 7,056.67 จุด , ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ16.94 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 8,423.62 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย หลังจากมีรายงานว่า เกาหลีเหนือจัดพิธีฝังศพนายคิม จอง อิล
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วง 0.92% หรือ 16.9 จุด แตะ 1,825.12 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูง หลังจากรอบการจ่ายเงินปันผลของบริษัทเหล่านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่เงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ , ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายเบาบาง โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและหลักทรัพย์ที่ดีดตัวขึ้น โดยขยับขึ้น 3.81 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 2,170 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นดีดขึ้น 28.18 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 8,739.73 จุด และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลง โดยการนำของหุ้นกลุ่มธนาคารจีน เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองหุ้น ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนสิ้นปี ซึ่งปิดลบ 110.5 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 18,518.67 จุด
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เงียบเหงา โดยแกว่งตัวในกรอบแคบๆเช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีและไม่ได้มีปัจจัยสำคัญเข้ามา นักลงทุนคงไปรอเล่นใหม่ในปีหน้า จึงแนะนำให้ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ของสหรัฐฯและดัชนีความเชื่อมั่นของเยอรมนี ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกเล็กๆให้กับตลาดฯช่วงวันศุกร์ ส่วนการทำรายการปิดงวดบัญชีสิ้นปี(Window Dressing)คิดว่าคงไม่มี เพราะดัชนีฯปรับตัวขึ้นมาพอสมควรแล้ว ช่วงนี้นักลงทุนก็จ้องจะขายทำกำไรมากกว่า
โดยแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(29 ธ.ค.) คาดว่า ดัชนีคงแกว่งตัวในกรอบแคบไปจนถึงวันศุกร์ พร้อมให้แนวรับ 1,020 จุด แนวต้าน 1,035 และ 1,040 จุด
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลุยทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเงียบเหงา และปริมาณการซื้อขายเบาบางต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนเพราะใกล้วันหยุดยาวปีใหม่ รวมถึงได้รับผลกระทบทางจิตวิทยาจากการที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลง
ส่วนแนวโน้มวันนี้(29 ธ.ค.)ดัชนียังแกว่งในกรอบแคบ และปริมาณการซื้อขายเบาบาง เพราะนักลงทุนจะชะลอการลงทุนต่อเนื่อง หลังใกล้เทศกาลหยุดปีใหม่ อีกทั้งบางส่วนจะรอดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ โดยประเมินแนวรับที่ 1,018-1,020 จุด และแนวต้าน 1,030 จุด ด้านกลยุทธ์ แนะนำรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
