xs
xsm
sm
md
lg

"ครรชิต"มอบตัว ฮึดสู้!ผมไม่ได้ลงมือสังหาร"อุดร" ส่งตำรวจลงพื้นที่หวั่นศึกล้างแค้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.ส."ครรชิต"นั่งรถกันกระสุนเข้ามอบตัวสู้คดียิง"อุดร" ยันผมไม่ได้ทำ "ปานศิริ"แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว สั่ง ผบช.ภ.7 เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เน้นพยานบุคคลจุดเกิดเหตุ ส่งหัวกระสุน และปลอกกระสุน ตรวจพิสูจน์ พร้อมจัดส่งกองปราบปรามลงพื้นที่ หวั่นศึกล้างแค้น"สมศักดิ์" โยนที่ประชุมสภาฯ ตัดสินให้เอกสิทธิ์หรือไม่ "เอนก"มั่นใจไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.45 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยทีมกฎหมายและทนายความได้นำตัว นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียิงนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร (นายก อบจ.) เสียชีวิต ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร รองผบ.ตร.พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยมีคณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เข้าร่วมสอบปากคำ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีตำรวจจากภูธรภาค 7 ตำรวจ ตชด.ตำรวจสายตรวจ และตำรวจฝ่ายสืบสวน จำนวน 2 กองร้อย ดูแลความสงบเรียบร้อย

การเดินทางมาในครั้งนี้ นายครรชิต เดินทางมาด้วยรถยนต์ฟอร์ด เอฟเวอร์เรส กันกระสุน สีดำ โดยมีรถตำรวจนำขบวนและคุ้มกันมาอย่างแน่นหนา และเมื่อมาถึง ยังมีกำลังตำรวจของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) บช.ภ.7 หน่วยสวาท และตำรวจสายตรวจกว่า 2 กองร้อย คอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณพื้นที่โดยรอบ และเมื่อนายครรชิต ก้าวลงจากรถ ได้เดินเข้าห้องสอบสวนในทันที โดยมีสีหน้าที่อิดโรย คล้ายคนพักผ่อนน้อยอย่างเห็นได้ชัด จากนั้น พนักงานสอบสวน ได้เข้าสอบปากคำโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ นายนิพิฏฐ์ ได้ตอบคำถามแทนสนายครรชิตก่อนเข้าห้องสอบสวนว่า ได้เดินทางมาพร้อมทีมกฏหมาย โดยนำนายครรชิต เข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้อนุมัติหมายจับนายครรชิต ในคดีฆ่าผู้อื่น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนายครรชิต ไม่จำเป็นต้องเข้ามอบตัวก็ได้ เนื่องจากมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง ในช่วงสภาผู้แทนราษฎรเปิดสมัยประชุมสภา โดยเบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวนได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การในชั้นศาล ส่วนต่อไปจะใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาจะเป็นผู้พิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ ที่มีพยานเห็น นายครรชิต ก่อเหตุยิง นายนายอุดร นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึง เนื่องจากเป็นรายละเอียดของคดี

**"ครรชิต"ยืนยันผมไม่ได้ฆ่า

ต่อมาภายหลังการสอบปากคำเสร็จ นายครรชิต ได้เดินทางออกมา พร้อมกับให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่า การเข้ามอบตัวในครั้งนี้ ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอให้การในชั้นศาล

"ผมขอยืนยันว่า ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้เป็นคนลงมือสังหารนายอุดร เนื่องจากไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งกับนายอุดร มาก่อน เรื่องนี้ อยากให้ไปถามคนสมุทรสาครว่า ผมเป็นคนอย่างไร"นายครรชิตกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเครียด

ด้านนายนิพิฎฐ์ กล่าวอีกครั้งว่า เดินทางมาในฐานะทีมกฏหมาย ไม่ใช่ทนายความ และหลังจากนี้ จะมีทีมทนายมารับหน้าที่ต่อ ซึ่งตำรวจได้มีการสอบปากคำนายครรชิต ทำประวัติ และพิมพ์ลายนิ้วมือไปแล้ว หลังจากนี้ คดีจะมีการดำเนินการอย่างไร เป็นเรื่องของกระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาต้องสู้คดี

**แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผบ.ตร. กล่าวว่า พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกับนายครรชิต ตามที่ศาลอนุมัติหมายจับออกมา ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อหา และได้ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี ส่วนในการรวบรวมพยานหลักฐาน ได้สั่งให้พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ส่งกระสุน หัวกระสุน และปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด รวมทั้งให้ตรวจสอบการมีและใช้อาวุธปืนของนายครรชิต ซึ่งพบว่า เป็นปืนขนาน. 40 ซึ่งตรงกับขนาดปลอกกระสุนที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครอบครัวผู้ตาย เป็นห่วงว่า คดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ได้กำชับให้พนักงานสอบสวน ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ทั้งในการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม และวัตถุพยานต่างๆ อย่างรอบคอบ

"รูปคดีที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีความซับซ้อนอะไร ผมจะให้มีการสอบสวนเรื่องประเด็นสาเหตุของการสังหารให้ชัดเจน ซึ่งในชั้นนี้ ปมสาเหตุของการสังหาร ตำรวจยังคงมุ่งไปที่เรื่องความขัดแย้งส่วนตัว"พล.ต.อ.ปานศิริกล่าว และว่า เนื่องจากผู้ต้องหายังคงดำรงตำแหน่ง ส.ส. และอยู่ระหว่างสมัยประชุมสภา ทางตำรวจ ได้แจ้งไปยังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร์ ให้ทราบแล้ว ประกอบกับนายนิพิฏฐ์ ได้แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ในสมัยประชุมสภา ระหว่างเดือนธ.ค.2554-เม.ย.2555 ฉะนั้น เมื่อสอบสวนเสร็จ ตำรวจจึงต้องปล่อยตัวนายครรชิตไป ส่วนอาวุธปืนของกลางตำรวจยังไม่ได้มา

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ตำรวจมีความเป็นห่วงว่า จะมีการเอาคืนกันหรือไม่ เนื่องจากเป็นความขัดแย้งของสองตระกูลใหญ่ รองผบ.ตร.กล่าวยอมรับว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ถึงข้อกังวลในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว จึงได้สั่งการให้กองปราบปราม ลงพื้นที่ เข้าไปดูแลเรื่องนี้ด้วยเพื่อป้องกันการเอาคืนกันในภายหน้า

**“สมศักดิ์”โยนที่ประชุมสภาชี้ขาด

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกหมายจับ นายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รอให้เขาประสานมาก่อนจึงจะบรรจุเป็นวาระด่วน เพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ตนจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ส.ส.

เมื่อถามว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ สมควรได้รับเอกสิทธิ์หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายบ้านเมือง ควรมามอบตัว แล้วต่อสู้คดีไปตามกฎหมาย และคงต้องว่ากันไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางสภาฯ จะไม่อนุญาตให้นำตัว ส.ส.ไปดำเนินคดี นอกจากเป็นช่วงปิดสมัยประชุม ที่จะไม่มีเอกสิทธิคุ้มครอง

**ยันไม่มีขัดแย้งสองตระกูล

นายเอนก ทับสุวรรณ อดีตรมช.คมนาคม บิดาของนายครรชิต ทับสุวรรณ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมา ตนยังไม่ได้มีการพุดคุยกับนายครรชิต และยังไม่เจอตัว และไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร อีกทั้งยังไม่ทราบข้อเท็จจริง เชื่อว่าไม่มีเรื่องขัดแย้งอะไรกันในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะเลือกตั้งเสร็จสิ้นไปแล้ว ต่างคนก็ต่างไปทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนจะเป็นความขัดแย้งระหว่างสองตระกูลนั้น ตนยืนยันว่าไม่มี เพราะตระกูลของเรา ก็ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร และปกติแล้วนายครรชิต ก็เป็นคนใจเย็น ตนก็ยังมานั่งนึกว่า เพราะอะไร

ส่วนในกรณีที่มีกระแสข่าวว่า บางตระกูล อยากให้อีกตระกูลหายสาบสูญไปจากสมุทรสาคร ตนคิดว่าไม่มีอะไร ตระกูลไกรวัฒนุสรณ์ และตระกูลทับสุวรรณ ก็อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ทางการเมืองตนไม่ทราบว่า เขาคิดอย่างไร เพราะปัญหาส่วนตัวก็ไม่มี

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อทราบเรื่องรู้สึกอย่างไรในฐานะที่เป็นบิดา นายเอนก กล่าวว่า ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ และไม่ทราบว่าไปขัดแย้งกันในช่วงที่หาเสียงหรือไม่ ซึ่งตนก็อยากเจอตัวนายครรชิต ที่ผ่านมา ก็พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้โทรศัพท์มาถาม ตนก็ตอบว่ายังไม่รู้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานข่าวระบุว่า อาจจะมีปัญหาในเชิงชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง นายเอนก กล่าวว่า ชู้สาวคงไม่มี

เมื่อถามย้ำว่า มีการพาดพิงไปถึงอดีตภรรยาของผู้ตายว่า มาสนิทสนมกับนายครรชิต นายเอนก กล่าวว่า รู้จักกันทั้งนั้น เพราะเวลาไปหาเสียงก็เจอหน้า พูดคุยกัน เรื่องนี้คงไม่มี

ส่วนคนขับรถของผู้ตายให้การว่ารถยนต์ของผู้ก่อเหตุ เป็นรถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดป้ายทะเบียน นายอเนก กล่าวว่า ตนก็ทราบข่าวจากวันอาทิตย์ (25 ธ.ค.) ซึ่งรถกระบะของนายครรชิต ติดป้ายทะเบียน และก็พึ่งซื้อในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น