ผู้จัดการรายวัน - ปลัดท่องเที่ยว ปิ๊งไอเดีย เตรียมเสนอที่ประชุม คณะกรรมการติดตามและเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว ขอตั้งกองงานดูแลนักท่องเที่ยว หวังสร้างความประทับใจ แจง ต้องทำเรื่องถึงกรรมาธิการงบประมาณ เพราะต้องจัดจ้างบุคคลากร
นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้มีการตั้งกองงาน เพื่อดูแลการอำนวยความสะดวกและแก้ปัญหาแก่นักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกลวง โดยต่อที่ประชุมคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ธ.ค 54 เพื่อพิจารณาและอนุมัติ
โดยกองงานดังกล่าวจะทำหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันการดูแลนักท่องเที่ยว มีเพียง ศูนย์อำนวยการและบริการนักท่องเที่ยว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอยู่ไม่กี่คน ซึ่งหากที่ประชุมเห็นชอบ ก็จะบรรจุเรื่องเสนอต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณพิจารณาให้ทันภายในปีงบประมาณ 2555เนื่องจากต้องมีการใช้งบเพื่อจัดจ้างบุคคลากรด้วย
“การตั้งกองงานมาดูแลอำนวยความสะดวกและแก้ปัญหาให้แก่นักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกลวง จะต้องมีการจัดจ้างเจ้าหน้าที่มาดูแลรับผิดชอบดูแลศูนย์อำนวยการ โดยจะมีการตั้งศูนย์กระจาย ครอบคลุมทุกแหล่งท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้อง จัดทำโครงสร้างข้าราชการและลูกจ้างที่จะเข้ามาดูแล
สำหรับการตั้งกองงานจะมีประโยชน์กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากเพราะจะช่วยให้การดูแลนักท่องเที่ยวทำได้ดีขึ้น เมื่อนักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นแก่ประเทศไทย”
อย่างไรก็ตาม ในสมัยรัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธาน ซึ่งมีการอนุมัติงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อให้ดำเนินงาน ซึ่งในวงเงินงบดังกล่าว น่าจะขยายขอบเขตการดำเนินงานได้ครอบคลุมถึงการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวด้วย เพราะปัจจุบันมีศูนย์บริการอยู่ สนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว ซึ่งจังหวัดที่สมควรตั้งศูนย์ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่
รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า สถิติการขอรับบริการ ศูนย์อำนวยการและบริการนักท่องเที่ยว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่กลางปี 54 พบว่า นักท่องเที่ยวมาใช้บริการขอข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว มากที่สุดเฉลี่ย 2,600 รายต่อเดือน รองมาคือ ขอความช่วยเหลือล่ามแปล ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เช่นการท่าอากาศยาน,ด่านตรวจคนเข้าเมือง, กรมศุลากร และตำรวจท่องเที่ยว เฉลี่ยเดือนละ 30 ราย
ส่วนเรื่องการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ จะมีเดือนละ 14 ราย ที่เหลือเป็นเรื่องอื่นๆ เดือนละ 20 ราย ซึ่งเรื่องร้องเรียนที่พบมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ บริษัทนำเที่ยว ขายทัวร์โดยแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , บริษัทนำเที่ยวขายแพกเกจทัวร์แพงเกินจริง, รถสามล้อรับจ้าง หลอกลวงนักท่องเที่ยว, ร้านค้าอัญมณี หลอกลวงนักท่องเที่ยว และร้านสูทจำหน่ายสินค้าแพงเกินจริง
นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้มีการตั้งกองงาน เพื่อดูแลการอำนวยความสะดวกและแก้ปัญหาแก่นักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกลวง โดยต่อที่ประชุมคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ธ.ค 54 เพื่อพิจารณาและอนุมัติ
โดยกองงานดังกล่าวจะทำหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันการดูแลนักท่องเที่ยว มีเพียง ศูนย์อำนวยการและบริการนักท่องเที่ยว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอยู่ไม่กี่คน ซึ่งหากที่ประชุมเห็นชอบ ก็จะบรรจุเรื่องเสนอต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณพิจารณาให้ทันภายในปีงบประมาณ 2555เนื่องจากต้องมีการใช้งบเพื่อจัดจ้างบุคคลากรด้วย
“การตั้งกองงานมาดูแลอำนวยความสะดวกและแก้ปัญหาให้แก่นักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกลวง จะต้องมีการจัดจ้างเจ้าหน้าที่มาดูแลรับผิดชอบดูแลศูนย์อำนวยการ โดยจะมีการตั้งศูนย์กระจาย ครอบคลุมทุกแหล่งท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้อง จัดทำโครงสร้างข้าราชการและลูกจ้างที่จะเข้ามาดูแล
สำหรับการตั้งกองงานจะมีประโยชน์กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากเพราะจะช่วยให้การดูแลนักท่องเที่ยวทำได้ดีขึ้น เมื่อนักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นแก่ประเทศไทย”
อย่างไรก็ตาม ในสมัยรัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธาน ซึ่งมีการอนุมัติงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อให้ดำเนินงาน ซึ่งในวงเงินงบดังกล่าว น่าจะขยายขอบเขตการดำเนินงานได้ครอบคลุมถึงการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวด้วย เพราะปัจจุบันมีศูนย์บริการอยู่ สนามบินสุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว ซึ่งจังหวัดที่สมควรตั้งศูนย์ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่
รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า สถิติการขอรับบริการ ศูนย์อำนวยการและบริการนักท่องเที่ยว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่กลางปี 54 พบว่า นักท่องเที่ยวมาใช้บริการขอข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว มากที่สุดเฉลี่ย 2,600 รายต่อเดือน รองมาคือ ขอความช่วยเหลือล่ามแปล ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เช่นการท่าอากาศยาน,ด่านตรวจคนเข้าเมือง, กรมศุลากร และตำรวจท่องเที่ยว เฉลี่ยเดือนละ 30 ราย
ส่วนเรื่องการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ จะมีเดือนละ 14 ราย ที่เหลือเป็นเรื่องอื่นๆ เดือนละ 20 ราย ซึ่งเรื่องร้องเรียนที่พบมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ บริษัทนำเที่ยว ขายทัวร์โดยแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , บริษัทนำเที่ยวขายแพกเกจทัวร์แพงเกินจริง, รถสามล้อรับจ้าง หลอกลวงนักท่องเที่ยว, ร้านค้าอัญมณี หลอกลวงนักท่องเที่ยว และร้านสูทจำหน่ายสินค้าแพงเกินจริง
