xs
xsm
sm
md
lg

"มีชัย"ซัด"มะกัน"ละเมิดสิทธิ-ป่าเถื่อน-ฉะจุ้นแก้ ม.112-34องค์กรผนึกต้านแดงล้มเจ้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"มีชัย" ชี้ต้องมีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คุ้มครองประมุขของประเทศ แม้แต่สหรัฐฯ ยังหมิ่นปธน.ไม่ได้ หยิบกรณีมะกันกลัวก่อการร้ายจนขี้ขึ้นสมอง มีพฤติกรรมป่าเถื่อนยิ่งกว่ายุคหิน ตามล่าบินลาเดน ทำชาวบ้านตายอื้อ "สุเมธ" เตือนอย่าแก้กฎหมายเพื่อคนๆ เดียว ข้องใจทำไมต้องเจาะจงแก้ ม.112 "เหลิม" ปัดเคลื่อนไหวร่วมแก๊งเสื้อแดง ด้านกลุ่มสยามสามัคคี ผนึก 34 องค์กร ต้าน"ระบอบทักษิณ" ขบวนการแดงล้มเจ้า

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ มีชัยไทยแลนด์ ด็อท คอม ของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา และประธานรัฐสภา ในเว็บบอร์ด “ถาม-ตอบกับมีชัย” ได้เผยแพร่คำตอบกรณีที่ผู้ใช้นามแฝง “คุณชัยครับ” ตั้งคำถามในหัวข้อ แก้กฎหมายหมิ่นฯ โดยสอบถามว่า กระแสการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักวิชาการ และภาคประชาชนต่างๆ ที่ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไข มาตรา 112

โดยระบุว่า มาตรานี้มีปัญหาต่างๆมากมาย ไม่ทราบว่าอาจารย์มีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร เพราะขณะนี้องค์กรระหว่างประเทศ เช่น ยูเอ็น หรือ สถานทูตสหรัฐฯ ตลอดจนองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและต่างประเทศ เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์ปัญหากฎหมายมาตรานี้ และเรียกร้องให้มีการแก้ไขแล้ว และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างไร ในสายตาของต่างประเทศ

นายมีชัย ได้ตอบคำถามดังกล่าวว่า มาตรา 112 ห้ามการกระทำเพียง 3 อย่าง คือ ห้ามหมิ่นประมาท ห้ามดูหมิ่น และห้ามอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ การกระทำทั้ง 3 อย่างนั้น อย่าว่าแต่จะทำกับประมุขของประเทศเลย ทำกับคนธรรมดาก็ยังไม่ได้ เสรีภาพของบุคคลนั้นย่อมมีขอบเขตอันจำกัดที่จะต้องไม่ไปละเมิดคนอื่น ถ้าคำนึงถึงแต่เสรีภาพของบุคคลโดยไม่คำนึงถึงสิทธิของคนอื่น สังคมก็คงกลียุค

" แม้แต่ในอเมริกาเองก็ใช่ว่าเราจะไปหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายประธานาธิบดีของเขาได้เสียเมื่อไรล่ะ ข้อสำคัญ ประเทศแต่ละประเทศย่อมมีความระแวดระวังในเรื่องที่ต่างกัน ถ้ามองในแง่มุมของอีกประเทศหนึ่งอาจเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควร แต่คนที่เจริญแล้วเขาก็ต้องยอมรับนับถือประเพณี วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ไม่ไปตัดสินจากความคุ้นเคย หรือความเคยชินของตนเอง

ยกตัวอย่างเช่น อเมริกันกลัวการก่อการร้ายจนขี้ขึ้นสมอง ใครจะผ่านเข้าประเทศจะตรวจค้นอย่างละเอียดยิบ โดยไม่คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลของใคร ถึงขนาดจับแก้ผ้าก็ยังทำ แม้แต่กระเป๋าเดินทางก็เปิดรื้อค้นเอาเองได้ เมื่อตอนที่อเมริกันตามล่าบินลาเดน (นายโอซามะ บินลาเดน หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์) น่ะ เคยจับภาพจากอากาศ เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินถือไม้เท้าอยู่เชิงเขา นึกว่าเป็นบินลาเด็น ส่งจรวดราคาแพงไปถล่มตายหมดทั้งกลุ่ม จึงรู้ภายหลังว่าไม่ใช่บินลาเดน ชาวบ้านเลยตายฟรี นั่นน่ะไม่โหดร้ายป่าเถื่อนเสียกว่ายุคหินอีกหรือ ก็ไม่เห็นคนอเมริกัน หรือสหประชาชาติจะไปตำหนิอะไร เพราะความแค้นในเรื่องถูกถล่มตึกยังค้างคาอยู่ในใจ" นายมีชัย กล่าว

นอกจากนี้ นายมีชัย ยังกล่าวถึงประเทศสิงคโปร์ มีโทษเฆี่ยนตี ให้หลาบจำจะได้ไม่ทำผิดบางอย่าง คนอเมริกันมือซน เอาสีสเปรย์ไปพ่นที่กำแพง เขาจับได้ ลงโทษตีก้นให้ได้อายมาแล้ว จะโวยวายหรือขอร้องอย่างไร รัฐบาลสิงคโปร์ก็ไม่ยอม ไม่มีใครไปเรียกร้องให้เขาแก้ไขกฎหมาย เพราะเขาจะเฆี่ยนตี ก็แต่เฉพาะคนที่ทำผิด เหมือนกับกฎหมายของไทย จะลงโทษก็แต่เฉพาะคนที่ทำผิดที่ห้ามไว้

**ทำไมต้องเจาะจงแก้ม.112

เมื่อเวลา 14.00น. วานนี้ ( 22 ธ.ค.) ที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยายพิเศษเรื่อง การปฎิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพระยุคลบาท โดยมี พล.อ. ดุลกฤต รักษ์เผ่า ผู้บัญชาการหน่วยทหารพัฒนา ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ดร.สุเมธ ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงความเสี่ยงของประเทศชาติที่เกิดจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการทำเพื่อคนๆเดียวว่า เรื่องนี้ก็สามารถใช้เศรษฐกิจพอเพียง เหตุผล เป็นเครื่องนำทาง คำว่า มีเหตุมีผล อะไรที่ถูกต้อง อะไรที่เป็นธรรม โดยมีความยุติธรรม และถ้าทุกอย่างดำเนินการถูกต้อง ปัญหาไม่น่าจะมี และต้องไม่ลืมว่า กฎหมายออกแบบไว้สำหรับคนทุกคน ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง

เมื่อถามว่า การแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เหมาะสมหรือไม่ ดร. สุเมธ กล่าวว่า กฎหมายอาญามีตั้งกี่ร้อย กี่พันมาตรา ทำไมจำเพาะเจาะจงถึงต้องแก้อันนี้ กฎหมายคือกฎหมาย ถ้าเราไม่ทำผิด เขาก็อยู่ในกระดาษเท่านั้นเอง ก็อย่าทำผิดก็เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญา หรือกฎหมายอะไรต่างๆ เราต้องแก้ด้วยหรือ หากเราไม่ไปฆ่าใคร ก็คงไม่มีใครมาจับไปขังเข้าคุก แต่ตราบใดที่เราทำผิด กฎหมายนั้นถึงออกมาใช้ได้ ซึ่งเหมือนกันหมด

" เมื่อ2-3วันที่ผ่านมา เพื่อนมาเล่าให้ฟัง มีคนแต่งโคลงกลอน ล้อประธานาธิบดี ถูกจับเข้าคุกเลย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นมาตราอะไร ของฝรั่งเขา ผมไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่เขาก็โดนลงโทษ ที่ไหนในโลกนี้ เขาก็มีกันทั้งนั้น" ดร. สุเมธ กล่าว

เมื่อถามว่า เหตุผลที่หยิบยกมาอ้าง คือไม่เป็นไป ตามกฎหมายสากล ดร.สุเมธ กล่าวว่า ไม่รู้มีเหตุผลหรือเปล่า ถ้ามีเหตุผลก็พอฟังได้ ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไม่ต้องฟัง เมื่อถามว่า เรื่องนี้อาจจะทำให้ถูกปลุกปั่นจนเกิดการเผชิญหน้าของประชาชน 2 กลุ่ม ดร. สุเมธ กล่าวว่า ไม่รู้ ต้องไปถามคนปลุกปั่น ตนไม่ได้ปลุก ไม่ได้ปั่น และก็ไม่เคยถูกปลุกถูกปั่น ก็เลยไม่รู้

เมื่อถามว่ารัฐบาลต้องเข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้ เกิดปัญหาใช่หรือไม่ ดร. สุเมธ กล่าวว่า ไม่รู้ เพราะไม่ใช่รัฐบาล เมื่อถามย้ำว่า ท่านมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) น่าจะให้คำแนะนำได้ ดร. สุเมธ กล่าวว่า ตนเป็นที่ปรึกษาเรื่องน้ำ ไม่เกี่ยวอะไรเลย เป็นแค่ที่ปรึกษาไม่เกี่ยวข้องอะไร เวลาบริษัทล้ม ที่ปรึกษาลอยลำไม่ได้รู้เรื่องอะไร กับเขาด้วย ไม่ต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า แต่ท่านมีโอกาสให้คำปรึกษาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ดร. สุเมธ กล่าวว่า เป็นที่ปรึกษาเรื่องน้ำ หากเป็นปัญหาเรื่องส่วนรวม บ้านเมืองก็ต้องช่วยกัน แต่ถ้าเป็นปัญหาเรื่องการเมือง ก็ไม่ยุ่ง แต่นี้ปัญหาเรื่องน้ำ เรื่องบ้านเมืองก็ต้องเข้าไปช่วย มีอะไรแนะได้ก็แนะไป เมื่อถามว่า เป็นห่วงสถาบันพระมหากษัติย์ที่อยู่ ในภาวะเปราะบางหรือไม่ ดร. สุเมธ ย้อนถามว่า คนไทยเป็นห่วงหรือไม่ สื่อช่วยถามต่อให้หน่อย สำหรับตนคงไม่ต้องถามแล้ว โดยตำแหน่งโดยหน้าที่ เป็นคำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบ

** สั่งทหารตรวจเข้มเว็บหมิ่นฯ

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประชุมว่า ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อความ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผ่านทางเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก โดยที่ผู้โพสต์ข้อความ มีทั้งคนไทยที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศ เป็นขบวนการที่มุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง รมว.กลาโหม จึงขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ได้เข้มงวดกวดขันการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ของหน่วยงาน และข้าราชการที่มีการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต หากตรวจพบการใช้งานในลักษณะดังกล่าว ให้รายงานผู้บังคับบัญชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ สถาบันทหารมีหน้าที่ในการพิทักษ์ รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งทหารทุกนายจะต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ รมว.กลาโหม ยังขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้ถ่ายทอดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้กำลังพลน้อมรับนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

** "เหลิม"ไม่วิจารณ์พวกเดียวกัน

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่จะแก้รัฐธรรมนูญ และมาตรา 112 ว่า ตนไม่อยากแสดงความเห็นข้ามฟาก เพราะตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย

"ผมไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมกับเขา แต่เขารักผม ผมก็รักเขา"

เมื่อถามว่ามาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา กลายเป็นปัญหาที่ทำให้ประชาชนทะเลาะกัน ที่จ.เชียงใหม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่มีความเห็น แต่ใครเสนอแก้ไขมาตรานี้ ตนคัดค้านอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าเคยพูดในระหว่างการแถลงนโยบายว่า จะไม่มีการแก้ไข มาตรา 112 ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนก็ไม่เคยพูดว่าจะแก้ ตนเป็นหนึ่งในคณะรัฐบาล จะไปพูดแทนรัฐบาลได้อย่างไร เขาไม่แก้หรอก รัฐบาลชุดนี้ฉลาดพอ เขาทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน

เมื่อถามว่าการขับเคลื่อนจากเสียงที่เป็นฐานของพรรคเพื่อไทย จะเป็นแรงกดดันที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องเปลี่ยนความคิดในเรื่องนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่เปลี่ยน ก็คนมันเยอะได้มาตั้ง 265 ที่นั่ง แต่สุดท้ายก็ได้บทสรุปหมด ตนคุยเรียบร้อยหมดแล้วไม่มีใครคิดอย่างอื่น

** เตือน"เสื้อแดง"อย่าล้อเล่นกับศาล

เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่ทางคนเสื้อแดงเตรียมรวมตัวกันเพื่อกดดันศาล ให้ปล่อยตัวนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนว่าเขาคงไม่ทำ เพราะสถาบันศาล กดดันไม่ได้ไม่มีใครทำหรอก ศาลสถิตยุติธรรม ตัดสินในพระปรมาภิไธย อย่าไปล้อเล่น

เมื่อถามว่าถ้ามีการรวมตัวเดินทางเข้ากทม. จะทำอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มีใครเขาคิดจะทำหรอก

*** คนเสื้อแดงรวมตัวแค่หยิบมือ ***

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี ได้นำคนเสื้อแดงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ประมาณ 50 คน เดินทางมาชุมนุมที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย โดยเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายอริสมันต์ หลังจากที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนคนเสื้อแดงมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากก่อนหน้าที่แกนนำประกาศจะระดมพลคนเสื้อแดงมากดดันศาลจำนวนหลักหมื่นคนขึ้นไป

** 34 องค์กรร่วมต้าน"ระบอบทักษิณ"

นางกาญจนี วัลยะเสวี ตัวแทนภาคีเครือข่ายสยามสามัคคี กล่าวว่า ขณะนี้เครือข่ายสยามสามัคคี ได้ขยายแนวร่วมออกไปถึง 34 กลุ่มแล้ว อาทิ กลุ่มสยามสามัคคี กลุ่มปัญญาสยาม กลุ่มองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันฯ โดยจุดประสงค์ที่จะต้องรวมตัวขึ้นมา เพราะขณะนี้คนไทยที่รักชาติ - สถาบันพระมหากษัตริย์ และที่เป็นพลังเงียบ ได้อยู่กันกระจัดกระจายเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย มวลชนไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน ในขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดง สามารถรวมพลังกันได้เป็นหมื่นๆคน เพื่อต้องการให้เป็นแดงทั้งแผ่นดิน

เราจึงนัดรวมตัวกันหลายๆ เครือข่าย เพื่อระดมสมองว่า ควรจะต้องออกมาต่อต้านระบอบทักษิณด้วยปัญญา ขยายเครือข่ายให้ความรู้แก่ประชาชน และเราเชื่อว่าคนไทยที่รักสถาบันฯ มีมากกว่าคนเสื้อแดงบางส่วนที่ต่อต้าน และเชื่อว่าประชาชน 15 ล้านเสียง ที่เลือกพรรคเพื่อไทย ก็มีคนรักในหลวงอยู่ด้วย และเราต้องทำให้คนไทยอีก 55 ล้านคน รู้ว่าชาติและสถาบันฯ กำลังถูกสั่นคลอน

" เราจะไม่ยอมให้ระบอบทักษิณ เป็นฝ่ายกระทำอยู่ข้างเดียว ฝ่ายนั้นเขาต้องการให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ให้เกิดสงครามกลางเมือง ให้ประชาชนออกมาปะทะกับทหาร แดงที่ฝักใฝ่ซ้าย เชื่อว่าการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ต้องล้มสถาบันเบื้องสูงเท่านั้น เพราะสถาบันเบื้องสูงคือศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทย" นางกาญจนี กล่าว

**ภาคี ม.ราชภัฏโคราชต้านแก้ ม.112

ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ผศ.ดร.สามารถ จับโจร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เปิดเผยว่า ภาคีคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง คัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเนื้อหาแถลงการณ์สรุปได้ว่า เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มคนบางกลุ่มบางพวกพยายามเรียกร้อง เพื่อสร้างสถานการณ์บางอย่างในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 (ม.112) หรือแม้กระทั่งเลยเถิดถึงขั้นให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรานี้ไปเลย

การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมส่งผลกระทบไปยังสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพเทิดทูลของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหากนับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง คือ วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เมื่อ 79 ปี ที่ผ่านมา ประมวลกฎหมายอาญามาตรานี้ก็ถูกใช้เรื่อยมา แม้กระทั่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ก็ตาม เพราะหากมีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตราดังกล่าวแล้ว หากใครล่วงละเมิดดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และราชวงศ์แล้ว จะมีเครื่องมือใดที่จะใช้ในการปกป้องคุ้มครอง เพราะแม้แต่คดีหมิ่นบุคคลธรรมดายังต้องมี กฎหมาย อาญามาตรา 326 คุ้มครอง

นอกจากนี้ ยังขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 8 ในหมวด 2 พระมหากษัตริย์อีกด้วย ซึ่งระบุว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดกล่าวหาหรือฟ้องร้อง พระมหากษัตริย์ในการใดๆ มิได้การเอาประเด็นของความไม่ครบองค์ประกอบของความเป็นประชาธิปไตยโดยแอบอ้างข้างๆ คูๆ เอาแบบอย่างจากทางต่างประเทศในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตย แล้วสอดไส้แก้มาตรา 112 จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและมีความเหมาะสม

** จี้ “ปูนิ่ม” เชือดเด็ดขาดแก๊งจาบจ้วง

โดยเฉพาะการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่เห็นว่าควรยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีการพยายามเปรียบเทียบกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในต่างประเทศ ซึ่งในบริบทของความเป็นจริง ความเป็นชนชาติไทยตั้งแต่บรรพบุรุษจวบจนกระทั่งปัจจุบันเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักในระบอบประชาธิปไตยและเป็นพัฒนาการทางการปกครองของเราเรื่อยมา

ดังนั้น การกระทำที่จาบจ้วงล่วงละเมิดของผู้ที่ไม่หวังดีเพื่อจ้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์และชำเรารัฐธรรมนูญจึงควรถูก ประณาม และถูกต่อต้านจากสุจริตชนที่มีดวงตาเห็นธรรม

ภาคีคณาจารย์นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.ให้คงไว้ซึ่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เหมือนเดิม และหยุดสร้างเงื่อนไขความพยายามในการชำเรารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เพื่อประโยชน์กลุ่มก้อนทางการเมืองของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง 2.เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรีบดำเนินการจัดการกับผู้จาบจ้วงล่วงละเมิดหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมทั้งทางเว็บไซต์ และป้ายข้อความต่างๆ และขอประณามกับการกระกระทำที่มิบังควรของกลุ่มบุคคลกลุ่มต่างๆ ที่จ้องให้ร้ายกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร้จริยธรรมสำนึก

3.เรียกร้องให้พี่น้องประชาชนคนไทยในประเทศแยกแยะการกล่าวให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ที่สร้างความเสื่อมเสียพระเกียรติภูมิและไม่หลงกลไปกับการยุแหย่ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ตลอดรวมทั้งเล่ห์กลทางการเมืองของนักการเมืองบางกลุ่มที่อิงแอบสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อหวังผลทางการเมืองถือเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทอย่างไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทย

4.เรียกร้องให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศจงภาคภูมิใจ ที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักเป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยทั้งประเทศที่พระองค์ทรงสร้างแต่คุณูปการเพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวสยามประเทศเรื่อยมา
กำลังโหลดความคิดเห็น