ลำปาง- รวบหนุ่มลำปางวัย 33 ปีอ้างเป็นตำรวจ หลังกร่างขับรถไล่ยิงวัยรุ่นจนรถล้มได้รับบาดเจ็บ โชคดีตำรวจจริงมาประสบเหตุจนรวบตัวไว้ได้
เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วานนี้ (19 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทกันที่บริเวณหน้า โรงแรมจิตราวดี ถ.ซูเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-งาว ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบชายหนึ่งคนยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขงข 257 ลำพูน (จักรยานยนต์ของคู่กรณีที่ถูกข่มขู่) โดยมีการพกอาวุธปืนไว้ที่กางเกงด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้พร้อมสอบถามทราบชื่อคือ นายนภธร ประสิทธิ์ปราณ หรือ นายธัญพิสิษฐ์ สร้อยแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 507 หมู่8 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 5421 ลำปาง ของนายนภธร พบอาวุธมีดสปาต้าหนึ่งเล่ม ยาวประมาณ 50 ซม. และตรวจยึดอาวุธปืน ขนาด .22 ไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมเครื่องกระสุนในรังเพลิงจำนวน 6 นัด นอกจากนั้นในตัวยังพบบัตรต่างๆ เช่น บัตรอดีตพนักงานเทศบาลเขลางค์นคร บัตรนักข่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้
ขณะเดียวกัน ในที่เกิดเหตุพบวัยรุ่นชายหญิง 3 คน คือ น.ส.สุจิราภรณ์ อัศวโกวิทวงค์ อายุ 21 ปี น.ส.อุมาพร ศรีวันดี อายุ 19 ปี นายพงศ์ศิริ วัฒนมณีกุล อายุ 19 ปี โดยทั้ง 3 คน เป็นชาว จ.ลำปาง ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า พวกเธอ 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองลำปาง ก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถเก๋งคันดังกล่าว ซึ่งมีนายนภธร หรือนายธัญพิสิษฐ์ ได้ขับตามมาพร้อมตะโกนให้ของลับและชักปืนยื่นออกมานอกกระจก พวกตนทั้ง 3 คน ตกใจจึงได้ขับรถหลบหนี จนมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักล้มลง
จากนั้น นายนภธรที่ขับรถตามมาจึงจอดรถแล้วลงมาพร้อมอาวุธปืน พวกตนที่ไม่บาดเจ็บต่างวิ่งหนีคนละทิศละทาง ขณะที่นายนภธร ได้เดินมาหาพวกตนพร้อมอ้างตัวเป็นนายตำรวจชื่อสารวัตรยัน และขอตรวจค้นรถจักรยานยนต์เอาเอกสารรถโยนทิ้ง ยึดโทรศัพท์ของเพื่อนตนโยนทิ้งแล้วเอาเท้าเหยียบ
พร้อมคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ว่า สารวัตรนี่ผมสารวัตรยันนะขณะนี้กำลังมีเรื่องกับวัยรุ่น พร้อมให้พวกตนบอกชื่อเพื่อนที่วิ่งหนีไปมิฉะนั้นตอนเช้าจะเอาตำรวจเข้าไปจับ พอดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ถ้าตำรวจไม่มาพวกตนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรและอาจเข้าใจตำรวจในทางที่ผิดก็เป็นได้
ทั้งนี้ วัยรุ่นทั้ง 3 ยืนยันว่าจะดำเนินคดีต่อนายนภธรให้ถึงที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำให้ทั้ง 3 คน ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายนภธร หรือนายธัญพิสิษฐ์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านทางสาธารณะ นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับประวัติ นายนภธร หรือนายธัญพิสิษฐ์ เป็นอดีตพนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร เมื่อประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมาเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ในข้อหายิงปืนในวัดมาแล้วและศาลสั่งปรับและรอลงอาญา 3 ปี แต่ก็มาก่อเหตุอีกในครั้งนี้
เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วานนี้ (19 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทกันที่บริเวณหน้า โรงแรมจิตราวดี ถ.ซูเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-งาว ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบชายหนึ่งคนยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขงข 257 ลำพูน (จักรยานยนต์ของคู่กรณีที่ถูกข่มขู่) โดยมีการพกอาวุธปืนไว้ที่กางเกงด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้พร้อมสอบถามทราบชื่อคือ นายนภธร ประสิทธิ์ปราณ หรือ นายธัญพิสิษฐ์ สร้อยแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 507 หมู่8 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 5421 ลำปาง ของนายนภธร พบอาวุธมีดสปาต้าหนึ่งเล่ม ยาวประมาณ 50 ซม. และตรวจยึดอาวุธปืน ขนาด .22 ไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมเครื่องกระสุนในรังเพลิงจำนวน 6 นัด นอกจากนั้นในตัวยังพบบัตรต่างๆ เช่น บัตรอดีตพนักงานเทศบาลเขลางค์นคร บัตรนักข่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้
ขณะเดียวกัน ในที่เกิดเหตุพบวัยรุ่นชายหญิง 3 คน คือ น.ส.สุจิราภรณ์ อัศวโกวิทวงค์ อายุ 21 ปี น.ส.อุมาพร ศรีวันดี อายุ 19 ปี นายพงศ์ศิริ วัฒนมณีกุล อายุ 19 ปี โดยทั้ง 3 คน เป็นชาว จ.ลำปาง ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า พวกเธอ 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองลำปาง ก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถเก๋งคันดังกล่าว ซึ่งมีนายนภธร หรือนายธัญพิสิษฐ์ ได้ขับตามมาพร้อมตะโกนให้ของลับและชักปืนยื่นออกมานอกกระจก พวกตนทั้ง 3 คน ตกใจจึงได้ขับรถหลบหนี จนมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักล้มลง
จากนั้น นายนภธรที่ขับรถตามมาจึงจอดรถแล้วลงมาพร้อมอาวุธปืน พวกตนที่ไม่บาดเจ็บต่างวิ่งหนีคนละทิศละทาง ขณะที่นายนภธร ได้เดินมาหาพวกตนพร้อมอ้างตัวเป็นนายตำรวจชื่อสารวัตรยัน และขอตรวจค้นรถจักรยานยนต์เอาเอกสารรถโยนทิ้ง ยึดโทรศัพท์ของเพื่อนตนโยนทิ้งแล้วเอาเท้าเหยียบ
พร้อมคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ว่า สารวัตรนี่ผมสารวัตรยันนะขณะนี้กำลังมีเรื่องกับวัยรุ่น พร้อมให้พวกตนบอกชื่อเพื่อนที่วิ่งหนีไปมิฉะนั้นตอนเช้าจะเอาตำรวจเข้าไปจับ พอดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ถ้าตำรวจไม่มาพวกตนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรและอาจเข้าใจตำรวจในทางที่ผิดก็เป็นได้
ทั้งนี้ วัยรุ่นทั้ง 3 ยืนยันว่าจะดำเนินคดีต่อนายนภธรให้ถึงที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำให้ทั้ง 3 คน ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายนภธร หรือนายธัญพิสิษฐ์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านทางสาธารณะ นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับประวัติ นายนภธร หรือนายธัญพิสิษฐ์ เป็นอดีตพนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร เมื่อประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมาเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ในข้อหายิงปืนในวัดมาแล้วและศาลสั่งปรับและรอลงอาญา 3 ปี แต่ก็มาก่อเหตุอีกในครั้งนี้
