เฟซบุ๊กสถานทูตสหรัฐฯ ออกคำแถลงการณ์หวังสงบศึกเครือข่ายเฟซบุ๊กชาวไทย ยันยังเคารพสถาบันกษัตริย์ อ้าง "โอบามา-ฮิลลารี" ถวายพระพรในหลวงในวโรกาส 84 พรรษา หยอดไทยเป็นมิตรประเทศที่เก่าแก่ที่สุด แต่ตบท้ายมาแปลกหนุนแสดงออกเสรีภาพทั่วโลก "สยามสามัคคี" บุกจี้ UN ขอโทษหลังวิจารณ์ ก.ม.หมิ่นสถาบัน
วานนี้ (16 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก US Embassy Bangkok ได้ขึ้นประกาศคำแถลงจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยระบุว่า ดังที่เอกอัครราชทูตเคนนี่ย์ได้กล่าวแล้ว รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์และวัฒนธรรมของประเทศไทยอย่างสูงสุด เมื่อเร็วๆ นี้ ท่านประธานาธิบดีโอบามา (นายบารัค โอบามา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคลินตัน (นางฮิลลารี่ คลินตัน) และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ประเทศไทยเป็นมิตรเก่าแก่ที่สุดในเอเซียของสหรัฐฯ และสหรัฐฯ จะยังคงยืนเคียงข้างประชาชนไทยตลอดไป เราเคารพกฎหมายไทย และสำหรับเรื่องกิจการภายในของประเทศไทยนั้น สหรัฐฯ ไม่เข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น สหรัฐฯ สนับสนุนให้มีเสรีภาพในการแสดงออกในทุกประเทศทั่วโลกและถือว่าเสรีภาพฯ นี้เป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์
ทั้งนี้ การออกคำแถลงดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเฟซบุ๊ก US Embassy Bangkok ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นชาวไทยจำนวนมากแสดงความคิดเห็นทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แสดงความไม่พอใจกรณีที่ นายเดอรราจ์ พาราดิโซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายเอเชียตะวันออกของสหรัฐอเมริกา แสดงความวิตกกังวลต่อการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 และกระบวนการยุติธรรมของไทย และการแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ของ นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กรณีการตัดสินคดีของ นายโจ กอร์ดอน ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า มีความกังวลต่อการตัดสินที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในเรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น แม้ภายหลังผู้ดูแลเฟซบุ๊ก US Embassy Bangkok ได้ขึ้นข้อความว่า “เรียนเพื่อนๆ ชาวเฟซบุ๊ก เรายินดีรับมุมมองและความคิดเห็นที่หลากหลายบนหน้าเฟซบุ๊กต่างๆ ของเรา เพียงแต่อยากขอให้เพื่อนๆ ทำความเข้าใจกับเงื่อนไขในการให้บริการเฟซบุ๊กของเรา และโปรดงดเว้นการใช้ภาษาที่หยาบคาย รุนแรง หรือข่มขู่” แต่ก็ยังมีสมาชิกเฟซบุ๊กเข้ามาโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของสหรัฐฯ เกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างต่อเนื่อง
***สยามสามัคคีบุกจี้ UN ขอโทษ
นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และเครือข่ายสยามสามัคคี ได้เดินทางมายังองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือต่อตัวแทนองค์การสหประชาชาติ เกี่ยวกับกรณีที่สหประชาชาติแสดงความเห็นว่ากฎหมายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ มาตรา 112 ของไทย มีโทษหนักเกินไป และผิดกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยนายแพทย์ตุลย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นการเข้ามาละเมิดอธิปไตยทางกฎหมายของประเทศไทย จึงขอให้ทางสหประชาชาติยุติเรื่องดังกล่าว และหากเป็นไปได้ก็อยากให้ออกมาขอโทษประเทศไทย
พร้อมยืนยันด้วยว่า ทุกประเทศมีกฎหมายปกป้องประมุขของตนเองทั้งนั้น และกฎหมายมาตรา 112 ไม่ขัดต่อกติการะหว่างประเทศ โดยได้ยกกติการะหว่างประเทศ มาตรา 19 มายืนยันต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว จากนั้น กลุ่มเครือข่ายสยามสามัคคี จะเดินทางไปยื่นหนังสือในเรื่องเดียวกันต่อสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยต่อไป.
วานนี้ (16 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก US Embassy Bangkok ได้ขึ้นประกาศคำแถลงจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยระบุว่า ดังที่เอกอัครราชทูตเคนนี่ย์ได้กล่าวแล้ว รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์และวัฒนธรรมของประเทศไทยอย่างสูงสุด เมื่อเร็วๆ นี้ ท่านประธานาธิบดีโอบามา (นายบารัค โอบามา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคลินตัน (นางฮิลลารี่ คลินตัน) และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ประเทศไทยเป็นมิตรเก่าแก่ที่สุดในเอเซียของสหรัฐฯ และสหรัฐฯ จะยังคงยืนเคียงข้างประชาชนไทยตลอดไป เราเคารพกฎหมายไทย และสำหรับเรื่องกิจการภายในของประเทศไทยนั้น สหรัฐฯ ไม่เข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น สหรัฐฯ สนับสนุนให้มีเสรีภาพในการแสดงออกในทุกประเทศทั่วโลกและถือว่าเสรีภาพฯ นี้เป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์
ทั้งนี้ การออกคำแถลงดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเฟซบุ๊ก US Embassy Bangkok ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นชาวไทยจำนวนมากแสดงความคิดเห็นทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แสดงความไม่พอใจกรณีที่ นายเดอรราจ์ พาราดิโซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายเอเชียตะวันออกของสหรัฐอเมริกา แสดงความวิตกกังวลต่อการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 และกระบวนการยุติธรรมของไทย และการแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ของ นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กรณีการตัดสินคดีของ นายโจ กอร์ดอน ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า มีความกังวลต่อการตัดสินที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในเรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น แม้ภายหลังผู้ดูแลเฟซบุ๊ก US Embassy Bangkok ได้ขึ้นข้อความว่า “เรียนเพื่อนๆ ชาวเฟซบุ๊ก เรายินดีรับมุมมองและความคิดเห็นที่หลากหลายบนหน้าเฟซบุ๊กต่างๆ ของเรา เพียงแต่อยากขอให้เพื่อนๆ ทำความเข้าใจกับเงื่อนไขในการให้บริการเฟซบุ๊กของเรา และโปรดงดเว้นการใช้ภาษาที่หยาบคาย รุนแรง หรือข่มขู่” แต่ก็ยังมีสมาชิกเฟซบุ๊กเข้ามาโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของสหรัฐฯ เกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างต่อเนื่อง
***สยามสามัคคีบุกจี้ UN ขอโทษ
นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และเครือข่ายสยามสามัคคี ได้เดินทางมายังองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือต่อตัวแทนองค์การสหประชาชาติ เกี่ยวกับกรณีที่สหประชาชาติแสดงความเห็นว่ากฎหมายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ มาตรา 112 ของไทย มีโทษหนักเกินไป และผิดกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยนายแพทย์ตุลย์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นการเข้ามาละเมิดอธิปไตยทางกฎหมายของประเทศไทย จึงขอให้ทางสหประชาชาติยุติเรื่องดังกล่าว และหากเป็นไปได้ก็อยากให้ออกมาขอโทษประเทศไทย
พร้อมยืนยันด้วยว่า ทุกประเทศมีกฎหมายปกป้องประมุขของตนเองทั้งนั้น และกฎหมายมาตรา 112 ไม่ขัดต่อกติการะหว่างประเทศ โดยได้ยกกติการะหว่างประเทศ มาตรา 19 มายืนยันต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว จากนั้น กลุ่มเครือข่ายสยามสามัคคี จะเดินทางไปยื่นหนังสือในเรื่องเดียวกันต่อสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยต่อไป.