00 เห็นภาพการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศทั้งในห้องแอร์ที่กอง บก.กองทัพไทย และกลางแจ้งที่ บก.ทบ.โดยครั้งหลังสุดได้เห็นภาพที่ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้คิดไปได้หลายมุม โดยเฉพาะคำถามเรื่องการทำงานกับกองทัพ และเรื่องปฏิวัติ เหมือนกับว่าเป็นคำถามที่ตั้งใจชงขึ้นมาเพื่อให้เป็นคำตอบผูกมัดตัวเองทั้งสองฝ่าย ทำให้กระอักกระอ่วน และงานนี้คำตอบเรื่องปฏิวัติหรือไม่ของจริงไม่มีใครยืนยันอยู่แล้ว ปัญหาก็คืออย่ามา “ล้ำเส้น” ก็แล้วกัน อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหา
00 ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร พรบ.นิรโทษฯ หรือว่า พรบ.ปรองดอง ก็ไม่ได้แตกต่างกัน เพราะเป้าหมายก็คือช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร ให้เอาเปรียบคนอื่น ทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ ไม่ต้องเอาคนอื่นมาแปะ ไม่ต้องมาปรารถนาดีกับกลุ่มอื่น โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ พวกเขายืนยันแล้วว่าให้ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ขึ้นอยู่กับศาลจะเป็นผู้ชี้ขาดจนถึงที่สุด ผิดถูกค่อยมาว่ากัน ส่วนอื่นก็เช่นเดียวกัน
00 การประกาศของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าจะมาในรูปแบบใหม่คือ พรบ.ปรองดอง อ้างว่าไม่ได้ช่วย ทักษิณ คนเดียวก็ว่ากันไป คิดว่าชาวบ้านเขาโง่ตามไม่ทันก็ไม่ว่ากัน ไม่เชื่อก็ลองดูแล้วกันว่างานนี้มันจะเจอแรงต้านกันขนาดไหน ถ้าอยาก “ไม่มีแผ่นดินอยู่แบบถาวร”ก็ลองเสี่ยงดูอีกรอบก็ได้
00 คนเราบางครั้งความโลภ ไม่รู้จักพอนั้นมันมีไม่สิ้นสุดจริงๆสำหรับคนชื่อ ทักษิณ เพราะปัจจุบันนี้มีทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว ทั้งอำนาจ บารมี ทรัพย์สินมหาศาล แต่ได้คืบแล้วคืบจะเอาวา คิดจะลองดีกับคนไทย คิดว่าเมื่อชนะการเลือกตั้งเข้ามาแล้วสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี ยังไม่เลิกคิดย่ำยีกระบวนการยุติธรรม คิดจะเอาเปรียบคนอื่นท่าเดียวมันก็อยู่ด้วยกันลำบาก เพราะเที่ยวนี้เชื่อว่าไม่มีใครยอม แรงต้านจะรวมพลังหนักกว่าเก่าแน่นอน
00 ดูแนวโน้มแล้วสถานการณ์การเมืองต้นปีหน้า น่าจะร้อนแรง หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว เพราะกลายเป็นว่า ทักษิณ ต้องรีบลงมือทำทุกอย่างตามเป้าหมาย โดยต้องร่นเวลาเข้ามาให้เร็วขึ้น สาเหตุก็เป็นเพราะความห่วยแตกของ น้องสาวตัวเอง สามสี่เดือนที่ผ่านมา “เสียศูนย์” จนแทบล้มคะมำ ขณะเดียวกันถ้าเปลี่ยนตัวออกไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้มันก็ไม่มีเหตุผลอธิบาย ครั้นลากยาวไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งพัง ยิ่งปีหน้าปัญหาสารพัดทั้งภายในภายนอกรุมเร้าเข้ามา ดูแนวโน้มแล้ว “เอาไม่อยู่แน่” ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้อง “เร่งเกม”
00 รู้ทั้งรู้ว่าคบกับ “เหลิม” มันเสี่ยง นั่นคือ เสี่ยงทั้งในพรรค มีคนหมั่นไส้อิจฉาริษยา ก็มีอยู่ไม่น้อย เพราะงานนี้เหมือนกับการลงทุนที่ต้องการผลตอบแทน สำหรับเหลิม แน่นอนว่าต้องเล็งไปที่เก้าอี้ มท.1 ของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ไว้ก่อน มิน่า คำพูดของ อารีย์ ไกรนารา คนใกล้ตัวรีบชิงออกมาตีกันไว้ก่อนว่า นายตัวเองมีผลงานเยอะเก้าอี้มั่นคง เพียงแต่ว่าไม่ชอบ “แอ๊กอาร์ต” เท่านั้นเอง เอ๊ะคำนี้คุ้นๆมักใช้กับใครนะ “ไอ้ปื๊ด” ช่วยบอกหน่อย !!
00 ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร พรบ.นิรโทษฯ หรือว่า พรบ.ปรองดอง ก็ไม่ได้แตกต่างกัน เพราะเป้าหมายก็คือช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร ให้เอาเปรียบคนอื่น ทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ ไม่ต้องเอาคนอื่นมาแปะ ไม่ต้องมาปรารถนาดีกับกลุ่มอื่น โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ พวกเขายืนยันแล้วว่าให้ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ขึ้นอยู่กับศาลจะเป็นผู้ชี้ขาดจนถึงที่สุด ผิดถูกค่อยมาว่ากัน ส่วนอื่นก็เช่นเดียวกัน
00 การประกาศของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าจะมาในรูปแบบใหม่คือ พรบ.ปรองดอง อ้างว่าไม่ได้ช่วย ทักษิณ คนเดียวก็ว่ากันไป คิดว่าชาวบ้านเขาโง่ตามไม่ทันก็ไม่ว่ากัน ไม่เชื่อก็ลองดูแล้วกันว่างานนี้มันจะเจอแรงต้านกันขนาดไหน ถ้าอยาก “ไม่มีแผ่นดินอยู่แบบถาวร”ก็ลองเสี่ยงดูอีกรอบก็ได้
00 คนเราบางครั้งความโลภ ไม่รู้จักพอนั้นมันมีไม่สิ้นสุดจริงๆสำหรับคนชื่อ ทักษิณ เพราะปัจจุบันนี้มีทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว ทั้งอำนาจ บารมี ทรัพย์สินมหาศาล แต่ได้คืบแล้วคืบจะเอาวา คิดจะลองดีกับคนไทย คิดว่าเมื่อชนะการเลือกตั้งเข้ามาแล้วสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี ยังไม่เลิกคิดย่ำยีกระบวนการยุติธรรม คิดจะเอาเปรียบคนอื่นท่าเดียวมันก็อยู่ด้วยกันลำบาก เพราะเที่ยวนี้เชื่อว่าไม่มีใครยอม แรงต้านจะรวมพลังหนักกว่าเก่าแน่นอน
00 ดูแนวโน้มแล้วสถานการณ์การเมืองต้นปีหน้า น่าจะร้อนแรง หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว เพราะกลายเป็นว่า ทักษิณ ต้องรีบลงมือทำทุกอย่างตามเป้าหมาย โดยต้องร่นเวลาเข้ามาให้เร็วขึ้น สาเหตุก็เป็นเพราะความห่วยแตกของ น้องสาวตัวเอง สามสี่เดือนที่ผ่านมา “เสียศูนย์” จนแทบล้มคะมำ ขณะเดียวกันถ้าเปลี่ยนตัวออกไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้มันก็ไม่มีเหตุผลอธิบาย ครั้นลากยาวไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งพัง ยิ่งปีหน้าปัญหาสารพัดทั้งภายในภายนอกรุมเร้าเข้ามา ดูแนวโน้มแล้ว “เอาไม่อยู่แน่” ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้อง “เร่งเกม”
00 รู้ทั้งรู้ว่าคบกับ “เหลิม” มันเสี่ยง นั่นคือ เสี่ยงทั้งในพรรค มีคนหมั่นไส้อิจฉาริษยา ก็มีอยู่ไม่น้อย เพราะงานนี้เหมือนกับการลงทุนที่ต้องการผลตอบแทน สำหรับเหลิม แน่นอนว่าต้องเล็งไปที่เก้าอี้ มท.1 ของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ไว้ก่อน มิน่า คำพูดของ อารีย์ ไกรนารา คนใกล้ตัวรีบชิงออกมาตีกันไว้ก่อนว่า นายตัวเองมีผลงานเยอะเก้าอี้มั่นคง เพียงแต่ว่าไม่ชอบ “แอ๊กอาร์ต” เท่านั้นเอง เอ๊ะคำนี้คุ้นๆมักใช้กับใครนะ “ไอ้ปื๊ด” ช่วยบอกหน่อย !!