นราธิวาส - ดีเอสไอบุกทลายแหล่งค้ามนุษย์กลางเมืองโก-ลก ช่วยหญิงชาวลาวได้กว่า 30 คน พบสถานบันเทิงเมืองนราฯ ค้ากามผิดกฎหมายอีกเพียบแต่ผู้เกี่ยวข้องกลับนิ่งเฉย
วานนี้( 14 ธ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพสิทธิ์ สังคพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ 9 ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 นำหมายศาลจังหวัดนราธิวาส เข้าตรวจค้นร้านอินเตอร์คาราโอเกะ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 16 และเลขที่ 21 ถ.ประชาวิวัฒน์ ซอย 3 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก หลังจากได้รับการร้องเรียนจากพ่อและแม่ของเด็กหญิงชาวลาวรายหนึ่ง ผ่านมูลนิธิพิทักษ์สตรีว่าลูกสาวถูกล่อลวงบังคับมาค้าประเวณี
การตรวจค้นในครั้งนี้พบว่า ร้านอินเตอร์คาราโอเกะ มีนายสาธิต สาระวัน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/5 ถ.รัตชนะอุทิศ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเจ้าของ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือหญิงชาวลาวได้จำนวนทั้งสิ้น 36 คน โดยแยกเป็นหญิงชาวลาวที่ถูกบังคับค้าประเวณีที่ร้านเลขที่ 16 ได้จำนวน 17 คน และเป็นหญิงชาวลาวที่ถูกบังคับค้าประเวณีที่ร้านเลขที่ 21 ได้จำนวน 19 คน แยกเป็นเด็กหญิงอายุไม่ถึง 18 ปี จำนวน 3 คน
เมื่อเจ้าหน้าที่บุกช่วยเหลือหญิงชาวลาวได้แล้ว จึงได้ทำการประสานไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการจัดแยกผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 เพื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือ และส่งตัวกลับประเทศต่อไป พร้อมทั้งได้มีการจับกุมนายสาธิต เจ้าของร้านดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ ร้านคาราโอเกะที่ดำเนินกิจการในลักษณะดังกล่าวนี้มีมากในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ และ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ค่อยได้มีการกวดขันและจับกุม และปล่อยให้มีการผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด โดยในปัจจุบันทั้ง 3 พื้นที่นี้มีมากเป็นร้อยๆ แห่งแล้ว ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ โดยเฉพาะตำรวจสายสืบ สามารถเข้าไปได้ทุกสถานบันเทิง แต่ปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมาย จนชาวบ้านชินชา และมองว่าเป็นเมืองเถื่อนกฎหมายไปไม่ถึง
วานนี้( 14 ธ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพสิทธิ์ สังคพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ 9 ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 นำหมายศาลจังหวัดนราธิวาส เข้าตรวจค้นร้านอินเตอร์คาราโอเกะ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 16 และเลขที่ 21 ถ.ประชาวิวัฒน์ ซอย 3 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก หลังจากได้รับการร้องเรียนจากพ่อและแม่ของเด็กหญิงชาวลาวรายหนึ่ง ผ่านมูลนิธิพิทักษ์สตรีว่าลูกสาวถูกล่อลวงบังคับมาค้าประเวณี
การตรวจค้นในครั้งนี้พบว่า ร้านอินเตอร์คาราโอเกะ มีนายสาธิต สาระวัน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/5 ถ.รัตชนะอุทิศ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเจ้าของ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือหญิงชาวลาวได้จำนวนทั้งสิ้น 36 คน โดยแยกเป็นหญิงชาวลาวที่ถูกบังคับค้าประเวณีที่ร้านเลขที่ 16 ได้จำนวน 17 คน และเป็นหญิงชาวลาวที่ถูกบังคับค้าประเวณีที่ร้านเลขที่ 21 ได้จำนวน 19 คน แยกเป็นเด็กหญิงอายุไม่ถึง 18 ปี จำนวน 3 คน
เมื่อเจ้าหน้าที่บุกช่วยเหลือหญิงชาวลาวได้แล้ว จึงได้ทำการประสานไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการจัดแยกผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 เพื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือ และส่งตัวกลับประเทศต่อไป พร้อมทั้งได้มีการจับกุมนายสาธิต เจ้าของร้านดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ ร้านคาราโอเกะที่ดำเนินกิจการในลักษณะดังกล่าวนี้มีมากในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ และ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ค่อยได้มีการกวดขันและจับกุม และปล่อยให้มีการผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด โดยในปัจจุบันทั้ง 3 พื้นที่นี้มีมากเป็นร้อยๆ แห่งแล้ว ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ โดยเฉพาะตำรวจสายสืบ สามารถเข้าไปได้ทุกสถานบันเทิง แต่ปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมาย จนชาวบ้านชินชา และมองว่าเป็นเมืองเถื่อนกฎหมายไปไม่ถึง
