ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- โครงการรับจำนำข้าวโคราชวุ่นชาวนาเดือดร้อนหนัก ข้อมูล “อคส.” ห่วยล่มซ้ำซาก แถมจนท.น้อย โกดังเต็ม ต้องนอนรอคิวหลายวัน เผยเกษตรกรร่วม 9,000 ราย ขนข้าวจำนำกับโรงสีมานานกว่า 2 เดือนยังไม่ได้รับใบประทวนไปเบิกเงินกับธ.ก.ส. ด้านผู้ว่าฯเต้นผวาม็อบใหญ่ปิดถนน สั่ง นอภ.และหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งสางปัญหาลั่นต้องออกใบประทวนใน 1 สัปดาห์โดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมจัดคิวการรับจำนำไม่ให้เสียเวลารอนาน
นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/54 ของรัฐบาล ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังเกิดปัญหาความล่าช้าเป็นอย่างมากในการออกใบประทวนให้แก่เกษตรกร ว่า ล่าสุดได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/54 จ.นครราชสีมา และนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอเพื่อให้เร่งรัดดำเนินการ โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับใบประทวนล่าช้าเป็นเวลานานถึง 1-2 เดือน ส่งผลให้เกษตรกรนำไปเบิกเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ล่าช้าเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญมาจากระบบขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ไม่เป็นไปตามที่วางไว้ ทั้งการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อป้อนข้อมูลเข้ามากเกินไปก็ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ล่ม และเจ้าหน้าที่ อคส. ที่ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอ ฉะนั้นการป้อนข้อมูลของเกษตรกรเพื่อออกใบประทวนจากที่กำหนดไว้ 3 วัน ต้องยืดระยะเวลาออกไปนานถึง 1-2 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องผลผลิตข้าวที่ออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรต้องบรรทุกข้าวเปลือกมาเข้าคิวรอเข้าโครงการรับจำนำตามจุดต่างๆ เป็นเวลานานหลายวันกว่าจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการรับจำนำ รวมถึงโรงสีบางแห่งวางเงินค้ำประกันน้อยไม่สมดุลกับปริมาณข้าวที่เข้าสู่ระบบจำนำ อีกทั้งโกดังกลางมีน้อยไม่เพียงพอรองรับปริมาณข้าว และปัญหาข้าวมีคุณภาพต่ำ
นายชวน กล่าวต่อว่า ฉะนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้เร่งดำเนินการ โดยจัดลำดับคิวในการรับจำนำข้าวเพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียเวลาในการรอนานเกินไป และเร่งเปิดโกดังกลางเพิ่มเติมจากที่ขอไป 9 แห่ง ปัจจุบันเปิดได้เพียง 3 แห่ง เท่านั้น ส่วนการออกใบประทวน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรกรที่อาจจะนำไปสู่การชุมนุมใหญ่ปิดถนนกดดันเรียกร้องการแก้ปัญหาตามที่มีกระแสข่าวออกมา นั้น ให้มีการเร่งรัดต้องออกใบประทวนให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/54 จ.นครราชสีมา ดำเนินการเปิดรับจำนำพร้อมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 7 ต.ค. 2554 - 29 ก.พ. 2555 กำหนดระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับจากวันรับจำนำ มีเกษตรกรลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 202,540 ครัวเรือน คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 1 ล้านตัน โดยมีโรงสีเข้าร่วมโครงการเปิดจุดรับจำนำรวม 35 แห่ง และ เปิดจุดรับจำนำแล้ว 30 แห่ง ใน 17 อำเภอ แบ่งเป็น โรงสี 15 แห่ง , จุดรับจำนำย่อย 15 แห่ง (ลาน) ยังไม่ได้เปิดรับจำนำ 5 แห่ง เนื่องจากยังไม่มีธนาคารค้ำประกัน และ มีโรงสีปิดจุดรับจำนำ 2 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2554 ที่ผ่านมา คือ หจก.เกษตรรุ่งเรือง อ.ชุมพวง และ หจก. เกษตรรุ่งเรือง อ.สีดา เนื่องจากรับจำนำข้าวเต็มวงเงินค้ำประกัน ส่วนโกดังกลางที่ผ่านการรับรองจากคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด มีจำนวน 9 แห่ง เปิดดำเนินการแล้ว 3 แห่ง
ล่าสุดทั้งจังหวัด มีปริมาณการรับจำนำข้าวเปลือก (ณ วันที่ 11 ธ.ค. 54) ยอดรวม 77,086.592 ตัน เกษตรกรจำนวน 17,965 ราย แยกเป็น ข้าวหอมมะลิ 61,009.343 ตัน ข้าวปทุมธานี 3,442 ตัน ข้าวเจ้า 5% จำนวน 16,073.807 ตัน
สำหรับเกษตรกรที่นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำฯ ตั้งแต่ พ.ย. เป็นต้นมา แต่ยังไม่ได้รับใบประทวนมีจำนวนทั้งสิ้น 8,887 ราย แบ่งเป็น โรงสีของ บจก.เจียเม้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 5,270 ราย , โรงสี บจก.ไทยณรงค์กุดจิก อ.สูงเนิน จำนวน 1,086 ราย , บจก.โรงสีธัญญะรุ่งเรืองชัย อ.เมือง จำนวน 800 ราย และ บจก.ไทยณรงค์รุ่งเรืองโชคชัย อ.โชคชัย จำนวน 425 ราย เป็นต้น
นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/54 ของรัฐบาล ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังเกิดปัญหาความล่าช้าเป็นอย่างมากในการออกใบประทวนให้แก่เกษตรกร ว่า ล่าสุดได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/54 จ.นครราชสีมา และนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอเพื่อให้เร่งรัดดำเนินการ โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับใบประทวนล่าช้าเป็นเวลานานถึง 1-2 เดือน ส่งผลให้เกษตรกรนำไปเบิกเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ล่าช้าเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญมาจากระบบขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ไม่เป็นไปตามที่วางไว้ ทั้งการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อป้อนข้อมูลเข้ามากเกินไปก็ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ล่ม และเจ้าหน้าที่ อคส. ที่ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอ ฉะนั้นการป้อนข้อมูลของเกษตรกรเพื่อออกใบประทวนจากที่กำหนดไว้ 3 วัน ต้องยืดระยะเวลาออกไปนานถึง 1-2 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องผลผลิตข้าวที่ออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรต้องบรรทุกข้าวเปลือกมาเข้าคิวรอเข้าโครงการรับจำนำตามจุดต่างๆ เป็นเวลานานหลายวันกว่าจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการรับจำนำ รวมถึงโรงสีบางแห่งวางเงินค้ำประกันน้อยไม่สมดุลกับปริมาณข้าวที่เข้าสู่ระบบจำนำ อีกทั้งโกดังกลางมีน้อยไม่เพียงพอรองรับปริมาณข้าว และปัญหาข้าวมีคุณภาพต่ำ
นายชวน กล่าวต่อว่า ฉะนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้เร่งดำเนินการ โดยจัดลำดับคิวในการรับจำนำข้าวเพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียเวลาในการรอนานเกินไป และเร่งเปิดโกดังกลางเพิ่มเติมจากที่ขอไป 9 แห่ง ปัจจุบันเปิดได้เพียง 3 แห่ง เท่านั้น ส่วนการออกใบประทวน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรกรที่อาจจะนำไปสู่การชุมนุมใหญ่ปิดถนนกดดันเรียกร้องการแก้ปัญหาตามที่มีกระแสข่าวออกมา นั้น ให้มีการเร่งรัดต้องออกใบประทวนให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/54 จ.นครราชสีมา ดำเนินการเปิดรับจำนำพร้อมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 7 ต.ค. 2554 - 29 ก.พ. 2555 กำหนดระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับจากวันรับจำนำ มีเกษตรกรลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 202,540 ครัวเรือน คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 1 ล้านตัน โดยมีโรงสีเข้าร่วมโครงการเปิดจุดรับจำนำรวม 35 แห่ง และ เปิดจุดรับจำนำแล้ว 30 แห่ง ใน 17 อำเภอ แบ่งเป็น โรงสี 15 แห่ง , จุดรับจำนำย่อย 15 แห่ง (ลาน) ยังไม่ได้เปิดรับจำนำ 5 แห่ง เนื่องจากยังไม่มีธนาคารค้ำประกัน และ มีโรงสีปิดจุดรับจำนำ 2 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2554 ที่ผ่านมา คือ หจก.เกษตรรุ่งเรือง อ.ชุมพวง และ หจก. เกษตรรุ่งเรือง อ.สีดา เนื่องจากรับจำนำข้าวเต็มวงเงินค้ำประกัน ส่วนโกดังกลางที่ผ่านการรับรองจากคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด มีจำนวน 9 แห่ง เปิดดำเนินการแล้ว 3 แห่ง
ล่าสุดทั้งจังหวัด มีปริมาณการรับจำนำข้าวเปลือก (ณ วันที่ 11 ธ.ค. 54) ยอดรวม 77,086.592 ตัน เกษตรกรจำนวน 17,965 ราย แยกเป็น ข้าวหอมมะลิ 61,009.343 ตัน ข้าวปทุมธานี 3,442 ตัน ข้าวเจ้า 5% จำนวน 16,073.807 ตัน
สำหรับเกษตรกรที่นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำฯ ตั้งแต่ พ.ย. เป็นต้นมา แต่ยังไม่ได้รับใบประทวนมีจำนวนทั้งสิ้น 8,887 ราย แบ่งเป็น โรงสีของ บจก.เจียเม้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 5,270 ราย , โรงสี บจก.ไทยณรงค์กุดจิก อ.สูงเนิน จำนวน 1,086 ราย , บจก.โรงสีธัญญะรุ่งเรืองชัย อ.เมือง จำนวน 800 ราย และ บจก.ไทยณรงค์รุ่งเรืองโชคชัย อ.โชคชัย จำนวน 425 ราย เป็นต้น
