ASTVผู้จัดกการรายวัน - เผยเงินทุนไหลเข้าจากเงินประกันภัยน้ำท่วมเริ่มทยอยเข้ามา ปัจจุบันเข้ามาแล้ว 1,000 ล้านเหรียญ รวมถึงเงินไหลเข้าจากภาวะ Risk off ในยุโรป ผู้ว่าแบงก์ชาติคาดปลายปีบาทอาจแข็งค่าขึ้นบ้าง พอใจเงินทุนเคลื่อนย้ายสมดุล เหตุมีเงินทุนไหลออกจากนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศด้วย
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธปท.ไม่กังวลเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายมากนัก เนื่องจากค่อนข้างสมดุลทั้งเงินทุนไหลออกจากนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ขณะเดียวกันในส่วนของเงินทุนไหลเข้ามาจากเงินบริษัทประกันภัยต่อของต่างชาติไหลเข้ามา ซึ่งไหลเข้ามาแล้วประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อชดเชยความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยในไทย
ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติห่วงปัญหาหนี้สินในยุโรป จึงมีการขายสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงแล้วหันไปถือสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (Risk off) มากขึ้น
“ตอนนี้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายค่อนข้างสมดุล ฝั่งขาออกเกิดจากคนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ฝั่งขาเข้าจากเงินประกันภัยที่เริ่มทยอยเข้ามาและมีพวก Risk off จากเหตุการณ์ในยุโรป ทำให้พวกนักลงทุนในหุ้นและพันธบัตรทั่วโลกมีการขายออกมา” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
การเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงนี้ก็ไม่น่ากังวลจากปริมาณเงินทุนเคลื่อนย้ายสมดุล แต่ในช่วงปลายปีนี้อาจมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้บ้าง เนื่องจากปัญหาในยุโรป ทำให้เกิดภาวะ Risk off แต่เชื่อว่าภาวะเช่นนี้จะค่อยๆ ซาไปสักช่วงหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 2 ธ.ค.54 พบว่า อยู่ที่ระดับ 1.778 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5.486 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.31 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันที่ระดับ 30.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.764 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 5.511 ล้านล้านบาท
ขณะที่ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิอยู่ที่ระดับ 3.06 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 200 ล้านเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนที่ 3.04 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ฐาะทุนสำรองสุทธิซึ่งรวมฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิด้วยอยู่ที่ระดับ 2.084 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
โดยการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองในสัปาดห์นี้น่าจะเป็นผลจากการเข้าซื้อเงินตราต่างประเทศหรือเงินเหรียญหสรัฐทันทีเข้าเก็บสะสมในทุนสำรอง เพื่อดูแลแทรกแซงค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนมากเกินไป
***แบงก์หยุดทำการ 31 ธ.ค.54-3 ม.ค.55
ด้านนายประสารเปิดเผยด้วยว่า เพิ่งได้ลงนามอนุมัติให้วันที่ 3 ม.ค.นี้เป็นวันหยุดทำการของสถาบันการเงินในระบบตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้หยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.54-3 ม.ค.55 และคาดว่า ธปท.จะประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้.
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธปท.ไม่กังวลเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายมากนัก เนื่องจากค่อนข้างสมดุลทั้งเงินทุนไหลออกจากนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ขณะเดียวกันในส่วนของเงินทุนไหลเข้ามาจากเงินบริษัทประกันภัยต่อของต่างชาติไหลเข้ามา ซึ่งไหลเข้ามาแล้วประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อชดเชยความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยในไทย
ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติห่วงปัญหาหนี้สินในยุโรป จึงมีการขายสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงแล้วหันไปถือสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (Risk off) มากขึ้น
“ตอนนี้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายค่อนข้างสมดุล ฝั่งขาออกเกิดจากคนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ฝั่งขาเข้าจากเงินประกันภัยที่เริ่มทยอยเข้ามาและมีพวก Risk off จากเหตุการณ์ในยุโรป ทำให้พวกนักลงทุนในหุ้นและพันธบัตรทั่วโลกมีการขายออกมา” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
การเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงนี้ก็ไม่น่ากังวลจากปริมาณเงินทุนเคลื่อนย้ายสมดุล แต่ในช่วงปลายปีนี้อาจมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้บ้าง เนื่องจากปัญหาในยุโรป ทำให้เกิดภาวะ Risk off แต่เชื่อว่าภาวะเช่นนี้จะค่อยๆ ซาไปสักช่วงหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 2 ธ.ค.54 พบว่า อยู่ที่ระดับ 1.778 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5.486 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.31 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันที่ระดับ 30.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.764 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 5.511 ล้านล้านบาท
ขณะที่ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิอยู่ที่ระดับ 3.06 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 200 ล้านเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนที่ 3.04 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ฐาะทุนสำรองสุทธิซึ่งรวมฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิด้วยอยู่ที่ระดับ 2.084 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
โดยการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองในสัปาดห์นี้น่าจะเป็นผลจากการเข้าซื้อเงินตราต่างประเทศหรือเงินเหรียญหสรัฐทันทีเข้าเก็บสะสมในทุนสำรอง เพื่อดูแลแทรกแซงค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนมากเกินไป
***แบงก์หยุดทำการ 31 ธ.ค.54-3 ม.ค.55
ด้านนายประสารเปิดเผยด้วยว่า เพิ่งได้ลงนามอนุมัติให้วันที่ 3 ม.ค.นี้เป็นวันหยุดทำการของสถาบันการเงินในระบบตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้หยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.54-3 ม.ค.55 และคาดว่า ธปท.จะประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้.