นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศหลายสำนักข่าว ที่มีชื่อเสียงทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ให้ความสนใจความเคลื่อนไหวของสมาคมฯ ต่อกรณีทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ช่วยเรียกร้องสิทธิให้กับประชาชนในกรณีน้ำท่วม เพราะถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างของโลก ที่องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคประชาชนลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของประชาชน ในการเรียกร้องค่าเสียหายผ่านกระบวนการทางศาลปกครอง อันเนื่องมาจากความผิดพลาด ล้มเหลว ของการบริหารจัดการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ จนก่อให้เกิดความเดือดร้อน และเสียหายแก่ประชาชนมากกว่า 3 ล้านคน
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ THE YOMIURI SHIMBUN จากญี่ปุ่น ให้ความสนใจถึงกรณีความเสียหายของนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่ง ที่ถูกน้ำท่วมไปนั้น และมีการกู้นิคมฯโดยการสูบน้ำออกทิ้งมายังภายนอกนิคมฯ กระทบต่อชาวบ้าน เพราะมีสารเคมี และขยะพิษเจือปนนั้น สมาคมฯ มีแนวทางการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งสมาคมฯ ได้ทำหนังสือแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กนอ. กรมโรงงานฯ กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษทราบแล้ว และเรื่องนี้ต้องมีคำตอบและคำอธิบายจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หากภาครัฐไม่ดำเนินการใดๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ทางสมาคมฯจะต้องฟ้องร้องหน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แน่นอน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ THE GARDIAN ของอังกฤษ ก็ให้ความสนใจถึงปัญหาสภาวะโลกร้อน ว่ามีผลต่อกรณีน้ำท่วมในประเทศไทยอย่างไร ซึ่ง นายกสมาคมฯ ตอบชัดเจนว่า ปัญหาโลกร้อนมีผลต่อกรณีน้ำท่วมในประเทศไทยไม่เกิน 30 % เท่านั้น นอกจากนั้น 70 % เป็นเรื่องของการบริหารจัดการที่ผิดพลาด ล้มเหลวของรัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐแทบทั้งสิ้น เริ่มจากความผิดพลาดในการตั้ง ศปภ. ทั้งๆ ที่มีคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “กปภ.ช.” ตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่นายกฯ กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไปตั้งคณะกรรมการใหม่ขึ้นมา โดยนำบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถไม่ตรงกับสายงาน เข้ามาบริหารจัดการน้ำ จึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนตามมามากมาย เกินกว่าที่จะแก้ไขได้
ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ THE LIBERIAN จากฝรั่งเศส ถามถึงความคาดหวังในคดีนี้อย่างไร ซึ่งนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คดีนี้จะเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนทั้งแผ่นดินจะลุกขึ้นมาฟ้องร้องรัฐบาล และหน่วยงานของรัฐเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย อันเนื่องมาจากความผิดพลาดล้มเหลวของการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล และคำพิพากษาของศาล จะเป็นมาตรฐานที่จะทำให้นักการเมืองในปัจจุบัน และในอนาคตที่เสนอตัวเข้ามารับใช้ประชาชน ได้ตระหนักว่า ตนเองจะต้องมีความรู้ความสามารถเท่านั้น จึงควรที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชน และในฝ่ายการเมืองหรือนายกรัฐมนตรี จะต้องเลือกใช้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับสายงานเท่านั้นมาเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานรัฐ ไม่ใช่เลือกใครมาอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ตามโควต้า ตามการตอบแทนทางการเมือง หรือตามที่เป็นคนของใคร หรือเอาแต่พวกเชลียร์มาทำงาน โดยไม่สนใจเลยว่า มีความรู้ความสามารถเพียงพอหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ THE YOMIURI SHIMBUN จากญี่ปุ่น ให้ความสนใจถึงกรณีความเสียหายของนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่ง ที่ถูกน้ำท่วมไปนั้น และมีการกู้นิคมฯโดยการสูบน้ำออกทิ้งมายังภายนอกนิคมฯ กระทบต่อชาวบ้าน เพราะมีสารเคมี และขยะพิษเจือปนนั้น สมาคมฯ มีแนวทางการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งสมาคมฯ ได้ทำหนังสือแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กนอ. กรมโรงงานฯ กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษทราบแล้ว และเรื่องนี้ต้องมีคำตอบและคำอธิบายจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หากภาครัฐไม่ดำเนินการใดๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ทางสมาคมฯจะต้องฟ้องร้องหน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แน่นอน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ THE GARDIAN ของอังกฤษ ก็ให้ความสนใจถึงปัญหาสภาวะโลกร้อน ว่ามีผลต่อกรณีน้ำท่วมในประเทศไทยอย่างไร ซึ่ง นายกสมาคมฯ ตอบชัดเจนว่า ปัญหาโลกร้อนมีผลต่อกรณีน้ำท่วมในประเทศไทยไม่เกิน 30 % เท่านั้น นอกจากนั้น 70 % เป็นเรื่องของการบริหารจัดการที่ผิดพลาด ล้มเหลวของรัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐแทบทั้งสิ้น เริ่มจากความผิดพลาดในการตั้ง ศปภ. ทั้งๆ ที่มีคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เรียกโดยย่อว่า “กปภ.ช.” ตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่นายกฯ กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไปตั้งคณะกรรมการใหม่ขึ้นมา โดยนำบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถไม่ตรงกับสายงาน เข้ามาบริหารจัดการน้ำ จึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนตามมามากมาย เกินกว่าที่จะแก้ไขได้
ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ THE LIBERIAN จากฝรั่งเศส ถามถึงความคาดหวังในคดีนี้อย่างไร ซึ่งนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คดีนี้จะเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนทั้งแผ่นดินจะลุกขึ้นมาฟ้องร้องรัฐบาล และหน่วยงานของรัฐเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย อันเนื่องมาจากความผิดพลาดล้มเหลวของการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล และคำพิพากษาของศาล จะเป็นมาตรฐานที่จะทำให้นักการเมืองในปัจจุบัน และในอนาคตที่เสนอตัวเข้ามารับใช้ประชาชน ได้ตระหนักว่า ตนเองจะต้องมีความรู้ความสามารถเท่านั้น จึงควรที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชน และในฝ่ายการเมืองหรือนายกรัฐมนตรี จะต้องเลือกใช้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับสายงานเท่านั้นมาเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานรัฐ ไม่ใช่เลือกใครมาอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ตามโควต้า ตามการตอบแทนทางการเมือง หรือตามที่เป็นคนของใคร หรือเอาแต่พวกเชลียร์มาทำงาน โดยไม่สนใจเลยว่า มีความรู้ความสามารถเพียงพอหรือไม่