ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลอาญาลงโทษจำคุก 5 ปี“โจ กอร์ดอน”จำเลยคดีหมิ่นสถาบัน แปลหนังสือ “The King Never Smile”ลงบล็อกบนอินเทอร์เน็ต สารภาพศาลลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน เจ้าตัวยอมรับโทษไม่ยื่นอุทธรณ์คดี ขณะที่ทนายความจะยื่นขออภัยโทษ
วานนี้(8 ธ.ค.)ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขคดีดำ อ.3328/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ หรือสิน แซ่จิ้ว หรือโจ กอร์ดอน (Joe Wichai Commart Gordon) อายุ 54 ปี สัญชาติไทย-อเมริกัน อาชีพเซลส์ขายรถ และจิตรกร เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์, กระทำให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และเป็นผู้นำเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116, พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 2 พ.ย.50 - 24 พ.ค.54 เวลากลางวัน จำเลยได้นำข้อความเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในบล็อกแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตที่ชื่อบาทเดียว โดยจำเลยใช้นามแฝงว่า สิน แซ่จิ้ว และจำเลยอ้างตัวเป็นผู้แปลหนังสือต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรชื่อ “The King Never Smile” หรือกษัตริย์ผู้ไม่เคยยิ้ม เหตุเกิดที่ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา และทั่วราชอาณาจักร และนอกราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน
โดยจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงสั่งสืบเสาะประวัติก่อนนัดพิพากษาคดี
ขณะที่ศาลได้สอบถามจำเลยเกี่ยวกับคำให้การอีกครั้งตามที่จำเลยเคยให้การว่า ไม่เคยรู้เรื่องการเมืองไทย ไม่เกี่ยวข้องกับมวลชนสีเหลือง และสีแดง ไม่เคยโพสต์ข้อความดูหมิ่นสถาบันและไม่รู้จักกับบุคคลที่ใช้ชื่อสิน แซ่จิ้ว นั้นจะเท่ากับจำเลยให้การปฏิเสธใช่หรือไม่
นายเลอพงษ์ จำเลย และนายอานนท์ นำพา ทนายความ จึงแถลงต่อศาลยืนยันว่า จำเลยให้การรับสารภาพ และไม่เคยกล่าวพาดพิงหรือโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันในคดีอื่น
จากนั้นศาลจึงอ่านคำพิพากษา โดยศาลพิเคราะห์คำฟ้อง คำรับสารภาพของจำเลย ประกอบรายงานการสืบเสาะประวัติแล้ว เห็นว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ ให้จำคุก 5 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ เหตุควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่ง คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน
ภายหลังฟังคำพิพากษา นายเลอพงษ์ หรือโจ กอร์ ดอน จำเลย กล่าวว่า ยอมรับโทษที่ศาลพิพากษา โดยจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดี
ด้านนายอานนท์ นำพา ทนายความกล่าวว่า อัตราโทษที่ศาลพิพากษาลงโทษนายเลอพงษ์ 5 ปี ถือว่าเป็นอัตราโทษที่ต่ำกว่าคดีอื่นๆ ที่จะอยู่ระหว่าง 6-10 ปี ขณะที่รับสารภาพแล้วโทษลดเหลือ 2 ปี 6 เดือน ซึ่งนายเลอพงษ์ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ถูกจับกุมถึงวันนี้เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว คงเหลือเวลาอีก 2 ปี โดยเราจะไม่ยื่นอุทธรณ์ แต่หลังจากนี้จะยื่นเรื่องขออภัยโทษผ่านกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรมตามขั้นตอนซึ่งเราจะมีเวลาประมาณ 1 เดือนดำเนินการ
นายอานนท์ ทนายความยังกล่าวถึงการรับสารภาพอีกว่า ได้พิจารณาระหว่างหลักกฎหมายกับสิทธิเสรีภาพ จึงได้ตัดสินใจอยากจะได้เสรีภาพ เพราะที่ผ่านมายื่นขอประกันตัว 7-8 ครั้งก็ไม่ได้ขณะการยื่นประกันตัวก็ต้องใช้หลักทรัพย์หลักล้านบาทแต่ก็ประกันตัวไม่ได้
วานนี้(8 ธ.ค.)ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขคดีดำ อ.3328/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ หรือสิน แซ่จิ้ว หรือโจ กอร์ดอน (Joe Wichai Commart Gordon) อายุ 54 ปี สัญชาติไทย-อเมริกัน อาชีพเซลส์ขายรถ และจิตรกร เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์, กระทำให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และเป็นผู้นำเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116, พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 2 พ.ย.50 - 24 พ.ค.54 เวลากลางวัน จำเลยได้นำข้อความเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในบล็อกแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตที่ชื่อบาทเดียว โดยจำเลยใช้นามแฝงว่า สิน แซ่จิ้ว และจำเลยอ้างตัวเป็นผู้แปลหนังสือต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรชื่อ “The King Never Smile” หรือกษัตริย์ผู้ไม่เคยยิ้ม เหตุเกิดที่ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา และทั่วราชอาณาจักร และนอกราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน
โดยจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงสั่งสืบเสาะประวัติก่อนนัดพิพากษาคดี
ขณะที่ศาลได้สอบถามจำเลยเกี่ยวกับคำให้การอีกครั้งตามที่จำเลยเคยให้การว่า ไม่เคยรู้เรื่องการเมืองไทย ไม่เกี่ยวข้องกับมวลชนสีเหลือง และสีแดง ไม่เคยโพสต์ข้อความดูหมิ่นสถาบันและไม่รู้จักกับบุคคลที่ใช้ชื่อสิน แซ่จิ้ว นั้นจะเท่ากับจำเลยให้การปฏิเสธใช่หรือไม่
นายเลอพงษ์ จำเลย และนายอานนท์ นำพา ทนายความ จึงแถลงต่อศาลยืนยันว่า จำเลยให้การรับสารภาพ และไม่เคยกล่าวพาดพิงหรือโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันในคดีอื่น
จากนั้นศาลจึงอ่านคำพิพากษา โดยศาลพิเคราะห์คำฟ้อง คำรับสารภาพของจำเลย ประกอบรายงานการสืบเสาะประวัติแล้ว เห็นว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 112 ฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ ให้จำคุก 5 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ เหตุควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่ง คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน
ภายหลังฟังคำพิพากษา นายเลอพงษ์ หรือโจ กอร์ ดอน จำเลย กล่าวว่า ยอมรับโทษที่ศาลพิพากษา โดยจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดี
ด้านนายอานนท์ นำพา ทนายความกล่าวว่า อัตราโทษที่ศาลพิพากษาลงโทษนายเลอพงษ์ 5 ปี ถือว่าเป็นอัตราโทษที่ต่ำกว่าคดีอื่นๆ ที่จะอยู่ระหว่าง 6-10 ปี ขณะที่รับสารภาพแล้วโทษลดเหลือ 2 ปี 6 เดือน ซึ่งนายเลอพงษ์ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ถูกจับกุมถึงวันนี้เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว คงเหลือเวลาอีก 2 ปี โดยเราจะไม่ยื่นอุทธรณ์ แต่หลังจากนี้จะยื่นเรื่องขออภัยโทษผ่านกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรมตามขั้นตอนซึ่งเราจะมีเวลาประมาณ 1 เดือนดำเนินการ
นายอานนท์ ทนายความยังกล่าวถึงการรับสารภาพอีกว่า ได้พิจารณาระหว่างหลักกฎหมายกับสิทธิเสรีภาพ จึงได้ตัดสินใจอยากจะได้เสรีภาพ เพราะที่ผ่านมายื่นขอประกันตัว 7-8 ครั้งก็ไม่ได้ขณะการยื่นประกันตัวก็ต้องใช้หลักทรัพย์หลักล้านบาทแต่ก็ประกันตัวไม่ได้