ASTVผู้จัดการรายวัน - ททท. จัดเต็ม ฟื้นตลาด จีน- ญี่ปุ่น จัดงบหนุนประชาสัมพันธ์และการตลาด ผนึกทัวร์จีน จัดชาร์เตอร์ไฟล์ท 10 มณฑล ออกโปรแกรมทัวร์คุณภาพ ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ด้านตลาดญี่ปุ่น เปิดตัวโครงการบิวตี้ฟูลไทยแลนด์ นำร่อง 3 เดือนแรก ชี้นักท่องเที่ยวผู้สูงอายุ แนวโน้มสดใส
นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้จัดทำแผนฟื้นนักท่องเที่ยวจากตลาดจีน เริ่มจากการสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟล์ท) จาก 10มณฑลของจีนที่ยังไม่มีเที่ยวบินตรงมาประเทศไทย ได้แก่ เห่อเป่ย ซานซี ซานตา เห่อหนาน เสิ่นหยาง เจิ่นโจว ฉงชิ่ง และเจียนเหลียวหนาน เป็นต้น โดยจะเริ่มนำเข้ามาในเดือน พ.ค.55 ซึ่งเป็นโลว์ซีซั่นพอดี โดยททท. จะสนับสนุนงบการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้แก่บริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมในสัดส่วน50% ของงบการตลาดที่จะใช้
***ร่วมเอกชนจัดทัวร์คุณภาพ***
นอกจากนั้น ททท. จะจัดกิจกรรมพิเศษ ใส่ในโปรแกรมการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเจาะชาวจีนในตลาดระดับกลางขึ้นไป อีกทั้งยังจัดเตรียมแนวทางการเพิ่มระดับการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวจีน ล่าสุดประสานไปยังสถานฑูตจีน ตำรวจท่องเที่ยว ตั้งเป็นคณะทำงานวางแผนการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว จับมือ CMTAซึ่งเป็นบริษัททัวร์รายใหญ่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีน ลงนามข้อตกลงการดูแลความปลอดภัย ส่วนบุคคล จัดทำรายงานเมื่อเกิดปัญหา และให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดปัญหาจนแล้วเสร็จ
“ครั้งนี้เป็นโครงการนำร่อง ก่อนจะจัดเป็นแนวทางปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง เพราะในอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้า จีนจะเป็นนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ที่สำคัญของไทย ส่วนแผนบริหารความเสี่ยงได้หารือกับสมาคมท่องเที่ยวของไทย เห็นตรงกัน ที่จะเพิ่มความถี่ในการหารือร่วมกันให้มากกว่าเดือนละ 1 ครั้ง อัพเดทสถานการณ์พร้อมวางแผนร่วมกัน”
***ส่งบิวตี้ฟูลไทยแลนด์กระตุ้น3เดือนแรก
นายสรรเสริญ ยังกล่าวถึงแนวทางการกระตุ้นตลาดญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตลาดนักท่อเที่ยวสำคัญของไทย เช่นการจัดแฟมทริปเชิญสื่อและบริษัทนำเที่ยวระดับผู้บริหาร ร่วมสำรวจแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย จับมือกับบริษัทนำเที่ยว จัดแคมเปญส่งเสริมการขายภาคใต้โครงการ บิวตี้ฟลู ไทยแลนด์ ระยะ 3 เดือน ม.ค.-มี.ค.55 โดยโครงการนี้ จะให้บริษัทนำเที่ยวที่ได้เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวของไทย ให้ออกออกแบบโปรแกรมการเดินทางของตัวเอง และจะมีโปรแกรมเดินทางที่ร่วมกันออกโดย ททท. เป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ซึ่งททท.จะเป็นผู้สนับสนุนงบโฆษณาประชัมพันธ์ให้แก่บริษัทนำเที่ยวเช่นกัน
***เล็งโปรโมตตลาดผู้สูงอายุ
สำหรับตลาดญี่ปุ่น จากผลสำรวจพบว่า ตลาดที่มีศักยภาพการใช้จ่ายและเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูง เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นและหนุ่มสาว จะใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าประเภทไอทีเป็นส่วนใหญ่ ความสนใจท่องเที่ยวจึงลดลง ดังนั้นททท.จะทำโปรแกรมการเดินทางเพื่อเจาะตลาดผู้สูงอายุให้มากขึ้น ซึ่งตลาดนี้พักนานใช้จ่ายสูง
ส่วนตลาดอื่นๆที่เตรียมส่งเสริม ได้แก่ ตลาดท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการอนุรักษ์ โดยจะจัดโครงการ เบิร์ด วอชชิ่ง หรือ ท่องเที่ยวเพื่อดูนก และส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบอีโคทัวริสซึ่ม
สำหรับปีหน้า ในกลุ่มตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ จะเป็นกลุ่มตลาดที่มีแนวโน้มสดใส หลายประเทศ ที่ททท.มั่นใจว่าจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาได้มากกว่าปีละ1 ล้านคน หากไม่มีสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยลบเกิดขึ้น ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลี และอินเดีย ซึ่งทุกตลาดที่กล่าวมา หลายประเทศปีนี้ก็ได้เกิน 1 ล้านคนแล้ว เช่น จีน ได้กว่า 1.3 ล้านคน มาเลเซียกว่า 1.7 ล้านคน ญี่ปุ่นกว่า 9 แสนคน ออสเตรเลียและเกาหลี ได้ประเทศกว่า 7 แสนคน
***เพิ่มมูลค่าดันไทยเป็นฮับต่อไปภูฏาน
นายสุรพล ศรีตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ม แพค ทัวร์ อดีตนายกสมาคมแอตต้า กล่าวว่า กว่า 60% ของ ลูกค้า ทั้งอินบาวนด์และเอาบาวนด์ของบริษัทเป็นตลาดญี่ปุ่น ซึ่งแนวโน้มการเดินทางของชาวญี่ปุ่นยังสดใส ล่าสุดเตรียมใช้ไทยเป็นฮับในการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง พาชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ได้ต่อเครื่องไปเที่ยวยังประเทศภูฏาน
ส่วนตลาดท่องเที่ยวแบบลองสเตย์หรือพำนักระยะยาวของชาวญี่ปุ่น กลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง กลุ่มนี้มีวันพักนาน 2 สัปดาห์ถึง 1เดือน อนาคตเตรียมจะส่งเสริมให้พักนานขึ้นหรือมากกว่า 3 เดือน โดยจะต้องจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวก และดูแลด้านความปลอดภัย ส่วนตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และเตรียมที่จะส่งเสริม คือ เมดิคัลทัวร์ จุดเด่นของประเทศไทย คือ ความคุ้มค่าเงิน เพราะเมื่อเทียบกับ มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลี การมาประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้จัดทำแผนฟื้นนักท่องเที่ยวจากตลาดจีน เริ่มจากการสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟล์ท) จาก 10มณฑลของจีนที่ยังไม่มีเที่ยวบินตรงมาประเทศไทย ได้แก่ เห่อเป่ย ซานซี ซานตา เห่อหนาน เสิ่นหยาง เจิ่นโจว ฉงชิ่ง และเจียนเหลียวหนาน เป็นต้น โดยจะเริ่มนำเข้ามาในเดือน พ.ค.55 ซึ่งเป็นโลว์ซีซั่นพอดี โดยททท. จะสนับสนุนงบการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้แก่บริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมในสัดส่วน50% ของงบการตลาดที่จะใช้
***ร่วมเอกชนจัดทัวร์คุณภาพ***
นอกจากนั้น ททท. จะจัดกิจกรรมพิเศษ ใส่ในโปรแกรมการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเจาะชาวจีนในตลาดระดับกลางขึ้นไป อีกทั้งยังจัดเตรียมแนวทางการเพิ่มระดับการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวจีน ล่าสุดประสานไปยังสถานฑูตจีน ตำรวจท่องเที่ยว ตั้งเป็นคณะทำงานวางแผนการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว จับมือ CMTAซึ่งเป็นบริษัททัวร์รายใหญ่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีน ลงนามข้อตกลงการดูแลความปลอดภัย ส่วนบุคคล จัดทำรายงานเมื่อเกิดปัญหา และให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดปัญหาจนแล้วเสร็จ
“ครั้งนี้เป็นโครงการนำร่อง ก่อนจะจัดเป็นแนวทางปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง เพราะในอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้า จีนจะเป็นนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่ที่สำคัญของไทย ส่วนแผนบริหารความเสี่ยงได้หารือกับสมาคมท่องเที่ยวของไทย เห็นตรงกัน ที่จะเพิ่มความถี่ในการหารือร่วมกันให้มากกว่าเดือนละ 1 ครั้ง อัพเดทสถานการณ์พร้อมวางแผนร่วมกัน”
***ส่งบิวตี้ฟูลไทยแลนด์กระตุ้น3เดือนแรก
นายสรรเสริญ ยังกล่าวถึงแนวทางการกระตุ้นตลาดญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตลาดนักท่อเที่ยวสำคัญของไทย เช่นการจัดแฟมทริปเชิญสื่อและบริษัทนำเที่ยวระดับผู้บริหาร ร่วมสำรวจแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย จับมือกับบริษัทนำเที่ยว จัดแคมเปญส่งเสริมการขายภาคใต้โครงการ บิวตี้ฟลู ไทยแลนด์ ระยะ 3 เดือน ม.ค.-มี.ค.55 โดยโครงการนี้ จะให้บริษัทนำเที่ยวที่ได้เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวของไทย ให้ออกออกแบบโปรแกรมการเดินทางของตัวเอง และจะมีโปรแกรมเดินทางที่ร่วมกันออกโดย ททท. เป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ซึ่งททท.จะเป็นผู้สนับสนุนงบโฆษณาประชัมพันธ์ให้แก่บริษัทนำเที่ยวเช่นกัน
***เล็งโปรโมตตลาดผู้สูงอายุ
สำหรับตลาดญี่ปุ่น จากผลสำรวจพบว่า ตลาดที่มีศักยภาพการใช้จ่ายและเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูง เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นและหนุ่มสาว จะใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าประเภทไอทีเป็นส่วนใหญ่ ความสนใจท่องเที่ยวจึงลดลง ดังนั้นททท.จะทำโปรแกรมการเดินทางเพื่อเจาะตลาดผู้สูงอายุให้มากขึ้น ซึ่งตลาดนี้พักนานใช้จ่ายสูง
ส่วนตลาดอื่นๆที่เตรียมส่งเสริม ได้แก่ ตลาดท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการอนุรักษ์ โดยจะจัดโครงการ เบิร์ด วอชชิ่ง หรือ ท่องเที่ยวเพื่อดูนก และส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบอีโคทัวริสซึ่ม
สำหรับปีหน้า ในกลุ่มตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ จะเป็นกลุ่มตลาดที่มีแนวโน้มสดใส หลายประเทศ ที่ททท.มั่นใจว่าจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาได้มากกว่าปีละ1 ล้านคน หากไม่มีสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยลบเกิดขึ้น ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลี และอินเดีย ซึ่งทุกตลาดที่กล่าวมา หลายประเทศปีนี้ก็ได้เกิน 1 ล้านคนแล้ว เช่น จีน ได้กว่า 1.3 ล้านคน มาเลเซียกว่า 1.7 ล้านคน ญี่ปุ่นกว่า 9 แสนคน ออสเตรเลียและเกาหลี ได้ประเทศกว่า 7 แสนคน
***เพิ่มมูลค่าดันไทยเป็นฮับต่อไปภูฏาน
นายสุรพล ศรีตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ม แพค ทัวร์ อดีตนายกสมาคมแอตต้า กล่าวว่า กว่า 60% ของ ลูกค้า ทั้งอินบาวนด์และเอาบาวนด์ของบริษัทเป็นตลาดญี่ปุ่น ซึ่งแนวโน้มการเดินทางของชาวญี่ปุ่นยังสดใส ล่าสุดเตรียมใช้ไทยเป็นฮับในการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง พาชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ได้ต่อเครื่องไปเที่ยวยังประเทศภูฏาน
ส่วนตลาดท่องเที่ยวแบบลองสเตย์หรือพำนักระยะยาวของชาวญี่ปุ่น กลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง กลุ่มนี้มีวันพักนาน 2 สัปดาห์ถึง 1เดือน อนาคตเตรียมจะส่งเสริมให้พักนานขึ้นหรือมากกว่า 3 เดือน โดยจะต้องจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวก และดูแลด้านความปลอดภัย ส่วนตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และเตรียมที่จะส่งเสริม คือ เมดิคัลทัวร์ จุดเด่นของประเทศไทย คือ ความคุ้มค่าเงิน เพราะเมื่อเทียบกับ มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลี การมาประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า