ปัตตานี- คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ ชักปืนยิงดาบตำรวจเสียชีวิตคาที่ ขณะซื้อโรตี เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนสาเหตุว่ามาจากเหตุความไม่สงบ หรือเกี่ยวพันทางการเมือง เนื่องจากผู้ตายเป็นหัวคะแนนใหญ่ ส.ส.ปัตตานี ซึ่งเป็นญาติอีกด้วย ขณะที่จนท.3 ฝ่ายคุมเข้มธนาคารทุกแห่งในปัตตานี หวั่นคนร้ายก่อเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 06.33 น.วานนี้( 7 ธ.ค.) พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสาย 410 ปัตตานี-ยะลา บริเวณ ม.7 ต.ปูยุด อ.เมือง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีเขียว หมายเลขทะเบียน กรพ ปัตตานี 622 จอดอยู่ และพบมีรอยเลือดกองอยู่บริเวณรถคันดังกล่าว ส่วนผู้เสียชีวิตญาติได้นำส่งโรงพยาบาลปัตตานีก่อนแล้ว คือ ด.ต.ต่วนฮามิ นิแฮ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ต.ปูยุด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ต้นคอ และบริเวณลำตัว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านพัก เพื่อซื้อโรตีให้ลูกกินก่อนไปโรงเรียน ซึ่งจะออกมาซื้ออยู่เป็นประจำทุกวัน ในระหว่างที่กำลังจะจอดรถรถหน้าร้านโรตี KR roti ได้มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะตามประกบหลัง แล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่กระหน่ำยิงจำนวน 3 นัด และยิงขึ้นฟ้าอีก 1 นัด ก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไปตามถนนสาย 410 อย่างลอยนวล
ส่วนประเด็นสาเหตุ เจ้าหน้าที่คาดว่าการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ที่ได้ก่อเหตุมาแล้วอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่น เช่น เรื่องการเมืองระดับชาติ เนื่องจากผู้ตายเป็นญาติสนิทของ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี เขตเลือกตั้งที่1 และที่ผ่านมาผู้ตายได้เป็นหัวคะแนนใหญ่ให้แก่ ส.ส.อีกด้วย
นอกจากนี้ เมื่อกลางดึกของวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุ คนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องใส่ฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15312 ฉก.ปัตตานี 25 ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านลางสาด ม.1 ต.กระเสาะ อ.มายอ จ.ปัตตานี สะเก็ดระเบิดถูก จ.ส.ต.สงคราม สีวาจา ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและลำตัว ขณะนี้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี
ระดมกำลังรปภ.ธนาคารทุกแห่งในปัตตานี
ด้านความคืบหน้า เหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยและธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา วานนี้ (7 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้ระดมกำลังออกดูแลความปลอดภัยบริเวณด้านหน้า และภายในของธนาคารทุกแห่งในพื้นที่ 12 อำเภอ พร้อมทั้งมีการตรวจค้นรถทุกชนิดที่เข้าออก หรือจอดด้านหน้าธนาคาร และมีการเอกซเรย์ผู้ที่เข้ามาใช้บริการธนาคารอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ได้ประสานธนาคารทุกแห่งให้มีการตรวจสอบกล้องทีวีวงจรปิดให้สามารถใช้การได้ทุกตัว เพื่อสามารถจับภาพบุคคลต้องสงสัยหรือคนร้ายที่มาก่อเหตุทั้งในตัวอาคาร ด้านหน้า หรือบริเวณธนาคาร เนื่องจากยังคงมีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามจะก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังร่วมดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่สุด ทั้งสถานที่ราชการ เอกชน ธนาคาร ตลาด รวมไปถึงแหล่งชุมชนทุกแห่ง เฝ้าติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดและตรวจค้นเป้าหมายทุกจุด โดยเฉพาะตามจุดตรวจทุกแห่งให้มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดที่สุด ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิง รถทุกคันที่สัญจรไปมาบนถนน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการก่อเหตุและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม 2 แห่ง พบว่า มือวางระเบิด สวมใส่ชุดสีดำของผู้หญิงมุสลิมโดยปิดหน้าปิดตาคลุมศีรษะ และจากบุคลิกท่าทางคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นผู้หญิง โดยทำทีมากดเงินจากตู้ ATM ในช่วงเวลา 06.39 น. เมื่อไม่มีคนเห็นจึงหยิบระเบิดที่ซุกไว้ในผ้าคลุมมาวางไว้ก่อนจะเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไป 6 นาทีคนร้ายจึงกดระเบิด
เมื่อเวลา 06.33 น.วานนี้( 7 ธ.ค.) พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสาย 410 ปัตตานี-ยะลา บริเวณ ม.7 ต.ปูยุด อ.เมือง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีเขียว หมายเลขทะเบียน กรพ ปัตตานี 622 จอดอยู่ และพบมีรอยเลือดกองอยู่บริเวณรถคันดังกล่าว ส่วนผู้เสียชีวิตญาติได้นำส่งโรงพยาบาลปัตตานีก่อนแล้ว คือ ด.ต.ต่วนฮามิ นิแฮ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ต.ปูยุด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ต้นคอ และบริเวณลำตัว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านพัก เพื่อซื้อโรตีให้ลูกกินก่อนไปโรงเรียน ซึ่งจะออกมาซื้ออยู่เป็นประจำทุกวัน ในระหว่างที่กำลังจะจอดรถรถหน้าร้านโรตี KR roti ได้มีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะตามประกบหลัง แล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่กระหน่ำยิงจำนวน 3 นัด และยิงขึ้นฟ้าอีก 1 นัด ก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไปตามถนนสาย 410 อย่างลอยนวล
ส่วนประเด็นสาเหตุ เจ้าหน้าที่คาดว่าการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ที่ได้ก่อเหตุมาแล้วอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่น เช่น เรื่องการเมืองระดับชาติ เนื่องจากผู้ตายเป็นญาติสนิทของ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี เขตเลือกตั้งที่1 และที่ผ่านมาผู้ตายได้เป็นหัวคะแนนใหญ่ให้แก่ ส.ส.อีกด้วย
นอกจากนี้ เมื่อกลางดึกของวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุ คนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องใส่ฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15312 ฉก.ปัตตานี 25 ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านลางสาด ม.1 ต.กระเสาะ อ.มายอ จ.ปัตตานี สะเก็ดระเบิดถูก จ.ส.ต.สงคราม สีวาจา ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและลำตัว ขณะนี้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี
ระดมกำลังรปภ.ธนาคารทุกแห่งในปัตตานี
ด้านความคืบหน้า เหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยและธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา วานนี้ (7 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้ระดมกำลังออกดูแลความปลอดภัยบริเวณด้านหน้า และภายในของธนาคารทุกแห่งในพื้นที่ 12 อำเภอ พร้อมทั้งมีการตรวจค้นรถทุกชนิดที่เข้าออก หรือจอดด้านหน้าธนาคาร และมีการเอกซเรย์ผู้ที่เข้ามาใช้บริการธนาคารอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ ได้ประสานธนาคารทุกแห่งให้มีการตรวจสอบกล้องทีวีวงจรปิดให้สามารถใช้การได้ทุกตัว เพื่อสามารถจับภาพบุคคลต้องสงสัยหรือคนร้ายที่มาก่อเหตุทั้งในตัวอาคาร ด้านหน้า หรือบริเวณธนาคาร เนื่องจากยังคงมีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามจะก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังร่วมดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่สุด ทั้งสถานที่ราชการ เอกชน ธนาคาร ตลาด รวมไปถึงแหล่งชุมชนทุกแห่ง เฝ้าติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดและตรวจค้นเป้าหมายทุกจุด โดยเฉพาะตามจุดตรวจทุกแห่งให้มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวดที่สุด ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิง รถทุกคันที่สัญจรไปมาบนถนน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการก่อเหตุและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม 2 แห่ง พบว่า มือวางระเบิด สวมใส่ชุดสีดำของผู้หญิงมุสลิมโดยปิดหน้าปิดตาคลุมศีรษะ และจากบุคลิกท่าทางคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นผู้หญิง โดยทำทีมากดเงินจากตู้ ATM ในช่วงเวลา 06.39 น. เมื่อไม่มีคนเห็นจึงหยิบระเบิดที่ซุกไว้ในผ้าคลุมมาวางไว้ก่อนจะเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไป 6 นาทีคนร้ายจึงกดระเบิด