ศูนย์ข่าวภูเก็ต -คนร้ายบุกเดี่ยวใช้มีดจี้เงินจากศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหาดกะรน ภูเก็ต กวาดเงินสดเกือบ 2 ล้านบาทหนีลอยนวล ล่าสุด ตร.เตรียมสเกตช์ภาพคนร้ายที่คาดว่าน่าจะเป็นคนพื้นเพภาคใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหาดกะรน ถนนปฏัภ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกเข้าจี้ชิงเงินสดจากศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาหาดกะรน โดยคนร้ายได้เงินสดทั้งเงินไทยและเงินต่างประเทศเกือบ 2 ล้านบาท
จากการตรวจที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารชั้นเดียวใช้เป็นศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคาร อยู่ใกล้วงเวียนกะรน ซึ่งเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางออกมาซื้อสินค้า และอาหารอย่างคึกคัก
ภายในพบพนักงานของธนาคาร 2 คนอยู่ในอาการตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น ทราบชื่อคือ นายอำนาจ ผลประมูล อายุ 26 ปี และ น.ส.วิไลลักษณ์ ขาววงศ์ อายุ 22 ปี พนักงานของธนาคาร ให้การว่าที่กำลังจะปิดศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินตราในเวลาประมาณ 19.30 น.และได้ปิดบัญชีรอบวันจนเสร็จในเวลาประมาณ 20.00 น.ก็ได้เปิดประตูออกมาเพื่อนำเงินไปส่งที่ธนาคkรไทยพาณิชย์ สาขาหาดกะรน ที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร
ปรากฏว่าขณะที่กำลังเปิดประตูออกไป คนร้ายซึ่งมีลักษณะผอม สูง ผิวดำ มีหนวดเครา สวมเสื้อแจ็กแกตสีทึบ สวมกางเกงยีนส์ 1 คน อายุประมาณ 25 ปี บุกเข้ามาใช้อาวุธมีดจี้และดันประตูเข้าไปในศูนย์บริการรับแลกเปลี่ยนเงิน และใช้อาวุธมีดจี้ที่เอวด้านช้ายของนายอำนาจจนเป็นแผลยาว พร้อมทั้งบังคับให้นำเงินสดทั้งไทยและเงินต่างประเทศใส่กระเป๋าสีดำ ซึ่งพวกตนตกใจจึงหยิบเงินใส่ในกระเป๋าให้คนร้ายไป จากนั้นคนร้ายได้ใช้กระดาษกาวมัดมือมัดเท้าพนักงานก่อนหลบหนีไปตามถนนเลียบชายหาดกะรน โดยคนร้ายใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น
จากการสอบสวนพยานที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่า คนร้ายได้มานั่งอยู่ที่หน้าศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินประมาณ 30 นาทีเศษ ซึ่งพยานคิดว่าคงมานั่งรอแฟนสาวที่เป็นพนักงานของธนาคารจึงไม่ได้สนใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังสกัดจับทั้งจังหวัด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
ส่วนความคืบหน้าล่าสุดวานนี้( 27 พ.ย.)ร.ต.อ.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำในส่วนของผู้เสียหายและพยานไปแล้วหลายปาก และจะมีการสเกตช์ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุด้วย เบื้องต้นมั่นใจว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนพื้นเพภาคใต้และน่าจะรู้เส้นทางเป็นอย่างดี เพราะก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นคนร้ายมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหาดกะรน ถนนปฏัภ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกเข้าจี้ชิงเงินสดจากศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาหาดกะรน โดยคนร้ายได้เงินสดทั้งเงินไทยและเงินต่างประเทศเกือบ 2 ล้านบาท
จากการตรวจที่เกิดเหตุพบเป็นอาคารชั้นเดียวใช้เป็นศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคาร อยู่ใกล้วงเวียนกะรน ซึ่งเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางออกมาซื้อสินค้า และอาหารอย่างคึกคัก
ภายในพบพนักงานของธนาคาร 2 คนอยู่ในอาการตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น ทราบชื่อคือ นายอำนาจ ผลประมูล อายุ 26 ปี และ น.ส.วิไลลักษณ์ ขาววงศ์ อายุ 22 ปี พนักงานของธนาคาร ให้การว่าที่กำลังจะปิดศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินตราในเวลาประมาณ 19.30 น.และได้ปิดบัญชีรอบวันจนเสร็จในเวลาประมาณ 20.00 น.ก็ได้เปิดประตูออกมาเพื่อนำเงินไปส่งที่ธนาคkรไทยพาณิชย์ สาขาหาดกะรน ที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร
ปรากฏว่าขณะที่กำลังเปิดประตูออกไป คนร้ายซึ่งมีลักษณะผอม สูง ผิวดำ มีหนวดเครา สวมเสื้อแจ็กแกตสีทึบ สวมกางเกงยีนส์ 1 คน อายุประมาณ 25 ปี บุกเข้ามาใช้อาวุธมีดจี้และดันประตูเข้าไปในศูนย์บริการรับแลกเปลี่ยนเงิน และใช้อาวุธมีดจี้ที่เอวด้านช้ายของนายอำนาจจนเป็นแผลยาว พร้อมทั้งบังคับให้นำเงินสดทั้งไทยและเงินต่างประเทศใส่กระเป๋าสีดำ ซึ่งพวกตนตกใจจึงหยิบเงินใส่ในกระเป๋าให้คนร้ายไป จากนั้นคนร้ายได้ใช้กระดาษกาวมัดมือมัดเท้าพนักงานก่อนหลบหนีไปตามถนนเลียบชายหาดกะรน โดยคนร้ายใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น
จากการสอบสวนพยานที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่า คนร้ายได้มานั่งอยู่ที่หน้าศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินประมาณ 30 นาทีเศษ ซึ่งพยานคิดว่าคงมานั่งรอแฟนสาวที่เป็นพนักงานของธนาคารจึงไม่ได้สนใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังสกัดจับทั้งจังหวัด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
ส่วนความคืบหน้าล่าสุดวานนี้( 27 พ.ย.)ร.ต.อ.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำในส่วนของผู้เสียหายและพยานไปแล้วหลายปาก และจะมีการสเกตช์ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุด้วย เบื้องต้นมั่นใจว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนพื้นเพภาคใต้และน่าจะรู้เส้นทางเป็นอย่างดี เพราะก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นคนร้ายมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว