ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท. เปิด “บิวตี้ฟลู ไทยแลนด์” ฟื้นท่องเที่ยวหลังน้ำลด เจาะทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประเดิม บีกคลีนนิ่งเดย์ ฟื้นภาพลักษณ์ ก่อน ลุยต่อเมกกะแฟมทริป จากนั้น ปล่อยทุกสำนักงานลงมือโหมกิจกรรม ในแต่ละตลาด มั่นใจ ฟื้นท่องเที่ยวได้ภายในเทศกาลคริสมาสปีนี้
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมเปิดตัวแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายหลังน้ำลด ดำเนินการภายใต้แนวคิด “บิวตี้ฟลู ไทยแลนด์ “ ทยอยเปิดตัวกิจกรรมฟื้นภาพลักษณ์และกระตุ้นท่องเที่ยว เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ประเดิม กิจกรรม บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ วันที่ 4 ธ.ค.54 ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยททท.จะเชิญชวนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพร้อมสื่อ ร่วมกิจกรรม จากนั้น จะมีกิจกรรมเมกกะแฟมทริป ระหว่าง วันที่ 1-15 ธ.ค.54 เชิญบริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนจากต่างประเทศทั่วโลกกว่า 400 คน ร่วมสำรวจแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะ ในกรุงเทพฯชั้นในซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จากนั้น จะเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ในแต่ละหน่วยงาน
ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ จะดำเนินการเพื่อฟื้นฟู และส่งเสริมการท่องเที่ยว ในตลาดที่ดูแลรับผิดชอบ
สำหรับตลาดต่างประเทศ ได้มอบให้ ทุกสำนักงานของ ททท. เดินหน้า คุยกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว และ สื่อมวลชนท้องถิ่น เพื่อทำความเข้าใจ ถึงสถานการณประเทสไทย รวมถึงของให้ทุกฝ่ายงาน เดินหน้าจัดกิจกรรมและงานตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวมั่นใจว่าประเทศไทยเข้าสู่ภาวะปรกติแล้ว
“ เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้ได้ผ่านช่วงที่วิกฤตสุดไปแล้ว จากนี้ต่อไป ทุกอย่างจะดีขึ้นเป็นลำดับ ททท.จึงต้องเร่งสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยว เพื่อให้กลับมาเหมือนเดิม ทันฉลองคริสมาสในประเทศไทยปีนี้ โดยตลาดระยะสั้น ย่านเอเชีย ททท.จะพยายามฟื้นฟูให้กลับมาทันในเดือนธันวาคมต่อเนื่องถึงเทศกาลตรุษจีนต้อนปีหน้า ส่วนตลาดระยะไกล
เน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า และให้เกิดยอดจองล่วหงน้า ในฤดูกาลถัดไป”
***เปิดแอพพลิเคชั่นดึงนักท่องเที่ยวเกาหลี****
ทางด้าน นางสาววไลลักษณ์ น้อยพยัคฆ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานโซล ประเทศเกาหลี กล่าวว่า ตลาดเกาหลี จะใช้ไอที มาเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว ล่าสุด เชิญบล็อกเกอร์ ดังจากประเทศเกาหลี 8 คน ร่วมเดินทางสำรวจท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะ ในกรุงเทพฯชั้นใน ซึ่ง
บล็อกเกอร์เหล่านี้จะนำข้อมูลและภาพที่ได้เห็นไปถ่ายทอดผ่านบล็อกของตัวเอง นอกจากนั้นยังได้จัดทำ แอพพลิเคชั่น สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ สมาร์ทโฟน บอกข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเป็นภาษาเกาหลี เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่เดินทางมาประเทศไทย ได้ใช้เป็นข้อมูลในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งไทยถือเป็นประเทสแรก
ที่ทำแอพพลิเคชั่นท่องเที่ยวเป็นภาษาเกาหลี
“เกาหลีเป็นชาติ ที่ประชากรมีการใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากในที่นี้มีกลุ่มที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน มากกว่า 10 ล้านคน จึงเป็นช่องทางที่ดี ที่ จะส่งข้อมูลถึงตัวนักท่องเที่ยว โดยแอพพริเคชั่นนี้ จะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ ในระยะ 6 กิโลเมตร จากทุกๆจุดที่ใช้สมาร์ทโฟน “
นอกจากนั้น จะเร่งส่งเสริมให้ละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์เกาหลีเข้ามาใช้สถานที่ในประเทศไทยในการถ่ายทำ ล่าสุด มีละครโทรทัศน์เรื่องซิตี้ ฮันเตอร์ ของเกาหลี ซึ่งเข้ามาถ่ายทำใน จ.กาญจนบุรี เป็นละครที่กำลังได้รับความนิยมสูงในประเทสเกาหลี จึงเริ่มมี บริษัทนำเที่ยว เตรียมจัดทำแพกเกจ นำทัวร์เกาหลี มาท่องเที่ยว ยังสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ ตลาดเป้าหมายสำคัญ
ได้แก่ กลุ่มฮันนีมูล คนรุ่นใหม่ และ กลุ่มครอบครัว
ปีนี้ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทสเกาหลี เดินทางมาประเทศไทย รวม 9.8 แสนคน เพิ่ม 30% จากปีก่อนซึ่งทำได้ราว 7 แสนคน โดย 10 เดือนแรก ตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลี เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโต 34.3% หรือมีจำนวนรวมกว่า 8.67 แสนคน ซึ่งยอมรับว่า ผลจากเกิดน้ำท่วม หลายพื้นที่ของประทเศไทย มีผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลี ชะลอตัว โดย เดือนพ.ย.นี้ ตลาดดังกล่าวลดลงมากถึง
35% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยเสริม ที่ทำให้ ตลาดเกาหลีฟื้นตัว ได้แก่ การเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินโลว์คอร์ส เช่น สายการบิน ที-เวย์ สายการบินบิสซิเนส แอร์ และ การบินไทย ซึ่งหากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม คาดว่าปีนี้ ตลาดเกาหลีจะทะลุ 1 ล้านคน
***ใช้สื่อออนไลน์ฟื้นความเชื่อมั่น****
ทางด้านนายประกิตต์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท. ได้ใช้สื่ออนไลน์ ในการฟืนฟูความเชื่อมั่นจากชาวต่างชาติ และ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expats) ถึงสถานการณ์นำท่วมในประเทศไทย เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า มีนำท่วมเพียงบางพื้นที่เท่านั้นไม่ใช่ทั้งประเทศ และยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางมาไทย
ประเทศไทยมีอีกหลายที่เป็นแหล่งดึงดูด ซึ่ง ททท. ได้ดำเนินการถ่ายทำและเผยแพร่คลิปวีดีโอคลิปทางโซเชียลมีเดีย อาทิ Youtube, Facebook โดยถ่ายทำบรรยากาศในแหล่งช็อปปิ้งหลักบนถนนสุขุมวิท
งานด้านสื่อโฆษณาประเทศไทย จัดทำภาพยนตร์สั้นชุด Hearing The Sunshine เริ่มเผยแพร่ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน โดย ททท.ได้ติดตามประเมินผลผ่านระบบออนไลน์ www.surveymonkey.com แสดงถึงความชอบโดยรวมที่มีต่อภาพยนตร์สั้นชุดดังกล่าว สูงถึง 94% และผู้เห็นด้วย 100% เห็นว่าภาพยนตร์มีความดึงดูดใจ มีเอกลักษณ์และจูงใจให้มาประเทศไทย รวมถึงการจัดทำโมบาย แอพพลิเคชั่น
นำเสนอลูกเล่นบนโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ Thai Cook Book, Eat& Drink และ Speak Thai ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยผ่านสื่อออนไลน์ สามารถสร้างความดึงดูดใจได้ดี
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมเปิดตัวแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายหลังน้ำลด ดำเนินการภายใต้แนวคิด “บิวตี้ฟลู ไทยแลนด์ “ ทยอยเปิดตัวกิจกรรมฟื้นภาพลักษณ์และกระตุ้นท่องเที่ยว เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ประเดิม กิจกรรม บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ วันที่ 4 ธ.ค.54 ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยททท.จะเชิญชวนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพร้อมสื่อ ร่วมกิจกรรม จากนั้น จะมีกิจกรรมเมกกะแฟมทริป ระหว่าง วันที่ 1-15 ธ.ค.54 เชิญบริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนจากต่างประเทศทั่วโลกกว่า 400 คน ร่วมสำรวจแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะ ในกรุงเทพฯชั้นในซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จากนั้น จะเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ในแต่ละหน่วยงาน
ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ จะดำเนินการเพื่อฟื้นฟู และส่งเสริมการท่องเที่ยว ในตลาดที่ดูแลรับผิดชอบ
สำหรับตลาดต่างประเทศ ได้มอบให้ ทุกสำนักงานของ ททท. เดินหน้า คุยกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว และ สื่อมวลชนท้องถิ่น เพื่อทำความเข้าใจ ถึงสถานการณประเทสไทย รวมถึงของให้ทุกฝ่ายงาน เดินหน้าจัดกิจกรรมและงานตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวมั่นใจว่าประเทศไทยเข้าสู่ภาวะปรกติแล้ว
“ เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้ได้ผ่านช่วงที่วิกฤตสุดไปแล้ว จากนี้ต่อไป ทุกอย่างจะดีขึ้นเป็นลำดับ ททท.จึงต้องเร่งสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยว เพื่อให้กลับมาเหมือนเดิม ทันฉลองคริสมาสในประเทศไทยปีนี้ โดยตลาดระยะสั้น ย่านเอเชีย ททท.จะพยายามฟื้นฟูให้กลับมาทันในเดือนธันวาคมต่อเนื่องถึงเทศกาลตรุษจีนต้อนปีหน้า ส่วนตลาดระยะไกล
เน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า และให้เกิดยอดจองล่วหงน้า ในฤดูกาลถัดไป”
***เปิดแอพพลิเคชั่นดึงนักท่องเที่ยวเกาหลี****
ทางด้าน นางสาววไลลักษณ์ น้อยพยัคฆ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานโซล ประเทศเกาหลี กล่าวว่า ตลาดเกาหลี จะใช้ไอที มาเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว ล่าสุด เชิญบล็อกเกอร์ ดังจากประเทศเกาหลี 8 คน ร่วมเดินทางสำรวจท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะ ในกรุงเทพฯชั้นใน ซึ่ง
บล็อกเกอร์เหล่านี้จะนำข้อมูลและภาพที่ได้เห็นไปถ่ายทอดผ่านบล็อกของตัวเอง นอกจากนั้นยังได้จัดทำ แอพพลิเคชั่น สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ สมาร์ทโฟน บอกข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเป็นภาษาเกาหลี เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่เดินทางมาประเทศไทย ได้ใช้เป็นข้อมูลในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งไทยถือเป็นประเทสแรก
ที่ทำแอพพลิเคชั่นท่องเที่ยวเป็นภาษาเกาหลี
“เกาหลีเป็นชาติ ที่ประชากรมีการใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากในที่นี้มีกลุ่มที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน มากกว่า 10 ล้านคน จึงเป็นช่องทางที่ดี ที่ จะส่งข้อมูลถึงตัวนักท่องเที่ยว โดยแอพพริเคชั่นนี้ จะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ ในระยะ 6 กิโลเมตร จากทุกๆจุดที่ใช้สมาร์ทโฟน “
นอกจากนั้น จะเร่งส่งเสริมให้ละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์เกาหลีเข้ามาใช้สถานที่ในประเทศไทยในการถ่ายทำ ล่าสุด มีละครโทรทัศน์เรื่องซิตี้ ฮันเตอร์ ของเกาหลี ซึ่งเข้ามาถ่ายทำใน จ.กาญจนบุรี เป็นละครที่กำลังได้รับความนิยมสูงในประเทสเกาหลี จึงเริ่มมี บริษัทนำเที่ยว เตรียมจัดทำแพกเกจ นำทัวร์เกาหลี มาท่องเที่ยว ยังสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ ตลาดเป้าหมายสำคัญ
ได้แก่ กลุ่มฮันนีมูล คนรุ่นใหม่ และ กลุ่มครอบครัว
ปีนี้ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทสเกาหลี เดินทางมาประเทศไทย รวม 9.8 แสนคน เพิ่ม 30% จากปีก่อนซึ่งทำได้ราว 7 แสนคน โดย 10 เดือนแรก ตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลี เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโต 34.3% หรือมีจำนวนรวมกว่า 8.67 แสนคน ซึ่งยอมรับว่า ผลจากเกิดน้ำท่วม หลายพื้นที่ของประทเศไทย มีผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลี ชะลอตัว โดย เดือนพ.ย.นี้ ตลาดดังกล่าวลดลงมากถึง
35% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยเสริม ที่ทำให้ ตลาดเกาหลีฟื้นตัว ได้แก่ การเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินโลว์คอร์ส เช่น สายการบิน ที-เวย์ สายการบินบิสซิเนส แอร์ และ การบินไทย ซึ่งหากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม คาดว่าปีนี้ ตลาดเกาหลีจะทะลุ 1 ล้านคน
***ใช้สื่อออนไลน์ฟื้นความเชื่อมั่น****
ทางด้านนายประกิตต์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท. ได้ใช้สื่ออนไลน์ ในการฟืนฟูความเชื่อมั่นจากชาวต่างชาติ และ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expats) ถึงสถานการณ์นำท่วมในประเทศไทย เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า มีนำท่วมเพียงบางพื้นที่เท่านั้นไม่ใช่ทั้งประเทศ และยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางมาไทย
ประเทศไทยมีอีกหลายที่เป็นแหล่งดึงดูด ซึ่ง ททท. ได้ดำเนินการถ่ายทำและเผยแพร่คลิปวีดีโอคลิปทางโซเชียลมีเดีย อาทิ Youtube, Facebook โดยถ่ายทำบรรยากาศในแหล่งช็อปปิ้งหลักบนถนนสุขุมวิท
งานด้านสื่อโฆษณาประเทศไทย จัดทำภาพยนตร์สั้นชุด Hearing The Sunshine เริ่มเผยแพร่ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน โดย ททท.ได้ติดตามประเมินผลผ่านระบบออนไลน์ www.surveymonkey.com แสดงถึงความชอบโดยรวมที่มีต่อภาพยนตร์สั้นชุดดังกล่าว สูงถึง 94% และผู้เห็นด้วย 100% เห็นว่าภาพยนตร์มีความดึงดูดใจ มีเอกลักษณ์และจูงใจให้มาประเทศไทย รวมถึงการจัดทำโมบาย แอพพลิเคชั่น
นำเสนอลูกเล่นบนโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ Thai Cook Book, Eat& Drink และ Speak Thai ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยผ่านสื่อออนไลน์ สามารถสร้างความดึงดูดใจได้ดี