00 เถื่อนถ่อย เห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนอื่นได้ถึงใจจริงๆ สำหรับ “หน้าเหลี่ยม” ทักษิณ ชินวัตร ไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะฉิบหาย ชาวบ้านจะฆ่ากันตายจนเลือดนองอย่างไร กูก็ไม่สนใจ ขอเพียงแต่กูได้ประโยชน์ เหนือคนอื่นเป็นพอ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เหมือนกับที่กำลังเดินหน้าสั่ง “ลิ่วล้อ” กดดันเพื่อให้ตัวเองได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยที่ตัวเองไม่ต้องรับโทษ ไม่สำนึกผิดเหมือนกับนักโทษคนอื่นทั่วไป
00 อย่างไรก็ดี ในเมื่อไม่ต้องการให้ “สังคมเลวเพราะคนดีท้อแท้” หากรับไม่ได้กับพฤติกรรมเห็นแก่ตัวของ ทักษิณ ชินวัตร และ รัฐบาล “ห่วยแตก” ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรำคาญ เฉลิม อยู่บำรุง ก็ให้พี่น้องคนไทยที่รักความยุติธรรม ไม่ยอมให้ศาลยุติธรรมถูกทำลาย รวมไปถึงไม่ยอมให้คนชั่วมากดดันพระเจ้าอยู่หัว ก็ต้องพร้อมใจกันไปหน้าสำนักงานกฤษฎีกาถนนพระอาทิตย์ เวลา 10.00 น. วันจันทร์ที่ 21 พ.ย. เพื่อแสดงพลังให้รับรู้ว่า “พวกกูไม่กลัวมึง”
00 จะเป็นเพราะ “เงินร้อน” หรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าคนที่กำลังเดือดร้อนอีกคนหนึ่งไม่แพ้กลุ่มโจรที่สุมหัวกันไปปล้นบ้านของ ปลัดกระทรวงคมนาคม สุพจน์ ทรัพย์ล้อม เมื่อสัปดาห์ก่อน จากการสารภาพของ โจรบอกว่า เบื้องต้นได้เงินสดไป 100 ล้านบาท และยังเหลือเงินสดที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีกนับพันล้านบาท โอ แม่เจ้า มันอะไรกันนี่ เชื่อว่างานนี้มันไม่ธรรมดา ทั้งโจร ทั้งเจ้าของบ้าน ว่าทำไมมันถึง “รวยพิลึกกึกกือ” รวยกันแบบไม่บันยะบันยัง
00 ขณะเดียวกันก็เกิดคำถามตามมาอีกว่า ถ้าคำสารภาพของโจรเป็นความจริงแล้ว ปลัดฯสุพจน์ ได้เงินดังกล่าวมาอย่างไร ทำธุรกิจอะไรถึงได้ร่ำรวยนักหนา มีเงินเก็บเป็นพันล้าน หรือถ้าไม่ได้ทำธุรกิจ แต่ว่าเมียรวย มันก็ไม่น่าจะใช่อีก เพราะเงินจำนวนมหาศาลมันก็ไม่ใช่ธรรมดาที่คนทั่วไปจะเก็บเงินสดๆ เอาไว้ในบ้าน ลักษณะอาการราวกับว่า “ปกปิด” อะไรบางอย่าง เพราะวันที่ถูกปล้นวันแรกก็ไม่ยอมให้เป็นข่าว อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ยิ่งเป็นพิรุธมันก็ยิ่งกลายเป็นข่าวครึกโครม จะต้องสืบสาวกันต่อไป
00 เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ ป.ป.ช.โดย กล้าณรงค์ จันทิก บอกว่าน่าสนใจอย่างยิ่งว่าเงินที่ว่านั้น ท่านได้แต่ใดมา ต้องแจงให้เคลียร์ เพราะระดับปลัดกระทรวงฯ รับรองว่าถ้านับอายุราชการตั้งแต่สมัยก่อนเป็นชั้นตรี ไต่เต้าขึ้นมาจนถึงระดับ 11 ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะขยันมีความดีความชอบอย่างไรก็ไม่มีทางมีเงินเก็บเป็นพันล้านบาทอย่างแน่นอน เชื่อว่างานนี้ถ้า ป.ป.ช.เดินหน้าสอบเค้นความจริงออกมาให้สังคมได้รับรู้ด้วย
00 อย่างไรก็ดี “ในวงการ” รู้ดีว่า ที่ผ่านมา ปลัดสุพจน์ ถือว่าเป็นนัก “เชื่อมต่อมือทอง” ระหว่างราชการกับกลุ่มธุรกิจรับเหมาอย่างโชกโชน โดยเขาเติบโตในกรมทางหลวง ได้ดิบได้ดีมาตั้งแต่ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น รมว.คมนาคม เมื่อหลายปีก่อน จากนั้นเมื่อมาถึงยุค “ภูมิใจห้อย” คุมคมนาคม ดูแลโครงการใหญ่มากมาย เขาก็เข้ากันได้ดีกับ ลูกพี่ เนวิน ชิดชอบ ดังนั้นเมื่อ “มนุษย์พันธุ์พิเศษ” ดังกล่าวเคยเชื่อมถึงกัน มันชวนติดตามอยู่แล้ว และรับรองว่าไม่ธรรมดา อีกทั้งงานนี้จะเป็นรายการ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” หรือออกไปในแนว “โจรปล้นโจร” หรือไม่ ส่วนใครเป็นโจร ใครหักหลังโจร ค่อยมาว่ากันอีกที แต่สนุกแน่ !!
00 อย่างไรก็ดี ในเมื่อไม่ต้องการให้ “สังคมเลวเพราะคนดีท้อแท้” หากรับไม่ได้กับพฤติกรรมเห็นแก่ตัวของ ทักษิณ ชินวัตร และ รัฐบาล “ห่วยแตก” ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรำคาญ เฉลิม อยู่บำรุง ก็ให้พี่น้องคนไทยที่รักความยุติธรรม ไม่ยอมให้ศาลยุติธรรมถูกทำลาย รวมไปถึงไม่ยอมให้คนชั่วมากดดันพระเจ้าอยู่หัว ก็ต้องพร้อมใจกันไปหน้าสำนักงานกฤษฎีกาถนนพระอาทิตย์ เวลา 10.00 น. วันจันทร์ที่ 21 พ.ย. เพื่อแสดงพลังให้รับรู้ว่า “พวกกูไม่กลัวมึง”
00 จะเป็นเพราะ “เงินร้อน” หรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าคนที่กำลังเดือดร้อนอีกคนหนึ่งไม่แพ้กลุ่มโจรที่สุมหัวกันไปปล้นบ้านของ ปลัดกระทรวงคมนาคม สุพจน์ ทรัพย์ล้อม เมื่อสัปดาห์ก่อน จากการสารภาพของ โจรบอกว่า เบื้องต้นได้เงินสดไป 100 ล้านบาท และยังเหลือเงินสดที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีกนับพันล้านบาท โอ แม่เจ้า มันอะไรกันนี่ เชื่อว่างานนี้มันไม่ธรรมดา ทั้งโจร ทั้งเจ้าของบ้าน ว่าทำไมมันถึง “รวยพิลึกกึกกือ” รวยกันแบบไม่บันยะบันยัง
00 ขณะเดียวกันก็เกิดคำถามตามมาอีกว่า ถ้าคำสารภาพของโจรเป็นความจริงแล้ว ปลัดฯสุพจน์ ได้เงินดังกล่าวมาอย่างไร ทำธุรกิจอะไรถึงได้ร่ำรวยนักหนา มีเงินเก็บเป็นพันล้าน หรือถ้าไม่ได้ทำธุรกิจ แต่ว่าเมียรวย มันก็ไม่น่าจะใช่อีก เพราะเงินจำนวนมหาศาลมันก็ไม่ใช่ธรรมดาที่คนทั่วไปจะเก็บเงินสดๆ เอาไว้ในบ้าน ลักษณะอาการราวกับว่า “ปกปิด” อะไรบางอย่าง เพราะวันที่ถูกปล้นวันแรกก็ไม่ยอมให้เป็นข่าว อ้างเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ยิ่งเป็นพิรุธมันก็ยิ่งกลายเป็นข่าวครึกโครม จะต้องสืบสาวกันต่อไป
00 เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ ป.ป.ช.โดย กล้าณรงค์ จันทิก บอกว่าน่าสนใจอย่างยิ่งว่าเงินที่ว่านั้น ท่านได้แต่ใดมา ต้องแจงให้เคลียร์ เพราะระดับปลัดกระทรวงฯ รับรองว่าถ้านับอายุราชการตั้งแต่สมัยก่อนเป็นชั้นตรี ไต่เต้าขึ้นมาจนถึงระดับ 11 ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะขยันมีความดีความชอบอย่างไรก็ไม่มีทางมีเงินเก็บเป็นพันล้านบาทอย่างแน่นอน เชื่อว่างานนี้ถ้า ป.ป.ช.เดินหน้าสอบเค้นความจริงออกมาให้สังคมได้รับรู้ด้วย
00 อย่างไรก็ดี “ในวงการ” รู้ดีว่า ที่ผ่านมา ปลัดสุพจน์ ถือว่าเป็นนัก “เชื่อมต่อมือทอง” ระหว่างราชการกับกลุ่มธุรกิจรับเหมาอย่างโชกโชน โดยเขาเติบโตในกรมทางหลวง ได้ดิบได้ดีมาตั้งแต่ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น รมว.คมนาคม เมื่อหลายปีก่อน จากนั้นเมื่อมาถึงยุค “ภูมิใจห้อย” คุมคมนาคม ดูแลโครงการใหญ่มากมาย เขาก็เข้ากันได้ดีกับ ลูกพี่ เนวิน ชิดชอบ ดังนั้นเมื่อ “มนุษย์พันธุ์พิเศษ” ดังกล่าวเคยเชื่อมถึงกัน มันชวนติดตามอยู่แล้ว และรับรองว่าไม่ธรรมดา อีกทั้งงานนี้จะเป็นรายการ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” หรือออกไปในแนว “โจรปล้นโจร” หรือไม่ ส่วนใครเป็นโจร ใครหักหลังโจร ค่อยมาว่ากันอีกที แต่สนุกแน่ !!
