ศูนย์ข่าวศรีราชา- เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ร่วมกับสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เตรียมฟ้องศาลปกครอง เพื่อออกคำสั่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องประกาศใช้ผังเมืองรวมโดยเร็ว หวั่นกลุ่มทุนชุบมือเปิบตั้งนิคมอุตสาหกรรมสร้างผลประทบต่อประชาชน
เมื่อเร็วๆนี้ นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก พร้อมด้วยนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และนางภารณี สวัสดิรักษ์ ชมรมนักวิชาการผังเมือง ได้ร่วมหารือกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเรื่องผังเมืองรวม ที่ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ในหลายจังหวัดของภาคตะวันออก เพื่อเตรียมฟ้องศาลปกครองให้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศ และบังคับใช้ผังเมืองรวมโดยเร็ว ที่บริเวณสวนผลไม้กำนันสมควร ซึ่งตั้งหมู่ 3 ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง
การประชุมในครั้งนี้ มีชาวบ้านต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง ที่คัดค้านการขยายโรงงานเอทิลเบนซีนสไตรีนโมโนเมอร์ ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) และชาวบ้านค่ายที่คัดค้านการตั้งนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย(ไออาร์พีซี) ชาวบ้านตำบลสำนักทองที่คัดค้านการตั้งนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง และชาวบ้านตำบลมาบตาพุด ที่คัดค้านการรับฟังความคิดเห็นที่ไม่มีความโปร่งใส รวมทั้งชาวบ้านจากนิคมอุตสาหกรรมบ่อวินที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงอ่างเก็บน้ำฯลฯกว่า 200 คน เข้ามาร่วมรับฟัง เพื่อหาแนวทางฟ้องศาลปกครองต่อไป
นายสุทธิ กล่าวว่าการหารือร่วมกับสมาชิกเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เป็นการหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนผังเมืองรวม พร้อมวางทิศทางการจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดิน ในเรื่องของผังเมืองที่ผิดพลาดมาโดยตลอด รวมทั้งการแก้ไขปัญหาที่ต้องใช้ประเด็นผังเมืองเป็นตัวขับเคลื่อน ในการจัดการระบบการใช้ที่ดินอย่างถูกต้อง
"เราจะเห็นว่าปัญหาเรื่องที่ดินในจังหวัดระยอง และจังหวัดอื่นๆ ถูกนำไปสู่การใช้ สร้างนิคมอุตสาหกรรม และมีการถมที่ดินโดยที่ไม่ได้มีการจัดการเรื่องผังเมืองอย่างถูกต้อง ทำให้นิคมอุตสาหกรรมกลายเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม และปัญหาในอนาคตก็คือศึกแย่งชิงน้ำ"
ทั้งนี้ หากวางผังเมืองไม่ดีแล้วมีการขยายนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง หรือตั้งนิคมฯในพื้นที่ๆไม่มีความเหมาะสม ก็จะทำให้เกิดปัญหาแก่ประชาชนในระยะยาว ในเรื่องนี้รัฐบาลควรเร่งออกแบบผังเมือง และที่สำคัญขณะนี้ผังเมืองรวมมีอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาที่จะนำไปสู่การปรับปรุงและแก้ไขในระยะยาว รัฐบาลสมควรที่จะเร่งออกประกาศผังเมืองรวมในแต่ละจังหวัด เช่น ระยอง ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ท่ามกลางการร่างผังเมืองรวมไปแล้ว
สำหรับเครือข่ายฯเห็นว่า ความล่าช้าเรื่องการประกาศผังเมืองรวมเป็นเรื่องการละเลยของรัฐบาล โดยเฉพาะกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งขณะนี้เรื่องไปติดอยู่ที่สำนักงานกฤษฎีกา ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้
นายสุทธิ ยังกล่าวอีกว่าในวันที่ 13 ธ.ค. 2554เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกพร้อมด้วยจังหวัดที่เห็นว่าผังเมืองจะเป็นทางออกในการจัดการเมืองอย่างถูกต้องและเหมาะสม และนำไปสู่การสร้างมิติของการทำให้ชุมชนอยู่อย่างมีความสุข จะเดินทางไปยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลและสำนักงานกฤษฎีกาเร่งออกประกาศผังเมืองรวมโดยเร็ว
ด้านนายศรีสุวรรณ นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกล่าวว่า ความล่าช้าของการประกาศบังคับใช้กฎหมายผังเมืองรวมของจังหวัดระยอง เชื่อว่ามีความพยายามที่จะเตะถ่วง เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมได้ใช้ประโยชน์ในช่วงที่ยังเป็นช่องว่าง ซึ่งเป็นจุดบอดที่ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวม ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถขอใบอนุญาตในการประกอบการได้ จึงถือว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกาศบังคับใช้ ทั้งคณะกรรมการผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ละเมิดสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ในนามสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ต้องการตอกย้ำ และให้ความมั่นใจแก่ชาวบ้านว่าจำเป็นต้องใช้กระบวนการยุติธรรมด้วยการฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวมจังหวัดระยองได้ประกาศและบังคับใช้โดยเร็วที่สุด
เมื่อเร็วๆนี้ นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก พร้อมด้วยนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และนางภารณี สวัสดิรักษ์ ชมรมนักวิชาการผังเมือง ได้ร่วมหารือกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเรื่องผังเมืองรวม ที่ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ในหลายจังหวัดของภาคตะวันออก เพื่อเตรียมฟ้องศาลปกครองให้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศ และบังคับใช้ผังเมืองรวมโดยเร็ว ที่บริเวณสวนผลไม้กำนันสมควร ซึ่งตั้งหมู่ 3 ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง
การประชุมในครั้งนี้ มีชาวบ้านต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง ที่คัดค้านการขยายโรงงานเอทิลเบนซีนสไตรีนโมโนเมอร์ ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) และชาวบ้านค่ายที่คัดค้านการตั้งนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย(ไออาร์พีซี) ชาวบ้านตำบลสำนักทองที่คัดค้านการตั้งนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง และชาวบ้านตำบลมาบตาพุด ที่คัดค้านการรับฟังความคิดเห็นที่ไม่มีความโปร่งใส รวมทั้งชาวบ้านจากนิคมอุตสาหกรรมบ่อวินที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงอ่างเก็บน้ำฯลฯกว่า 200 คน เข้ามาร่วมรับฟัง เพื่อหาแนวทางฟ้องศาลปกครองต่อไป
นายสุทธิ กล่าวว่าการหารือร่วมกับสมาชิกเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เป็นการหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนผังเมืองรวม พร้อมวางทิศทางการจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดิน ในเรื่องของผังเมืองที่ผิดพลาดมาโดยตลอด รวมทั้งการแก้ไขปัญหาที่ต้องใช้ประเด็นผังเมืองเป็นตัวขับเคลื่อน ในการจัดการระบบการใช้ที่ดินอย่างถูกต้อง
"เราจะเห็นว่าปัญหาเรื่องที่ดินในจังหวัดระยอง และจังหวัดอื่นๆ ถูกนำไปสู่การใช้ สร้างนิคมอุตสาหกรรม และมีการถมที่ดินโดยที่ไม่ได้มีการจัดการเรื่องผังเมืองอย่างถูกต้อง ทำให้นิคมอุตสาหกรรมกลายเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม และปัญหาในอนาคตก็คือศึกแย่งชิงน้ำ"
ทั้งนี้ หากวางผังเมืองไม่ดีแล้วมีการขยายนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง หรือตั้งนิคมฯในพื้นที่ๆไม่มีความเหมาะสม ก็จะทำให้เกิดปัญหาแก่ประชาชนในระยะยาว ในเรื่องนี้รัฐบาลควรเร่งออกแบบผังเมือง และที่สำคัญขณะนี้ผังเมืองรวมมีอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาที่จะนำไปสู่การปรับปรุงและแก้ไขในระยะยาว รัฐบาลสมควรที่จะเร่งออกประกาศผังเมืองรวมในแต่ละจังหวัด เช่น ระยอง ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ท่ามกลางการร่างผังเมืองรวมไปแล้ว
สำหรับเครือข่ายฯเห็นว่า ความล่าช้าเรื่องการประกาศผังเมืองรวมเป็นเรื่องการละเลยของรัฐบาล โดยเฉพาะกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งขณะนี้เรื่องไปติดอยู่ที่สำนักงานกฤษฎีกา ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้
นายสุทธิ ยังกล่าวอีกว่าในวันที่ 13 ธ.ค. 2554เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกพร้อมด้วยจังหวัดที่เห็นว่าผังเมืองจะเป็นทางออกในการจัดการเมืองอย่างถูกต้องและเหมาะสม และนำไปสู่การสร้างมิติของการทำให้ชุมชนอยู่อย่างมีความสุข จะเดินทางไปยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลและสำนักงานกฤษฎีกาเร่งออกประกาศผังเมืองรวมโดยเร็ว
ด้านนายศรีสุวรรณ นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกล่าวว่า ความล่าช้าของการประกาศบังคับใช้กฎหมายผังเมืองรวมของจังหวัดระยอง เชื่อว่ามีความพยายามที่จะเตะถ่วง เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมได้ใช้ประโยชน์ในช่วงที่ยังเป็นช่องว่าง ซึ่งเป็นจุดบอดที่ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวม ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถขอใบอนุญาตในการประกอบการได้ จึงถือว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกาศบังคับใช้ ทั้งคณะกรรมการผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ละเมิดสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น ในนามสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ต้องการตอกย้ำ และให้ความมั่นใจแก่ชาวบ้านว่าจำเป็นต้องใช้กระบวนการยุติธรรมด้วยการฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวมจังหวัดระยองได้ประกาศและบังคับใช้โดยเร็วที่สุด