วานนี้ (1 พ.ย.)นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินในจังหวัดสุพรรณบุรี ราคาประเมิน 1,690,000 บาท ต่อศาล ขอปล่อยตัวชั่วคราว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วม นปช. จำเลยคดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อมาศาลอาญาได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายสมยศ โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
นายคารม กล่าวว่า ขณะนี้เรือนจำมีความแออัดและถูกน้ำท่วม แต่ศาลก็ไม่อนุญาต แม้ศาลจะมีอิสระในการพิจารณา แต่ประชาชนที่ถูกกล่าวหาก็มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ที่จะได้รับการประกันตัว ต้องสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และให้สิทธิต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ส่วนในวันที่ 2 พ.ย. นี้ ศาลอาญาได้นัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายสุรชัย แซ่ด่าน แนวร่วม นปช. จำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นพันธบัตรมูลค่า 1 ล้านบาทขอประกันตัว
อีกด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์. โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมองความอยู่รอดของประชาชนและบ้านเมืองเหนือความอยู่รอดทางการเมืองของตัวเอง โดยต้องสั่งให้คนของตัวเองหยุดการใส่ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกให้สังคม เช่น กรณี นายจตุพร พรหมพันธ์. ส.ส. เพื่อไทยออกมาระบุว่าเป็นโชคดีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ไม่เช่นนั้นจะมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลภายในเดือนธันวาคม แต่ไม่สามารถทำได้เพราะน้ำท่วมเสียก่อน
“เป็นคำพูดที่เลือดเย็น ใจดำและโหดเหี้ยมกับคนไทยอย่างที่สุด ที่นายจตุพรอ้างถึงนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำว่า มอบให้กองทัพดู 5 จังหวัดถ้าล้มเหลวจะได้เฉลี่ยความรับผิดชอบไป 50 เปอร์เซนต์ หวังโยนบาปให้กองทัพ ผมคิดว่าพี่น้องเสื้อแดงคงตาสว่างมากขึ้น” นายชวนนท์ กล่าว
ทั้งนี้ ยังตอบโต้ นายจตุพรที่กล่าวหาว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กักน้ำในเขื่อนภูมิพลมากจนเป็นสาเหตุน้ำท่วมใหญ่ แต่เห็นว่ารัฐบาลต้องตอบว่าทำไมจึงไม่มีการบริหารจัดการน้ำจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่มีคนเสียชีวิตแล้วเกือบ 400 ราย ถ้าหากกล่าวหาว่าประชาธิปัตย์วางยา หมายถึงว่าประชาธิปัตย์แกล้งแพ้เลือกตั้งด้วยใช่หรือไม่.
นายคารม กล่าวว่า ขณะนี้เรือนจำมีความแออัดและถูกน้ำท่วม แต่ศาลก็ไม่อนุญาต แม้ศาลจะมีอิสระในการพิจารณา แต่ประชาชนที่ถูกกล่าวหาก็มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ที่จะได้รับการประกันตัว ต้องสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และให้สิทธิต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ส่วนในวันที่ 2 พ.ย. นี้ ศาลอาญาได้นัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายสุรชัย แซ่ด่าน แนวร่วม นปช. จำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นพันธบัตรมูลค่า 1 ล้านบาทขอประกันตัว
อีกด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์. โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมองความอยู่รอดของประชาชนและบ้านเมืองเหนือความอยู่รอดทางการเมืองของตัวเอง โดยต้องสั่งให้คนของตัวเองหยุดการใส่ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกให้สังคม เช่น กรณี นายจตุพร พรหมพันธ์. ส.ส. เพื่อไทยออกมาระบุว่าเป็นโชคดีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ไม่เช่นนั้นจะมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลภายในเดือนธันวาคม แต่ไม่สามารถทำได้เพราะน้ำท่วมเสียก่อน
“เป็นคำพูดที่เลือดเย็น ใจดำและโหดเหี้ยมกับคนไทยอย่างที่สุด ที่นายจตุพรอ้างถึงนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำว่า มอบให้กองทัพดู 5 จังหวัดถ้าล้มเหลวจะได้เฉลี่ยความรับผิดชอบไป 50 เปอร์เซนต์ หวังโยนบาปให้กองทัพ ผมคิดว่าพี่น้องเสื้อแดงคงตาสว่างมากขึ้น” นายชวนนท์ กล่าว
ทั้งนี้ ยังตอบโต้ นายจตุพรที่กล่าวหาว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กักน้ำในเขื่อนภูมิพลมากจนเป็นสาเหตุน้ำท่วมใหญ่ แต่เห็นว่ารัฐบาลต้องตอบว่าทำไมจึงไม่มีการบริหารจัดการน้ำจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่มีคนเสียชีวิตแล้วเกือบ 400 ราย ถ้าหากกล่าวหาว่าประชาธิปัตย์วางยา หมายถึงว่าประชาธิปัตย์แกล้งแพ้เลือกตั้งด้วยใช่หรือไม่.