xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้บึ้มนราฯกว่า10จุด มุ่งร้านขายของชำ แถมยิงไทยพุทธตาย3ศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนร้ายระดมทีมเปิดฉากวางระเบิดป่วนนราธิวาสวันเดียวกว่า 10 จุดในพื้นที่ 8 อำเภอส่วนใหญ่เป็นร้านขายของชำ และลอบทำร้ายทหาร จนท.-ปชช.เจ็บ 4 ราย พร้อมบุกยิงชาวไทยพุทธเสียชีวิตคาที่อีก 3 ศพกลางวันแสกๆ เผยเป็นฝีมือ "อับดุลเลาะ แก่ต่อง แกนนำกลุ่ม RKK" เตือนคนร้ายเตรียมป่วนใหญ่เมืองนราฯอีกเน้นร้านอาหารโปรดของเหล่าข้าราชการช่วงก่อนและหลังรายอฮัจญี 4-5 พ.ย.และ 12-13 พ.ย.นี้

กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ก่อเหตุความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้(30 ต.ค.)ได้สร้างสถานการณ์ขึ้นอีกเกือบ 20 จุดด้วยกันในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยเวลา 11.45 น.คนร้ายได้ยิงชาวไทยพุทธเสียชีวิต 3 ด้วยกันที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 137 หมู่บานโคกตีเต ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส

หลังได้รับแจ้งเหตุ พ.ต.ต.สุชาติ หมีลำพอง สว.เวร สภ.เมืองนราธิวาส ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว โดยศพแรกคือนายศรีทอง มาสิ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 2 บ้านโคกตีเต ต.บางปอ ถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ที่หัว 1 นัดเสียชีวิตข้างถังน้ำมันในปั้มหลอดหน้าบ้านพัก

ศพที่ 2 นายธีระพงศ์ แซ้ลิ้ม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/73 หมู่ 7 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ถูกจ่อยิงที่หัว 1 นัดด้วยปืนขนาดเดียวกัน นอนเสียชีวิตที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านพักนายศรีทอง และศพที่ 3 นางมาลิ มาสิ อายุ 49 ปี ลูกสะใภ้นายศรีทอง ถูกจ่อยิงที่หัว ด้วยปืนขนาดเดียวกัน นอนเสียชีวิตภายในบ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ข้างศพมีลูกชายวัย 8 ขวบ นั่งร้องให้กอดศพแม่อย่างน่าเวทนา นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน 9 มม.ตกอยู่ 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

**เผยฝีมือ"อับดุลเลาะ แก่ต่อง"

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันโดย 1 คัน ได้ทำทีเข้ามาขอเติมน้ำมันในปั้มหลอดกับนายศรีทอง แต่ขณะที่นายศรีทอง กำลังก้มลงเติมน้ำมันคนร้ายได้ชักอาวุธปืนจ่อยิงที่หัวนายศรีทอง จนล้มลงเสียชีวิตทันที จากนั้นคนร้ายคนเดียวกันได้เดินไปจ่อยิงหัวนายธีรพงศ์ ซึ่งกำลังนั่งนวดแพทย์แผนไทยกับหมอชาวบ้านซึ่งอยู่ห่างจากปั้มหลอดที่เกิดเหตุไปประมาณ 5 เมตรจนเสียชีวิต

ส่วนคนร้ายชุดที่ 2 ได้เข้าไปทำทีขอซื้อของในร้านกับนางมาลิ เมื่อนางมาลิ เผลอคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิงเข้าที่หัว 1 นัดล้มฟุบกองกับพื้นเสียชีวิตต่อหน้าลูกชายวัย 8 ขวบ จากนั้นได้ขึ้นรถหลบหนีไปต่อหน้าชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์หลายคนซึ่งต่างพากันวิ่งหลบกระสุนอย่างชุลมุน

พ.ต.อ.ขวัญดี ฉิมพลี ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์หลายคนพบว่า ผู้ต้องสงสัยที่ลงมือยิงชาวบ้านในครั้งนี้คือนายอับดุลเลาะ แก่ต่อง แกนนำกลุ่ม RKK ที่เคลื่อนไหวใน ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเคยถูกจับ ป.วิอาญา คดีก่อความไม่สงบแล้ว แต่ศาลยกฟ้องและได้กลับมาก่อเหตุอีกดังกล่าว

**ยิงสาวไทยพุทธวัย 20ปีบาดเจ็บ

ต่อมาคนร้ายได้ก่อเหตุยิงชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดยิง น.ส.บุหลัน ศรีคงเพชร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 4 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กระสุนถูกลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบาเจาะ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านขายโทรศัพท์มือถือ ริมถนนสายนราธิวาส-ปัตตานี เขตเทศบาลต้นไทร ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

**ยิงถล่มรถขยะ-บึ้มจนท.เจ็บอีก3

ก่อนหน้านี้วันเดียวกันช่วงเวลา 10.30 น.คนร้ายได้ก่อเหตุยิงรถขนขยะเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย เหตุเกิดที่บนถนนสายรือเสาะ-นราธิวาส ช่วงบริเวณโค้งมะโย่ง ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ คือ 1.นายสมพร ศรีวรมห์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 306 ม.10 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพนักงานขับรถขยะ มีบาดแผลถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณหัวไหล่ขวาและหน้าอก 2 นัด อาการบาดเจ็บสาหัสแพทย์ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และ 2.นายศร สีทองเทศ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพนักงานเก็บขยะ มีบาดแผลถูกกระจกรถกระเด็นใส่ใบหน้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมพร ได้ขับรถยนต์ตระเวนเก็บขยะมูลฝอยในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ โดยมีนายศร ผู้บาดเจ็บและเพื่อนรวมทั้งสิ้น 4 คน เมื่อเก็บขยะมูลฝอยแล้วเสร็จ นายสมพร ได้ขับรถและมีนายศร ผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งโดยสารคู่กันมาที่เบาะหน้า ส่วนเพื่อนอีก 2 คนยืนอยู่ภายในกระบะหลังที่สำหรับบรรทุกขยะ เพื่อนำขยะมูลฝอยนำไปทิ้งที่บ่อขยะของเทศบาล ระหว่างที่นายสมพร ขับรถถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยายนต์ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์แซงขึ้นหน้าให้คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดออกมายิงใส่นายสมพร และนายศร 4 นัดซ้อน เมื่อถูกกระสุนปืนนายสมพร ได้จอดรถ เกรงถูกคนร้ายยิงซ้ำ จนกระทั่งรถยนต์ของชาวบ้านวิ่งสวนมา คนร้ายจึงได้รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ต่อมาวลา 11.30 น.คนร้ายได้ลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยที่ 4507 กรมทหารพรานที่ 45 ได้รับบาดเจ็บ 1 นายที่บริเวณจุดตรวจลอยบนถนนสายระแงะ-ดุซงญอ ช่วงบริเวณบ้านกาลิซา ม.2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ คือ อส.ทพ.รัตติกาล แพรใหญ่ อายุ 23 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

โดยเหตุเกิดขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารพรานที่ 4507 กรมทหารพรานที่ 45 จำนวน 10 นายนั่งรถยนต์กระบะออกจากฐานเพื่อมาตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอย โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังแยกย้ายกันเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางปะปนไว้กับกระสอบทรายริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ อส.ทพ.รัตติกาล ที่ยืนใกล้กระสอบทรายถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

**บึ้มป่วนซ้ำอีก10จุดโชคดีไรเจ็บ

นอกจากนี้ คนร้ายไม่ทราบจำนวนยังได้นัดแนะลอบวางระเบิดป่วนในพื้นที่ของ จ.นราธิวาส อีกหลายอำเภอ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มตั้งแต่เวลา 17.50-18.20 น.โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี 2 จุดโดยจุดแรกคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุใส่ไว้ในกระป๋องเครื่องดื่มน้ำอัดลมหนัก 1 ก.ก.จุดชนวนด้วยนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล แฝงตัวนำไปวางไว้ภายในร้านขายรองเท้า และเสื้อผ้า เลขที่ 230/10 เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี ของนางเล็ก แซ่ตั้ง อายุ 68 ปี แรงระเบิดทำให้สินค้าได้รับความเสียหายแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนจุดที่ 2 คนร้ายนำระเบิดชนิดและขนาดเดียวกันไปวางไว้บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการชุดพัฒนาสันติที่ 30-3 ซึ่งตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟสุไหงปาดี เขตเทศบาลตำบลปะลุรู แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่ อ.สุไหงโก-ลก คนร้ายได้นำระเบิดชนิดและขนาดเดียวกันไปวางไว้ภายในร้านจำหน่ายสินค้ากิ๊ฟช็อป เลขที่ 86 ถนนประชาวิวัฒน์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ใกล้กับโรงแรมอินเตอร์ทาวเวอร์ ของนายสมนึก ทินกร อายุ 45 ปี แรงระเบิดทำให้สินค้าภายในร้านได้รับความเสียหายแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่ อ.ยี่งอ คนร้ายได้นำระเบิดขว้างใส่เข้าไปภายในบ้านพักของ นางคะนึงนิตย์ ชูสิงห์ ครู โรงเรียนบ้านกูแว ซึ่งตั้งอยู่หน้าที่ทำการไปรษณีย์ อ.ยี่งอ เขตเทศบาลตำบลยี่งอ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่ อ.ตากใบ คนร้ายได้นำระเบิดชนิดและขนาดเดียวกันไปลอบวางไว้จำนวน 2 จุด โดยจุดแรกที่บริเวณร้านขายของชำไม่มีเลขที่ บ้านตาบา หมู่ 1 ต.เจ๊ะเห ส่วนจุดที่ 2 ที่บริเวณกำแพงรั้วหน้าโรงเรียนอนุบาลสมถวิล เขตเทศบาลเมืองตากใบ ซึ่งทั้ง 2 จุดไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ส่วนที่ อ.รือเสาะ คนร้ายได้นำระเบิดชนิดและขนาดเดียวกันลอบไปวางไว้จำนวน 4 จุด โดยจุดแรก คนร้ายได้นำระเบิดไปวางไว้ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขารือเสาะ เลขที่ 182/27 เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ ซึ่งจุดดังกล่าวทำให้ร้านเซเว่นฯ ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย ส่วนจุดที่ 2 ที่ร้านย่งฮวด เลขที่ 166/2 หมู่ 1 ต.รือเสาะออก ของนายประเสริฐ แซ่อึ้ง ทำให้สินค้าภายในร้านถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายบางส่วน จุดที่ 3 ที่บริเวณแผงลอยขายของชำ ภายในตลาดสดเทศบาลตำบลรือเสาะ และจุดที่ 4 ห่างจากจุดที่ 3 ประมาณ 20 เมตร ซึ่งเป็นร้านขายของชำไม่มีเลขที่ ซึ่งทั้ง 4 จุดไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

**เตือนคนร้ายเตรียมป่วนนราฯ

มีรายงานข่าวจาก จ.ยะลาว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบซึ่งเคลื่อนไหวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นราธิวาส ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.รือเสาะ (บ้านบือแนรายอ บ้านไอร์กูเดร์) และ อ.ระแงะ (ตำบลกาลิซา) เพื่อเตรียมก่อเหตุพร้อมๆ กันทั้งใน จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี

โดยลักษณะการก่อเหตุจะใช้วิธีดับไฟในเขตเมืองและเขตเทศบาลด้วยการระเบิดร้านอาหารและเสาไฟฟ้า ลอบวางระเบิดฐานทหาร และซุ่มโจมตีทหารที่อยู่บริเวณรอบนอก ซึ่งพื้นที่เพ่งเล็งได้แก่ อ.เมืองนราธิวาส โดยเฉพาะร้านอาหารมังกรทอง ซึ่งจะมีข้าราชการไปนั่งรับประทานอาหารเป็นประจำ และร้านอั้งม้อ อ.ศรีสาคร ร้านอาหารคาราโอเกะ และ อ.ระแงะ ชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนในเขตเทศบาลตันหยงมัส

ทั้งนี้ กลุ่มแกนนำที่เคลื่อนไหวใน อ.ระแงะ ได้แก่นายมาหะมะมาลิกี นิกาเร็ง ซึ่งมีการประชุมร่วมกับสมาชิกอีก 3 คน ที่บ้านฮูลูปาเระ คือ นายอับดุลมานะ สาแม นายต่วนพาร์นิ ต่วมกูซีปู และนายอับดุลเล๊าะซ์ หรือโซล่าเลาะ มะมิง

สำหรับช่วงเวลาปฏิบัติการน่าจะเป็นระหว่างวันที่ 4-5 พ.ย.นี้และช่วงวันที่ 12-13 พ.ย.54 ซึ่งเป็นช่วงก่อนและหลังวันอีฎิ้ลอัฎฮา หรือรายอฮัจญี หรือมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.นี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น