ASTVผู้จัดการรายวัน - คนกรุงหนีน้ำท่วม เผ่นเที่ยวเมืองนอกเพิ่ม 50% หวั่นถึงสิ้นปี ยอดคนไทยไปต่างประเทศทะลุ 9 ล้านคน โตเกือบเท่าตัวจากปีก่อน สมาคมโรงแรมไทยแนะรัฐออกมาตรการหลังน้ำท่วม สั่งหน่วยงานราชการงดเดินสายดูงานต่างประเทศ เร่งออกโปรโมชั่นกระตุ้นท่องเที่ยว พร้อมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยผู้ประกอบการ
นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโรงแรมไทย หรือทีเอชเอ เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้นอกจากประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ จะอพยพหนีสถานการณ์น้ำท่วมไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้ว ยังพบว่า มีคนกรุงเทพที่มีฐานะดีฯอีกจำนวนหนึ่ง ออกเดินทางไปต่างประเทศ โดยจากสถิติการเดินทางออกนอกประเทศพบว่า ตัวเลขคนไทยเดินทางไปต่างประเทศช่วงนี้สูงขึ้น 20% จากภาวะปรกติ ส่วนใหญ่เน้นเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มอาเซียน คิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของผู้ที่เดินทางทั้งหมดอีก 5% ไปยุโรป -อเมริกา ที่เหลือเป็นประเทศอื่นๆ ส่วนตลาดในประเทศ ที่พัก ทในจังหวัดท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ทั้งภาคตะวันตกและตะวันออก ส่วนใหญ่เต็มเกือบ 100% ทุกพื้นที่ ขณะที่ที่พักในจังหวัดประจวบฯ ยังมีพอรองรับได้อีก คาดว่า การเดินทางเช่นนี้จะพำนักยาวถึงเกือบสิ้นปี หรือจนกว่าน้ำลด
“ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ บางรายไปด้วยตนเอง ไปพำนักกับครอบครัว ญาติในต่างประเทศ บางรายก็เดินทางไปกับบริษัททัวร์ จึงทำให้ทัวร์เอาท์บาวนต์ ขายดีขึ้นอีก 50% จากช่วงปรกติ จึงมีความเป็นไปได้ว่าภาพรวมคนไทยเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ อาจทะลุ 9 ล้านคน จากปีก่อนที่มีคนไทยออกเที่ยวต่างประเทศราว 5-5.5 ล้านคน ”
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯเห็นว่าหลังน้ำลด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ควรหาโปรโมชั่นพิเศษ มากระตุ้น ท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงรัฐบาล ควรหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นอกจากนั้น สมาคมยังอยากเสนอให้รัฐบาล ออกมาตรการ ในปีงบประมาณ 2555 ห้ามหน่วยงานราชการ ทั้งกระทรวง ทบวง กรม งดการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศแต่ให้นำเงิน ไปช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมและ ภาคท่องเที่ยว ส่วนการร่วมออกงานเทรดโชว์และโรดโชว์ในต่างประเทศ ของ ททท. ก็ให้เลือกไปเฉพาะงานที่สำคัญ และคุ้มค่ากับการใช้งบประมาณให้มากที่สุด
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ยังส่งผลถึงความเชื่อมั่นนักลงทุนที่กำลังจะเข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยล่าสุดพบว่า นักลงทุนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเดิมมีแผนจะเดินทางมาดูลู่ทางการลงทุนในสิ้นปีนี้ และปีหน้า ต่างยกเลิก บ้างก็ชะลอการเดินทางออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยข่าววงในมีการสันนิษฐานว่า
มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนอาจชะลอตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่อาจย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านแทน เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ ทำให้ไทยอาจเสียโอกาสการลงทุน.
นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโรงแรมไทย หรือทีเอชเอ เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้นอกจากประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ จะอพยพหนีสถานการณ์น้ำท่วมไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้ว ยังพบว่า มีคนกรุงเทพที่มีฐานะดีฯอีกจำนวนหนึ่ง ออกเดินทางไปต่างประเทศ โดยจากสถิติการเดินทางออกนอกประเทศพบว่า ตัวเลขคนไทยเดินทางไปต่างประเทศช่วงนี้สูงขึ้น 20% จากภาวะปรกติ ส่วนใหญ่เน้นเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มอาเซียน คิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของผู้ที่เดินทางทั้งหมดอีก 5% ไปยุโรป -อเมริกา ที่เหลือเป็นประเทศอื่นๆ ส่วนตลาดในประเทศ ที่พัก ทในจังหวัดท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ทั้งภาคตะวันตกและตะวันออก ส่วนใหญ่เต็มเกือบ 100% ทุกพื้นที่ ขณะที่ที่พักในจังหวัดประจวบฯ ยังมีพอรองรับได้อีก คาดว่า การเดินทางเช่นนี้จะพำนักยาวถึงเกือบสิ้นปี หรือจนกว่าน้ำลด
“ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ บางรายไปด้วยตนเอง ไปพำนักกับครอบครัว ญาติในต่างประเทศ บางรายก็เดินทางไปกับบริษัททัวร์ จึงทำให้ทัวร์เอาท์บาวนต์ ขายดีขึ้นอีก 50% จากช่วงปรกติ จึงมีความเป็นไปได้ว่าภาพรวมคนไทยเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ อาจทะลุ 9 ล้านคน จากปีก่อนที่มีคนไทยออกเที่ยวต่างประเทศราว 5-5.5 ล้านคน ”
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯเห็นว่าหลังน้ำลด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ควรหาโปรโมชั่นพิเศษ มากระตุ้น ท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงรัฐบาล ควรหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นอกจากนั้น สมาคมยังอยากเสนอให้รัฐบาล ออกมาตรการ ในปีงบประมาณ 2555 ห้ามหน่วยงานราชการ ทั้งกระทรวง ทบวง กรม งดการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศแต่ให้นำเงิน ไปช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมและ ภาคท่องเที่ยว ส่วนการร่วมออกงานเทรดโชว์และโรดโชว์ในต่างประเทศ ของ ททท. ก็ให้เลือกไปเฉพาะงานที่สำคัญ และคุ้มค่ากับการใช้งบประมาณให้มากที่สุด
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ยังส่งผลถึงความเชื่อมั่นนักลงทุนที่กำลังจะเข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยล่าสุดพบว่า นักลงทุนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเดิมมีแผนจะเดินทางมาดูลู่ทางการลงทุนในสิ้นปีนี้ และปีหน้า ต่างยกเลิก บ้างก็ชะลอการเดินทางออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยข่าววงในมีการสันนิษฐานว่า
มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนอาจชะลอตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่อาจย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านแทน เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ ทำให้ไทยอาจเสียโอกาสการลงทุน.