00 นับจากนี้เป็นต้นไปน้ำก็จะไหลบ่าเข้ามาสู่ใจกลางกรุงเทพฯมาเรื่อยๆ ในลักษณะที่แผ่ขยายวงกว้าง ขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ไหนสูงหรือต่ำ สรุปก็คือแทบทุกพื้นที่ มีแนวโน้มจะถูกน้ำท่วม หนักบ้างน้อยบ้าง ดังนั้นเมื่อสภาพความเป็นจริงเป็นแบบนี้ มันก็ต้องทำใจ และต้องหาทางขยับขยาย หรือเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกันให้มากที่สุดเพื่อบรรเทาความเสียหายให้มากที่สุด
00 ความหมายก็คือ เมื่อสู้กับน้ำไม่ได้ และภาครัฐที่มีความรับผิดชอบไม่สามารถวางแผนผ่อนหนักเป็นเบาได้ตั้งแต่ต้น ชาวบ้านก็ต้องหาทางพึ่งพาตัวเอง ใช้ข้อมูลของตัวเองเท่าที่พอหาได้มาประเมินสถานการณ์และความเป็นไปได้ให้ดีที่สุด อย่ามัวรอพึ่งพาภาครัฐ นาทีนี้ต้องช่วยเหลือตัวเอง เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด อย่าประมาททำตัวเฉื่อยชาเป็นอันขาด อีกทั้งยังต้อง “มองข้ามช็อต”ไปถึงอนาคตด้วยว่าเราจะดำรงชีวิต จะประกอบอาชีพกันอย่างไรต่อไป เพราะนับจากนี้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
00 การออกมาแถลงผ่านทีวีรวมการเฉพาะกิจเมื่อค่ำวันที่ 25 ต.ค.ของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกมาในโทนยอมแพ้ มองในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดนั่นคือ “ท่วมหมดทุกเขต” ตั้งแต่ระดับ 50 ซม.ไปจนถึง 1.5 ม.หมายความว่า “เอาไม่อยู่” แล้ว อย่างไรก็ดีในคำแถลงดังกล่าวมันก็ยังสับสนขึ้นมาอีกเมื่อเอ่ยถึงกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก แต่ดันคลุมไปถึง “ลาดพร้าว” โดยไม่พูดถึง “ลาดกระบัง” ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำหลัก แต่เอาเถอะคงไม่ใช่ประเด็นแล้วหละ เพราะมีแนวโน้มท่วมทุกเขต มากบ้างน้อยบ้าง ที่สำคัญต้องเก็บของขึ้นที่สูงที่สุด เตรียมเสบียงกรัง หรืออพยพได้แล้ว
00 ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไปการกระชับอำนาจ “รัฐตำรวจ” ก็ไม่มีทางว่างเว้น เมื่อส่วนหัวของสีกากีคือ “พี่เมียแม้ว” พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ นั่งผบ.ตร.เต็มก้นแล้วก็ยังได้ “หลานเขยอ้อ” พล.ต.ต.วินัย ทองสอง คนกันเองมานั่งเก้าอี้ ผบ.นช.ดูแลพื้นที่เมืองหลวง ส่วนตำแหน่งสำคัญอื่นๆทั้งภาค 1-5 ทุกอย่างก็เบ็ดเสร็จเด็ดขาดหมดแล้ว รอน้ำลดค่อยแก้ พ.ร.บ.กลาโหมล้วงลูกกองทัพ ทีนี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนแม้ว เอวังประเทศไทย
00 การโยกย้ายเที่ยวนี้คนที่มีความสุขที่สุดน่าจะเป็น พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ เพราะตำแหน่งสำคัญของตำรวจอยู่ในกำมือของเธอทั้งสิ้น มีทั้ง พี่ชาย-หลานเขย คนรับใช้ คนใกล้ชิดมากันครบครัน แล้วอย่างนี้จะไม่ได้มีความสุขได้อย่างไร ที่สำคัญในประเทศนี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ อย่าลืมเสียละ !!
00 ความหมายก็คือ เมื่อสู้กับน้ำไม่ได้ และภาครัฐที่มีความรับผิดชอบไม่สามารถวางแผนผ่อนหนักเป็นเบาได้ตั้งแต่ต้น ชาวบ้านก็ต้องหาทางพึ่งพาตัวเอง ใช้ข้อมูลของตัวเองเท่าที่พอหาได้มาประเมินสถานการณ์และความเป็นไปได้ให้ดีที่สุด อย่ามัวรอพึ่งพาภาครัฐ นาทีนี้ต้องช่วยเหลือตัวเอง เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด อย่าประมาททำตัวเฉื่อยชาเป็นอันขาด อีกทั้งยังต้อง “มองข้ามช็อต”ไปถึงอนาคตด้วยว่าเราจะดำรงชีวิต จะประกอบอาชีพกันอย่างไรต่อไป เพราะนับจากนี้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
00 การออกมาแถลงผ่านทีวีรวมการเฉพาะกิจเมื่อค่ำวันที่ 25 ต.ค.ของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกมาในโทนยอมแพ้ มองในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดนั่นคือ “ท่วมหมดทุกเขต” ตั้งแต่ระดับ 50 ซม.ไปจนถึง 1.5 ม.หมายความว่า “เอาไม่อยู่” แล้ว อย่างไรก็ดีในคำแถลงดังกล่าวมันก็ยังสับสนขึ้นมาอีกเมื่อเอ่ยถึงกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก แต่ดันคลุมไปถึง “ลาดพร้าว” โดยไม่พูดถึง “ลาดกระบัง” ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำหลัก แต่เอาเถอะคงไม่ใช่ประเด็นแล้วหละ เพราะมีแนวโน้มท่วมทุกเขต มากบ้างน้อยบ้าง ที่สำคัญต้องเก็บของขึ้นที่สูงที่สุด เตรียมเสบียงกรัง หรืออพยพได้แล้ว
00 ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไปการกระชับอำนาจ “รัฐตำรวจ” ก็ไม่มีทางว่างเว้น เมื่อส่วนหัวของสีกากีคือ “พี่เมียแม้ว” พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ นั่งผบ.ตร.เต็มก้นแล้วก็ยังได้ “หลานเขยอ้อ” พล.ต.ต.วินัย ทองสอง คนกันเองมานั่งเก้าอี้ ผบ.นช.ดูแลพื้นที่เมืองหลวง ส่วนตำแหน่งสำคัญอื่นๆทั้งภาค 1-5 ทุกอย่างก็เบ็ดเสร็จเด็ดขาดหมดแล้ว รอน้ำลดค่อยแก้ พ.ร.บ.กลาโหมล้วงลูกกองทัพ ทีนี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนแม้ว เอวังประเทศไทย
00 การโยกย้ายเที่ยวนี้คนที่มีความสุขที่สุดน่าจะเป็น พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ เพราะตำแหน่งสำคัญของตำรวจอยู่ในกำมือของเธอทั้งสิ้น มีทั้ง พี่ชาย-หลานเขย คนรับใช้ คนใกล้ชิดมากันครบครัน แล้วอย่างนี้จะไม่ได้มีความสุขได้อย่างไร ที่สำคัญในประเทศนี้ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ อย่าลืมเสียละ !!
