เหยื่อโคลนถล่มอุตรดิตถ์ช้ำหนัก ทำนาต่อไม่ได้หินยักษ์เต็มพื้นที่

อุตรดิตถ์- เหยื่อโคลนถล่มน้ำไผ่ โอดทำนาไม่ได้ หลังก้อนหินหลายขนาดที่ถล่มจากภูเขาเต็มผืนนา พร้อมจี้หน่วยงานกวดขันมอดไม้พิษณุโลก ลักลอบตัดไม้กฤษณาในพื้นที่ ด้าน ก.การพัฒนาสังคมฯ เร่งจัดโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะฯรองรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นายพิชิตพล คำภาปล้อง กำนันตำบลน้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม 4 หมู่บ้าน ต.น้ำไผ่ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา แม้การช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ จะเป็นที่น่าพอใจของผู้ประสบภัย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาจากเหตุการณ์คือ นาข้าวที่ประชาชนปลูกไว้กินก็เสียหายไปเกือบหมด ยังพอมีบ้างที่ยังไม่เสียหายคือ ข้าวไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ตามไหล่เขาที่ไม่ถูกดินโคลนถล่ม

นายพิชิตพล กล่าวว่า แต่ล่าสุดกรมที่ดินได้เข้ามาทำการสำรวจนาข้าวพบว่า ในช่วง 2-3 ปีนี้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ เพราะมีก้อนหินขนาดใหญ่จำนวนมหาศาล ซึ่งบางก้อนมีขนาดเท่ากับรถยนต์ที่พังทลายลงมาจากภูเขาที่ถล่มลงมาทับหมู่บ้าน และพื้นที่ปลูกข้าวต้องใช้เวลานานหลายปีถึงจะสามารถเอาออกจากพื้นที่ทำนาได้

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีทรายจำนวนมากที่ไหลมากับน้ำทับถมอยู่ในพื้นที่ปลูกข้าวของชาวบ้าน ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้อีกเลย ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่นาปลูกข้าวไว้กินอีกแล้ว

กำนันตำบลน้ำไผ่ บอกอีกว่า สำหรับก้อนหินขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ทำนาก็อยากให้หน่วยงานราชการที่มีเครื่องจักรช่วยเอาก้อนหินออกให้กับชาวบ้านด้วย เพราะหากไม่มีที่ทำนาเกรงว่าจะมีชาวบ้านบุกรุกป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์โคลนถล่มแล้วส่วนใหญ่ก็มีมาตรการเฝ้าระวังไม่ให้มีการบุกรุกถางป่าเหนือที่อยู่อาศัยของชาวบ้านอีก เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก

“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่ามีนายทุนจ้างชาวบ้าน อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เข้ามาลักลอบตัดไม้กฤษณาในพื้นที่ ต.น้ำไผ่ อย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกวดขันขบวนการลักลอบตัดไม้กฤษณาด้วย” นายพิชิตพล กล่าว

พม.เปิด3หมู่บ้านเคหะฯรองรับเหยื่อน้ำท่วม

ด้านนายไกรชิต ปัญญามี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งว่า ได้รับการประสานจากสำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า เนื่องจากปัจจุบันเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และจังหวัดภาคกลางหลายจังหวัด ทำให้มีผู้ประสบปัญหาขาดที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยการเคหะแห่งชาติ มีโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติเพื่อรองรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยู่สามารถให้การช่วยเหลือได้

ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ มีที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม 3 แห่งจำนวน 700 กว่ายูนิต ดังนี้ 1.ในเขตตำบลงิ้วงาม อำเภอเมือง 258 ยูนิต 2.ในเขตตำบลชัยชุมพล อำเภอลับแล 207 ยูนิต และ 3.ที่อำเภอพิชัย 253 ยูนิต

ผู้ประสบปัญหาขาดที่อยู่อาศัยเนื่องจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ที่มีความสนใจมาพักอาศัยกับโครงการของการเคหะแห่งชาติในครั้งนี้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ประชาบดี 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดโดยตรงที่สำนักงานเคหะชุมชน สมลักษณ์ จันทพงศ์สวัสดิ์ โทร.08-9858-9005 หรือที่นายไกรชิต ปัญญามี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ได้