ASTVผู้จัดการรายวัน – “กรุงทองพลาซ่า”จ่อทุ่มพันล. เปิดศูนย์ค้าส่งแห่งที่ 3 เล็งย่านเดิมประตูน้ำ ยอมรับตลาดแข่งขันสูงแต่ยังมีโอกาส พร้อมพิ่มงบการตลาดปีหน้าจัดอีเวนต์ โปรโมชัน ตลอดปีดึงลูกค้า
นางสาวอัญชลี ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงทอง เรียลเอสเตท จำกัด ผู้บริหารศูนย์ค้าส่งกรุงทองพลาซ่า ย่านประตูน้ำ เปิดเผยว่า ธุรกิจศูนย์ค้าส่งในย่านประตูน้ำนี้มีการแข่งขันกันอย่างรุงแรงจ จากผู้ประกอบการในย่านนี้ไม่ต่ำกวก่ 10 ราย อีกทั้งยังจะมีรายใหม่ที่เตรียมเปิดบริการอีกหลายแห่งด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมองว่า แม้การแข่งขันสูงแต่ก็ยังมีโอกาสเพราะย่านประตูน้ำขณะนี้มีการคมนาคมที่สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะการมีแอร์พอร์ตลิ้งค์ และอยู่ใจกลางเมืองด้วย อีกทั้งตลาดยังมีความต้องการอีกมาก ทั้งในแง่ของผู้ประกอบการร้านค้าที่ต้องการหาพื้นที่เปิดร้านซึ่งในส่วนของบริษัทฯเองมีราชื่อที่เข้าคิวรอพื้นที่ไม่ต่ำกว่าพันราย ขณะที่ในส่วนของผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าก็ยังมีการเติบโตและต้องการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นอีกมากด้วยเหตุผลที่เป็นราคาขายส่งไม่แพงและยิ่งในสภาพที่คนไทยเจอปัญหาน้ำท่วมยิ่่งทำให้ความต้องการสินค้าเสื้อผ้าราคาขายส่งมีมากขึ้นด้วย เพราะกำลังซื้อลดลง คาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าที่ศูนย์ค้าส่งมากขึ้นด้วย
“บริษัทฯเองอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดเฟสที่ 3 อีก ในย่านดังกล่าว เพราะเหมาะกับการเป็นศูนย์ค้าส่งอย่างมาก หลังจากที่เปิดมาแล้ว 2 สาขา คือ กรุงทองพลาซา1เปิดมาแล้ว 11 ปี และกรุงทองพลาซ่า 2 เปิดมา 3 ปีแล้ว ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยคาดว่าเบื้องต้นต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 800-1,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเรามีเฟสใหม่อีกก็ยิ่งทำให้ย่านนี้แข่งกันดุเดือดมากขึ้นอีก ส่วนที่ดินอีกแปลงที่บางบัวทอง จำนวน 18 ไร่ อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะพัฒนาโรคงการรูปแบบใดแต่ไม่น่าจะเป็นค้าส่ง “
ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมเพิ่มงบการตลาดมากขึ้น โดย กรุงทองฯ 1 จากเดิมปีนี้ใช้ 5 ล้านบาทเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท ส่วนกรุงทองฯ 2 จากปีนี้ใช้ 2 ล้านบาทเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รองรับกับการแข่งขันในย่านนี้ ล่าสุดกรุงทองพลาซ่า 1 ฉลองครบรอบ 11 ปี จัดแคมเปญ “กรุงทองพลาซ่า ฉลอง 11 ปี แจกโชคทองหล่นทับ ลุ้นรับรถนิสสัน มาร์ช” รวมไปถึงโปรโมชั่น“ลด แลก แจก แถม” พร้อมของรางวัลและโปรโมชั่นอีกมาก เช่น รถยนต์นิสสันมาร์ช, ทองคำ, LCD 32 นิ้ว, นาฬิกา GP ฯลฯแ ละร่วมการประมูลของเพื่อนำรายได้ให้กับทางมูลนิธิพระดาบส ตลอดเดือน พ.ย. 54 – ม.ค. 55
สำหรับกรุงทองพลาซ่า 1 พื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร มีจำนวน 400 กว่ายูนิต พื้นที่เช่าาเต็มหมดแล้ว โดยมีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายเฉลี่ย 20,000 คนต่อวันธรรมดา และประมาณ 30,000-40,000 คนในวันหยุด ส่วนกรุงทองพลาซ่า 2 พื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร ร้านค้าประมาณ 200 กว่ายูนิต เช่าเต็มหมดแล้ว ปริมาณคนเดินเข้าใกล้เคียงกัน ซึ่งสัดส่วนร้านค้าขายส่งประมาณ 80% และขายปลีกประมาณ 20%
บริษัทฯไม่มีนโยบายเซ้งหรือเช่าระยะยาว จะทำสัญญาเช่าปีต่อปีเฉลี่ย 2,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนขึ้นไป เพื่อให้สามารถควบคุมดูแลร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ และจะคัดเลือกร้านค้าที่ต้องมีศักยภาพเป็นผู้ผลิตเองด้วย ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากค่าเช่าเป็นหลักรวมประมาณ 150 ล้านบาท ขณะที่เงินหมุนเวียนในสองศูนย์ฯนี้รวมกันมีประมาณ 600 ล้านบาทต่อเดือน
นางสาวอัญชลี ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงทอง เรียลเอสเตท จำกัด ผู้บริหารศูนย์ค้าส่งกรุงทองพลาซ่า ย่านประตูน้ำ เปิดเผยว่า ธุรกิจศูนย์ค้าส่งในย่านประตูน้ำนี้มีการแข่งขันกันอย่างรุงแรงจ จากผู้ประกอบการในย่านนี้ไม่ต่ำกวก่ 10 ราย อีกทั้งยังจะมีรายใหม่ที่เตรียมเปิดบริการอีกหลายแห่งด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมองว่า แม้การแข่งขันสูงแต่ก็ยังมีโอกาสเพราะย่านประตูน้ำขณะนี้มีการคมนาคมที่สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะการมีแอร์พอร์ตลิ้งค์ และอยู่ใจกลางเมืองด้วย อีกทั้งตลาดยังมีความต้องการอีกมาก ทั้งในแง่ของผู้ประกอบการร้านค้าที่ต้องการหาพื้นที่เปิดร้านซึ่งในส่วนของบริษัทฯเองมีราชื่อที่เข้าคิวรอพื้นที่ไม่ต่ำกว่าพันราย ขณะที่ในส่วนของผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าก็ยังมีการเติบโตและต้องการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นอีกมากด้วยเหตุผลที่เป็นราคาขายส่งไม่แพงและยิ่งในสภาพที่คนไทยเจอปัญหาน้ำท่วมยิ่่งทำให้ความต้องการสินค้าเสื้อผ้าราคาขายส่งมีมากขึ้นด้วย เพราะกำลังซื้อลดลง คาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าที่ศูนย์ค้าส่งมากขึ้นด้วย
“บริษัทฯเองอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดเฟสที่ 3 อีก ในย่านดังกล่าว เพราะเหมาะกับการเป็นศูนย์ค้าส่งอย่างมาก หลังจากที่เปิดมาแล้ว 2 สาขา คือ กรุงทองพลาซา1เปิดมาแล้ว 11 ปี และกรุงทองพลาซ่า 2 เปิดมา 3 ปีแล้ว ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยคาดว่าเบื้องต้นต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 800-1,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเรามีเฟสใหม่อีกก็ยิ่งทำให้ย่านนี้แข่งกันดุเดือดมากขึ้นอีก ส่วนที่ดินอีกแปลงที่บางบัวทอง จำนวน 18 ไร่ อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะพัฒนาโรคงการรูปแบบใดแต่ไม่น่าจะเป็นค้าส่ง “
ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมเพิ่มงบการตลาดมากขึ้น โดย กรุงทองฯ 1 จากเดิมปีนี้ใช้ 5 ล้านบาทเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท ส่วนกรุงทองฯ 2 จากปีนี้ใช้ 2 ล้านบาทเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย รองรับกับการแข่งขันในย่านนี้ ล่าสุดกรุงทองพลาซ่า 1 ฉลองครบรอบ 11 ปี จัดแคมเปญ “กรุงทองพลาซ่า ฉลอง 11 ปี แจกโชคทองหล่นทับ ลุ้นรับรถนิสสัน มาร์ช” รวมไปถึงโปรโมชั่น“ลด แลก แจก แถม” พร้อมของรางวัลและโปรโมชั่นอีกมาก เช่น รถยนต์นิสสันมาร์ช, ทองคำ, LCD 32 นิ้ว, นาฬิกา GP ฯลฯแ ละร่วมการประมูลของเพื่อนำรายได้ให้กับทางมูลนิธิพระดาบส ตลอดเดือน พ.ย. 54 – ม.ค. 55
สำหรับกรุงทองพลาซ่า 1 พื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร มีจำนวน 400 กว่ายูนิต พื้นที่เช่าาเต็มหมดแล้ว โดยมีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายเฉลี่ย 20,000 คนต่อวันธรรมดา และประมาณ 30,000-40,000 คนในวันหยุด ส่วนกรุงทองพลาซ่า 2 พื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร ร้านค้าประมาณ 200 กว่ายูนิต เช่าเต็มหมดแล้ว ปริมาณคนเดินเข้าใกล้เคียงกัน ซึ่งสัดส่วนร้านค้าขายส่งประมาณ 80% และขายปลีกประมาณ 20%
บริษัทฯไม่มีนโยบายเซ้งหรือเช่าระยะยาว จะทำสัญญาเช่าปีต่อปีเฉลี่ย 2,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนขึ้นไป เพื่อให้สามารถควบคุมดูแลร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ และจะคัดเลือกร้านค้าที่ต้องมีศักยภาพเป็นผู้ผลิตเองด้วย ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากค่าเช่าเป็นหลักรวมประมาณ 150 ล้านบาท ขณะที่เงินหมุนเวียนในสองศูนย์ฯนี้รวมกันมีประมาณ 600 ล้านบาทต่อเดือน
