ASTVผู้จัดการรายวัน – เปิดใจ “สุวัตร สิทธฺหล่อ” ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวคนใหม่ ลั่นต้องบูรณาการ เปิดกว้างรับฟังความเห็นทุกภาคส่วน พร้อมทำทุกวิถีทางให้ท่องเที่ยวไทยแข็งแกร่งรับมือกับเออีซีให้ได้ ดันสู่เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน รายได้ 2 ล้านล้านบาท
ด้วยอายุราชการอีก 4 ปี กับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “สุวัตร สิทธิหล่อ” มีภาระกิจมากมาย ที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะไม่เพียงแค่การบริหาร ทั้งงานด้านท่องเที่ยวและกีฬา แต่ยังต้องเตรียมความพร้อมกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง ที่ต้องเข้าสู่การเปิดเสรี อีกทั้งยังต้องดำเนินการตามภาระกิจที่รัฐบาล นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ตั้งเป้าหมายว่า ใน 4 ปี ของรัฐบาลชุดนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ถึง 30 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ และเงินหมุนเวียน รวมกันถึง 2 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปีปัจจุบัน เท่าตัว
จึงถือเป็นภาระกิจที่ ปลัดฯคนใหม่ ป้ายแดงท่านนี้ จะต้องจัดวางระบบ นำภาคเอกชนและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยไปสู่เป้าหมาย ให้สมกับเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียน สนองตอบนโยบายและยุทธศาสตร์ตามที่รัฐบาลวางไว้
นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า แนวทางการทำงานในเรื่องการท่องเที่ยว จะเน้นแบบบูรณาการ โดยพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ด้วยตระหนักดีว่า หากภาคเอกชนไม่เข้มแข็ง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย จะไม่มีวันเดินหน้าต่อ หรือแข่งขันกับใครได้ ดังนั้น รัฐบาล ซึ่งเป็นผู้บริหารนโยบาย จะทำทุกวิถีทางในการสร้างช่องทาง ,อำนวยความสะดวกและเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน ซึ่งป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น เมื่อเข้าสู่การเปิดเสรี AECในปี 2558
นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการประสานงานกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยจะขอความช่วยเหลือจากกลไกระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ช่วยประสานการทำงานร่วมกับ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และกระทรวงวันธรรม การบินไทย เป็นต้น โดยแนวทางการทำงาน จะต้องให้เกิดการเติบโตด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้นักท่องเที่ยวคุณภาพ และ
ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ควบคู่กันไป
เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน รายได้ 2 ล้านล้านบาท มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินฝัน หาก ไม่มีปัจจัยลบใดๆ เกิดขึ้น ด้วยศักยภาพการทำงานของ ภาคเอกชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ แหล่งท่องเที่ยวของไทย สามารถผลักดันให้นักท่องเที่ยวเติบโตได้ปีละ 10% ส่วนประเด็นการเตรียมความพร้อมเปิดเสรี AEC จะเร่งพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถบุคคลากร ทั้งระดับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และ การพัฒนาขีดความสามารถของภาคเอกชน รวมถึงความสามารถทางด้านภาษาให้แก่บุคคลากรในภาคท่องเที่ยว เร็วๆนี้จะเรียก สำนักพัฒนาบุคคลากร และกระทรวงการศึกษา มาหารือร่วมกัน จัดทำหลักสูตร เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ 32 สาขาวิชาชีพ ด้านการท่องเที่ยวที่จะเปิดเสรีอาเซียน
ในงานระดับนโยบาย จะมุ่งทำงานให้ภาระกิจท่องเที่ยวและกีฬา ต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยมีแนวคิดสนับสนุนกิจกรรมกีฬาระดับนานาชาติ เช่น กอล์ฟ เทนนิส และมหกรรมกีฬา อื่นๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นแม่เหล็กเชิญชวน นักท่องท่องเที่ยว ระดับคุณภาพ กลุ่มผ้ชื่นชอบกีฬา ให้เดินทางเข้ามา โดยล่าสุด หารือร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ หรือ สสปน.
การกีฬาแห่งประเทศไทย และบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฯพณฯชุมพล ศิลปอาชา ที่จะร่วมมือกันประมูลสิทธิการจัดแข่งขันรถยนต์ ฟอร์มูล่าวัน ในประเทศไทย ชูจุดขายว่าไทยเป็นสนามแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ที่สวยที่สุดในโลก เพราะจะใช้เส้นทางรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีทั้งพระบรมมหาราชวัง ,โลหะปราสาท ,
ท่าเตียน ที่สวยงามสองข้างทาง เรามุ่งหวังใช้กีฬา มาเติมเต็มการเดินทางท่องเที่ยว
ท้ายสุด สุวัตร สิทธิหล่อ ไม่ลืม ที่จะพูดถึงการแก้ปัญหาระยะสั้น เรื่องสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะเร่งหารือกับภาคเอกชน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อช่วยเหลือ และฟื้นฟูลงไปถึงพื้นที่ที่น้ำท่วม มุ่งหวังให้ ภาคการท่องเที่ยวเข้าไปมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ด้วยอายุราชการอีก 4 ปี กับตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “สุวัตร สิทธิหล่อ” มีภาระกิจมากมาย ที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะไม่เพียงแค่การบริหาร ทั้งงานด้านท่องเที่ยวและกีฬา แต่ยังต้องเตรียมความพร้อมกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง ที่ต้องเข้าสู่การเปิดเสรี อีกทั้งยังต้องดำเนินการตามภาระกิจที่รัฐบาล นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ตั้งเป้าหมายว่า ใน 4 ปี ของรัฐบาลชุดนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ถึง 30 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ และเงินหมุนเวียน รวมกันถึง 2 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปีปัจจุบัน เท่าตัว
จึงถือเป็นภาระกิจที่ ปลัดฯคนใหม่ ป้ายแดงท่านนี้ จะต้องจัดวางระบบ นำภาคเอกชนและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยไปสู่เป้าหมาย ให้สมกับเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียน สนองตอบนโยบายและยุทธศาสตร์ตามที่รัฐบาลวางไว้
นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า แนวทางการทำงานในเรื่องการท่องเที่ยว จะเน้นแบบบูรณาการ โดยพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ด้วยตระหนักดีว่า หากภาคเอกชนไม่เข้มแข็ง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย จะไม่มีวันเดินหน้าต่อ หรือแข่งขันกับใครได้ ดังนั้น รัฐบาล ซึ่งเป็นผู้บริหารนโยบาย จะทำทุกวิถีทางในการสร้างช่องทาง ,อำนวยความสะดวกและเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน ซึ่งป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น เมื่อเข้าสู่การเปิดเสรี AECในปี 2558
นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการประสานงานกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยจะขอความช่วยเหลือจากกลไกระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ช่วยประสานการทำงานร่วมกับ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และกระทรวงวันธรรม การบินไทย เป็นต้น โดยแนวทางการทำงาน จะต้องให้เกิดการเติบโตด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้นักท่องเที่ยวคุณภาพ และ
ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ควบคู่กันไป
เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน รายได้ 2 ล้านล้านบาท มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินฝัน หาก ไม่มีปัจจัยลบใดๆ เกิดขึ้น ด้วยศักยภาพการทำงานของ ภาคเอกชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ แหล่งท่องเที่ยวของไทย สามารถผลักดันให้นักท่องเที่ยวเติบโตได้ปีละ 10% ส่วนประเด็นการเตรียมความพร้อมเปิดเสรี AEC จะเร่งพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถบุคคลากร ทั้งระดับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และ การพัฒนาขีดความสามารถของภาคเอกชน รวมถึงความสามารถทางด้านภาษาให้แก่บุคคลากรในภาคท่องเที่ยว เร็วๆนี้จะเรียก สำนักพัฒนาบุคคลากร และกระทรวงการศึกษา มาหารือร่วมกัน จัดทำหลักสูตร เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ 32 สาขาวิชาชีพ ด้านการท่องเที่ยวที่จะเปิดเสรีอาเซียน
ในงานระดับนโยบาย จะมุ่งทำงานให้ภาระกิจท่องเที่ยวและกีฬา ต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยมีแนวคิดสนับสนุนกิจกรรมกีฬาระดับนานาชาติ เช่น กอล์ฟ เทนนิส และมหกรรมกีฬา อื่นๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นแม่เหล็กเชิญชวน นักท่องท่องเที่ยว ระดับคุณภาพ กลุ่มผ้ชื่นชอบกีฬา ให้เดินทางเข้ามา โดยล่าสุด หารือร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ หรือ สสปน.
การกีฬาแห่งประเทศไทย และบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฯพณฯชุมพล ศิลปอาชา ที่จะร่วมมือกันประมูลสิทธิการจัดแข่งขันรถยนต์ ฟอร์มูล่าวัน ในประเทศไทย ชูจุดขายว่าไทยเป็นสนามแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ที่สวยที่สุดในโลก เพราะจะใช้เส้นทางรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีทั้งพระบรมมหาราชวัง ,โลหะปราสาท ,
ท่าเตียน ที่สวยงามสองข้างทาง เรามุ่งหวังใช้กีฬา มาเติมเต็มการเดินทางท่องเที่ยว
ท้ายสุด สุวัตร สิทธิหล่อ ไม่ลืม ที่จะพูดถึงการแก้ปัญหาระยะสั้น เรื่องสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะเร่งหารือกับภาคเอกชน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อช่วยเหลือ และฟื้นฟูลงไปถึงพื้นที่ที่น้ำท่วม มุ่งหวังให้ ภาคการท่องเที่ยวเข้าไปมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
