จี้แก้ปัญหาเก็บค่าฟีซ้อนหวั่นกองถ่ายเทศหนีไทย
ASTVผู้จัดการรายวัน - อุตฯหนังเสนอตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาเรียกเก็บเงินกองถ่ายหนังซ้ำซ้อน หวั่นเสียภาพลักษณ์ประเทศไทย หันไปใช้บริการประเทศอื่น ด้านกองกิจการภาพยนตร์ ตั้งงบ 7 ล้านบาท โหมโรดโชว์ต่างประเทศปีหน้า
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย เปิดเผยว่า มีแนวคิดเสนอให้กรมการท่องเที่ยว ตั้งคณะทำงานประจำจังหวัด หรือประจำภูมิภาค ดูแลด้านการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าใช้สถานที่เพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ เพื่อแก้ปัญหาการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมฯที่ทับซ้อนกันอยู่
เบื้องต้นคณะทำงานควรจะประกอบด้วยตัวแทนจากทุกภาคส่วน อาทิ กรมอุทยานฯ องค์กรปกครองท้องถิ่น เช่น อบจ. อบต. กรมศิลปากร จังหวัด โดยมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้สถานที่ให้เบ็ดเสร็จ และจังหวัดสามารถรับรู้ได้อีกด้วยว่า มีกองถ่ายภาพยนตร์ใดบ้าง ที่ติดต่อเข้ามาอย่างถูกต้อง
ง่ายต่อการควบคุมการลักลอบถ่ายทำภาพยนตร์ ขณะเดียวกันยังเป็นช่องทางให้แต่ละจังหวัด ที่ต้องการสร้างรายได้จากธุรกิจบริการนี้ ได้ปรับปรุงบริการ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้แก่จังหวัด กระจายรายได้สู่ชุมชน
“ที่ผ่านมา กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศมักเจอปัญหาที่ว่า เมื่อลงพื้นที่ถ่ายภาพยนตร์มักมีบุคคลอ้างว่าเป็นหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เข้ามาขอเรียกเก็บค่าใช้สถานที่ ค่าอำนวยความสะดวก ทั้งที่กองถ่ายก็เสียค่าธรรมเนียมและขอใบอนุญาติถ่ายทำมาอย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว หากปล่อยเช่นนี้ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
เพราะนอกจากเราจะไม่มีอินเซนทีฟให้กับกองถ่ายหนังต่างชาติแล้ว ยังมีการเรียกเก็บเงินจุกจิก เป็นที่รำคาญและเพิ่มต้นทุนให้แก่กองถ่าย” แหล่งข่าวกล่าว
ตั้งงบ 7 ล้านโรดโชว์ต่างประเทศ
น.ส.วรรณสิริ โมรากุล ผู้อำนวยการกองกิจการภาพยนตร์ กรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2555 ในส่วนกิจการภาพยนตร์ ได้เสนอของบประมาณ 54 ล้านบาท โแบ่ง 7 ล้านบาท ใช้ในกิจกรรมโรดโชว์ต่างประเทศ 6 ครั้งตลอดปี เพิ่มจากปีก่อนที่ออกโรดโชว์ 5 ครั้ง นำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการเพื่อเชิญชวนผู้อำนวยการผลิตและผู้กำกับภาพยนตร์จากต่างประเทศ.ให้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ
สำหรับงานที่จะเดินทางไปร่วมงาน ได้แก่ งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ปูซาน ประเทศเกาหลี , งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 21-26 ต.ค.นี้, งานพบปะกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เดือน ก.พ.55 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กรมฯ จะเข้าร่วมงาน , งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ฮ่องกง เดือน มี.ค.55, งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่เมืองคาน ประเทศฝรั่งเศส เดือน พ.ค.55 และงานเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โดยเฉพาะ ที่อเมริกา เดือน มิ.ย. 55
ปีงบประมาณ 55 หากได้รับงบตามที่ขอไป กรมฯก็จะไปร่วมงานที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นครั้งแรก เพราะเห็นว่าที่ผ่านมามีรายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ เข้ามาถ่ายทำในไทยมากไม่แพ้กับภาพยนตร์ที่มูลค่าลงทุนมหาศาล แม้ว่ารายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ จะใช้เม็ดเงินถ่ายทำแต่ละครั้งไม่มาก อยู่ในไทยไม่นาน แต่หากดึงเข้ามาได้มากก็จะทำให้ไทยมีรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศมากขึ้น โดยครั้งนี้กรมฯ จะได้พบปะกับผู้ที่อยู่ในธุรกิจที่เดินทางมาจากยุโรป และประเทศอื่นทั่วโลก
“ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ไปโรดโชว์ ประเทศไทย ได้รับกระแสตอบรับดีจากผู้สร้างภาพยนตร์ และยังทำมีหนังฟอร์มใหญ่เข้ามาถ่ายทำ เช่น เรื่อง แฮงค์ โอเวอร์ ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ เมื่อต้นปี “
สำหรับปีนี้ กรมฯ จะเน้นชูสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ต่างประเทศรู้จักมากขึ้น จะได้กระจายรายได้ เข้าชุมชนอย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันกองถ่ายนิยม ใช้สถานที่ หาดทราย ชายทะเลทางภาคใต้ และโลเกชั่นกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่
ASTVผู้จัดการรายวัน - อุตฯหนังเสนอตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาเรียกเก็บเงินกองถ่ายหนังซ้ำซ้อน หวั่นเสียภาพลักษณ์ประเทศไทย หันไปใช้บริการประเทศอื่น ด้านกองกิจการภาพยนตร์ ตั้งงบ 7 ล้านบาท โหมโรดโชว์ต่างประเทศปีหน้า
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย เปิดเผยว่า มีแนวคิดเสนอให้กรมการท่องเที่ยว ตั้งคณะทำงานประจำจังหวัด หรือประจำภูมิภาค ดูแลด้านการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าใช้สถานที่เพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ เพื่อแก้ปัญหาการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมฯที่ทับซ้อนกันอยู่
เบื้องต้นคณะทำงานควรจะประกอบด้วยตัวแทนจากทุกภาคส่วน อาทิ กรมอุทยานฯ องค์กรปกครองท้องถิ่น เช่น อบจ. อบต. กรมศิลปากร จังหวัด โดยมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้สถานที่ให้เบ็ดเสร็จ และจังหวัดสามารถรับรู้ได้อีกด้วยว่า มีกองถ่ายภาพยนตร์ใดบ้าง ที่ติดต่อเข้ามาอย่างถูกต้อง
ง่ายต่อการควบคุมการลักลอบถ่ายทำภาพยนตร์ ขณะเดียวกันยังเป็นช่องทางให้แต่ละจังหวัด ที่ต้องการสร้างรายได้จากธุรกิจบริการนี้ ได้ปรับปรุงบริการ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้แก่จังหวัด กระจายรายได้สู่ชุมชน
“ที่ผ่านมา กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศมักเจอปัญหาที่ว่า เมื่อลงพื้นที่ถ่ายภาพยนตร์มักมีบุคคลอ้างว่าเป็นหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เข้ามาขอเรียกเก็บค่าใช้สถานที่ ค่าอำนวยความสะดวก ทั้งที่กองถ่ายก็เสียค่าธรรมเนียมและขอใบอนุญาติถ่ายทำมาอย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว หากปล่อยเช่นนี้ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
เพราะนอกจากเราจะไม่มีอินเซนทีฟให้กับกองถ่ายหนังต่างชาติแล้ว ยังมีการเรียกเก็บเงินจุกจิก เป็นที่รำคาญและเพิ่มต้นทุนให้แก่กองถ่าย” แหล่งข่าวกล่าว
ตั้งงบ 7 ล้านโรดโชว์ต่างประเทศ
น.ส.วรรณสิริ โมรากุล ผู้อำนวยการกองกิจการภาพยนตร์ กรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2555 ในส่วนกิจการภาพยนตร์ ได้เสนอของบประมาณ 54 ล้านบาท โแบ่ง 7 ล้านบาท ใช้ในกิจกรรมโรดโชว์ต่างประเทศ 6 ครั้งตลอดปี เพิ่มจากปีก่อนที่ออกโรดโชว์ 5 ครั้ง นำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการเพื่อเชิญชวนผู้อำนวยการผลิตและผู้กำกับภาพยนตร์จากต่างประเทศ.ให้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ
สำหรับงานที่จะเดินทางไปร่วมงาน ได้แก่ งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ปูซาน ประเทศเกาหลี , งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 21-26 ต.ค.นี้, งานพบปะกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เดือน ก.พ.55 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กรมฯ จะเข้าร่วมงาน , งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ฮ่องกง เดือน มี.ค.55, งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่เมืองคาน ประเทศฝรั่งเศส เดือน พ.ค.55 และงานเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โดยเฉพาะ ที่อเมริกา เดือน มิ.ย. 55
ปีงบประมาณ 55 หากได้รับงบตามที่ขอไป กรมฯก็จะไปร่วมงานที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นครั้งแรก เพราะเห็นว่าที่ผ่านมามีรายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ เข้ามาถ่ายทำในไทยมากไม่แพ้กับภาพยนตร์ที่มูลค่าลงทุนมหาศาล แม้ว่ารายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ จะใช้เม็ดเงินถ่ายทำแต่ละครั้งไม่มาก อยู่ในไทยไม่นาน แต่หากดึงเข้ามาได้มากก็จะทำให้ไทยมีรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศมากขึ้น โดยครั้งนี้กรมฯ จะได้พบปะกับผู้ที่อยู่ในธุรกิจที่เดินทางมาจากยุโรป และประเทศอื่นทั่วโลก
“ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ไปโรดโชว์ ประเทศไทย ได้รับกระแสตอบรับดีจากผู้สร้างภาพยนตร์ และยังทำมีหนังฟอร์มใหญ่เข้ามาถ่ายทำ เช่น เรื่อง แฮงค์ โอเวอร์ ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ เมื่อต้นปี “
สำหรับปีนี้ กรมฯ จะเน้นชูสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ต่างประเทศรู้จักมากขึ้น จะได้กระจายรายได้ เข้าชุมชนอย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันกองถ่ายนิยม ใช้สถานที่ หาดทราย ชายทะเลทางภาคใต้ และโลเกชั่นกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่