xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กเครื่องไฟฟ้ายันตลาดยังไม่ตก "แอลจี"โหมพรีเมียม-โตชิบาไม่ปรับเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – "โตชิบา" ยันตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้ายังดีอยู่ จากหลายปัจจัยบวกเอื้อ มั่นใจรายได้ปีบัญชีตามเป้าหมาย "แอลจี" เตรียมอุ้มซัพพลายเออร์หลังน้ำลด พร้อมลุยไตรมาสสี่เต็มสูบ เตรียมจ่อโปรดักส์เทคโนโลยี รุกกลุ่มพรีเมี่ยมปีหน้า ด้านพานาโซนิคทำตามแผนเดิม


นายยูกิฮารุ อาดาชิ ประธานบริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีแบรนด์ “โตชิบา” กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงปลายปี54 นี้ บริษัทฯประเมินว่า ภาพรวมยังคงมีแนวโน้มเป็นบวกอยู่ เนือ่งจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของประเทศไทยยังอยู่ในระดับ 3-4% ขณะที่ตัวเลขดัชนีกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีการเพิ่มขึ้นถึง 10% เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดเอชเอและเอวี ที่จะเติบโตตามไปด้วย แม้ว่าขณะนี้จะมีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นก็ตาม

**โตชิบาไม่ปรับเป้ารายได้
ทั้งนี้จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดของไทยขณะนี้ บริษัทฯยังไม่มีนดโยบายในการปรับเป้าหมายรายได้รวมปีบัญชี 2554 (เม.ย..54-มี.ค.55) ซึ่งยังมั่นใจว่จะสามารถทำรายได้รวมกว่า 10,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีบัญชีบริษัทฯ สามารถทำรายได้รวมแล้วกว่า 4,800 ล้านบาทมีอัตราเติบโตกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

โดยการเติบโตนั้นมาจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดครัวเรือน(เอชเอ) เติบโต 15 % และกลุ่มภาพและเสียง(เอวี)เติบโตมากกว่า3เท่า ตามแนวโน้มเดียวกับตลาดรวมจากการเปิดตัวของสินค้าหมวดทีวี อัจฉริยะ(สมาร์ท ทีวี) อินเทอร์เน็ตทีวี และทีวี 3 มิติ เป็นต้น

ล่าสุดบริษัทฯใช้งบประมาณกว่า 110 ล้านบาท ทำตลาดผ่านสื่อครบวงจร พร้อมเปิดตัวโฆษณาและส่งเสริมการขาย และการตกแต่งหน้าร้านสไตล์ใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์แอลซีดีทีวี ล่าสุดเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ในกลุ่ม เพาเวอร์ ทีวี ซีรียส์ 4 รุ่น จำนวน 11 รายการ ราคาเริ่มต้น 4,990 บาทขนาด19 นิ้ว และสูงสุดกว่า 30,000 บาท ขนาด 46 นิ้ว รองรับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดแอลซีดีทีวี ที่จะเข้าไปทดแทนกลุ่มทีวีจอแก้ว(ซีอาร์ซีทีวี) ในอนาคต จากปัจจุบันทีวีจอแก้วมีสัดส่วน 50% ของตลาดรวม 3 ล้านเครื่องและมีจำนวนลดน้อยทุกปี คาดในปีหน้าสัดส่วนจะลดลงเหลือ 30%

***แอลจีรุกกลุ่มพรีเมียมหนัก
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในสวกว้างทั่วประเทศนี้ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าแน่นอน แต่มองว่าควรมองในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักมากกว่า เพราะสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ เป็นปีที่มีความสูญเสียทั้งในแง่ของชีวิตและทรัพย์สินค่อนข้างมาก
ในส่วนของแอลจีเองนั้น ได้เตรียมการณ์รองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไว้แล้ว โดยภายหลังจากน้ำลดลง เตรียมที่เข้าไปช่วยเหลือให้กับกลุ่มซัพพลายเออร์ รวมถึงการจัดเซอร์วิสแคมเปญเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกส่วนหนึ่งด้วย

ในช่วงไตรมาสสี่นี้ยังคงทำตามแผนที่วางไว้ ล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อนำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ระดับโลกเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในงานบีโอไอแฟร์2011 วันที่ 10-25 พ.ย.นี้ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด Smilenovation (สไมล์โนเวชั่น) หรือ นวัตกรรมเพื่อรอยยิ้มและความสุข คาดว่าตลอดทั้งงาน จะมีผู้เข้าชมภายในพาวิลเลี่ยนแอลจีไม่ต่ำกว่า 400,000 คน

ประกอบด้วย พาวิลเลียนของแอลจี พื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.Smart Technology ในกลุ่มสินค้าโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และโทรศัพท์มือถือ
2.Innovation Green Living กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อสุขภาพ และเครื่องปรับอากาศ รวมถึงโซลูชั่นด้านพลังงาน ที่มาพร้อมเทคโนโลยี THINQ?

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาแอลจีให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมที่มีนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มสินค้านวัตกรรมระดับพรีเมี่ยมมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น  เช่น เครื่องปรับอากาศในกลุ่มอินเวอร์เตอร์นั้น มีส่วนแบ่งมากสุด ดังนั้นตามแผนการตลาด
ในปีหน้าบริษัทจะรุกในส่วนสินค้านวัตกรรมระดับพรีเมี่ยมมากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี  THINQ? ที่นำมาเปิดตัวในงานบีโอไอแฟร์ครั้งนี้ จะเริ่มนำเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไป เริ่มจากเครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น และไมโครเวฟ ตามลำดับ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

***พานาโซนิคทำตามแผนเดิม
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจจากนี้ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องทั้งการทำโปรโมชั่น กิจกรรมส่งเสริมการขายและการเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หรือไตรมาส 3 และ 4 ของรอบบัญชีบริษัท ซึ่งจะมีสินค้าอีกหลายรายการเข้ามาทำตลาด แต่จะเน้นเป็นพิเศษที่กลุ่มตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ เข้ามาทำตลาดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ปี 2554 จะเป็นไปตามเป้าหมาย ( เม.ย.54 – มี.ค. 55 ) คือประมาณ 22,000 ล้านบาท เติบโต 10%
กำลังโหลดความคิดเห็น