ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือในที่ประชุม ถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้สภาได้จัดซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ยี่ห้อโตชิบา ให้กับสมาชิก แต่เมื่อหมดสมัยประชุม มีสมาชิกส่งเครื่องคืนเพียง 276 เครื่อง หายไป 204 เครื่อง
ถึงวันนี้มีการนำเอาเครื่องเก่าที่สมาชิกคืนมา แจกให้กับสมาชิกโดยไม่ทราบว่าส่วนที่หายไปมีการดำเนินการอย่างไร เมื่อสภาเก็บเครื่องเก่าคืนไม่ครบ ก็ไปซื้อของจีนแดง ยี่ห้อ เลอโนโว มีการตั้งราคาแพงมาก เป็นภาระแก่สมาชิก โดยเฉพาะอุปกรณ์ เช่น หัวอะแดปเตอร์ 2,000 บาท สายไฟราคา 200 บาท แบตเตอรี่ ราคา 5,500 บาท กระเป๋าราคา 2,000 บาท และราคาเครื่องที่ต้องชดใช้หากเกิดความเสียหาย เครื่องละ 3 หมื่นบาท ถือเป็นการเพิ่มภาระกับสมาชิกอย่างมาก อยากถามว่าตั้งราคาสูงแบบนี้ได้อย่างไร
นอกจากนี้ยัง มีของแถมบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย เป็นแอร์การ์ด จากบริษัท เอไอเอส และ wifi จากบริษัททรู โดยมีการกำหนดว่าหากแอร์การ์ดสูญหาย จะต้องชดใช้เงินจำนวน 1,390 บาท และสภาต้องจ่ายค่าบริการในส่วนแอร์การ์ดตัวละ 400 บาทต่อเดือน ซึ่งจำนวนโน้ตบุ๊คมี 500 ตัว เท่ากับปีละ 2.4 ล้านบาท
ส่วน wifi สภาต้องจ่ายค่าบริการเดือนละ 600 บาท อยากถามว่า มีความจำเป็นหรือไม่ เพราะเรามีwifi ของสภาบริการอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเงินจ่ายค่าบริการเหล่านี้ มีสายสนกลในมาแถมให้สภาหรือไม่ อยากถามว่าไม่เอาได้ไหม ถ้าไม่อยากรับจะขอคืนได้หรือไม่
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่ตนได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม กรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร ให้บริการคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ให้กับส.ส.ทั้ง 500 คน พบว่า มีเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับผลประโยชน์ในโครงการนี้ คือบริษัทเอไอเอส. ที่ได้สิทธิ์ขายบริการระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย หรือ แอร์การ์ด ให้กับสมาชิก ส.ส. ซึ่งราคารวมภาษีอยู่ที่ 625 บาท ต่อคน ต่อเดือน ตกเดือนละ 312,500 บาท โดยสภาจะเป็นผู้จ่ายค่าบริการให้ และแม้จะมีสัญญาผูกพัน 12 เดือน เท่ากับ 3,750,000บาท แต่ข้อเท็จจริงสภามีนโยบายอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกจนครบวาระอยู่แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าหากสภานี้อยู่ครบเทอมคือ 4 ปี จะเก็บรายได้ถึง 15 ล้านบาท ส่วนตัวเครื่องแอร์การ์ด ทางบริษัทให้ยืม ไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าทำหาย สภาต้องชำระเงิน 1,390 บาท
ส่วนกรณีการให้บริการ wifi นั้น บริษัททรูมูฟ ที่ทำระบบ ได้แถมให้กับสมาชิกโดยแจกพาสเวิร์ด สำหรับใช้ในพื้นที่อื่นๆ ที่มีสัญญาณการให้บริการของทรูอยู่แล้ว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จึงยังคงมีคำถามอยู่ว่า ในเมื่อที่ผ่านมา และปัจจุบันสภาให้บริการ wifi ฟรี ครอบคลุมทุกพื้นที่ในบริเวณอาคารรัฐสภาอยู่แล้ว ทำไมต้องมีการจัดซื้อระบบแอร์การ์ดเพิ่มเติมอีก
ส่วนกรณีที่ยังมีการคืนเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ครบจำนวน 204 เครื่องนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่จะเป็นอดีตส.ส. ซึ่งทางสภาได้ทำหนังสือทวงถามไป แล้วหากยังไม่ติดต่อกลับ จะดำเนินการฟ้องตามกฏหมายต่อไป และตนจะเสนอให้คณะกรรมาธิการกิจการสภา สอบสวนเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณีความโปร่งใส ต่อกระบวนการประกวดราคาที่ทำไม บริษัทเอไอเอส ที่ได้เข้ามาเพียงเจ้าเดียว
ด้านนายพิทูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ให้สำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ทำหนังสือชี้แจงภายหลังจากที่สื่อ ได้นำเสนอข้อมูลการยืม-คืน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ของส.ส. รวมไปถึงการอภิปรายของ นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมสภา ระบุว่า ยังคงมีโน้ตบุ๊คที่ไม่ได้คืนอีก 204 เครื่อง และสภาฯได้ซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาให้สมาชิกยืมใช้งาน คาดว่าในวันที่ 7 ต.ค. จะทราบข้อเท็จจริง และแจ้งกับสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกับแหล่งข่าว ซึ่งเป็นข้าราชการในสภาฯ เปิดเผยว่า ข้อมูลที่เปิดเผยผ่านสื่อ และส.ส.ได้นำไปอภิปรายนั้น มีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากจำนวนโน้ตบุ๊คที่ยังไม่ได้รับคืนนั้น ล่าสุดเหลือไม่ถึง 50 เครื่องเท่านั้น และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามคืนจากอดีต ส.ส. ที่ไม่ได้รับเลือกตั้งในสมัยปัจจุบัน ด้วยวิธีการส่งเรื่องฟ้องศาลให้นำเครื่องมาคืน ซึ่งบางรายอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย
ส่วนโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่ ที่เป็นยี่ห้อเลอโนโวนั้น ไม่ได้เป็นการจัดซื้อเข้ามาใหม่ แต่เป็นเครื่องที่ได้รับบริจาคจากประเทศจีน เมื่อสมัยที่นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ ที่ไม่ได้ใช้งานในกิจการของสภาฯ จำนวน 50 เครื่อง เท่านั้น
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนตัวเลขที่ไม่ได้คืนจำนวน 204 เครื่องนั้น เป็นยอด ณ วันที่มีการยุบสภา โดยภายหลังจากนั้นได้มีอดีตส.ส.นำเครื่องมาคืน ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้มาคืน แต่ได้รับเลือกมาเป็นส.ส.อีก ก็ได้นำเครื่องที่ยืมจากสมัยที่ผ่านมา มาทำสัญญายืมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อใช้งานต่อไป
สำหรับประเด็น ส.ส.ทำเครื่องหายนั้น ต้องมีการชดใช้ แต่หากอุปกรณ์ชำรุด ต้องชดใช้ราคาอุปกรณ์เป็นรายชิ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าค่าชดใช้ความเสียหายของโน้ตบุ๊คมีราคาสูงกว่า 30,000 บาทนั้น เป็นราคาที่สูงกว่าท้องตลาด เนื่องจากตัวซอฟแวร์ ที่ลงไว้ให้สมาชิกนั้นเป็นลิขสิทธิ์แท้ และมีราคาแพงมาก เนื่องจากหน่วยงานราชการมีกฎห้ามใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์
ส่วนกรณีแอร์การ์ด ที่เป็นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ( มหาชน) หรือเอไอเอสนั้น แหล่งข่าวชี้แจงว่า ไม่ได้มีการผูกขาด หรือเอื้อให้กับบริษัทเอกชนรายใดเป็นพิเศษ เพราะตามกระบวนการของราชการ ต้องมีการเปิดประมูลทุกครั้ง และทำสัญญาปีต่อปี ซึ่งบริษัทที่มาให้บริการแอร์การ์ด เป็นผู้ที่ชนะการประมูล
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ต้องให้ ส.ส.มีแอร์การ์ด เพื่ออำนวยความสะดวกการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตนอกสถานที่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด–ขณะที่การลงทะเบียนไว-ไฟ ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นั้น ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเป็นเพียงการรับลงทะเบียนเพื่อขอรหัสลงชื่อเข้าใช้งานเท่านั้น ทุกอย่างที่ทำนั้นโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
ถึงวันนี้มีการนำเอาเครื่องเก่าที่สมาชิกคืนมา แจกให้กับสมาชิกโดยไม่ทราบว่าส่วนที่หายไปมีการดำเนินการอย่างไร เมื่อสภาเก็บเครื่องเก่าคืนไม่ครบ ก็ไปซื้อของจีนแดง ยี่ห้อ เลอโนโว มีการตั้งราคาแพงมาก เป็นภาระแก่สมาชิก โดยเฉพาะอุปกรณ์ เช่น หัวอะแดปเตอร์ 2,000 บาท สายไฟราคา 200 บาท แบตเตอรี่ ราคา 5,500 บาท กระเป๋าราคา 2,000 บาท และราคาเครื่องที่ต้องชดใช้หากเกิดความเสียหาย เครื่องละ 3 หมื่นบาท ถือเป็นการเพิ่มภาระกับสมาชิกอย่างมาก อยากถามว่าตั้งราคาสูงแบบนี้ได้อย่างไร
นอกจากนี้ยัง มีของแถมบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย เป็นแอร์การ์ด จากบริษัท เอไอเอส และ wifi จากบริษัททรู โดยมีการกำหนดว่าหากแอร์การ์ดสูญหาย จะต้องชดใช้เงินจำนวน 1,390 บาท และสภาต้องจ่ายค่าบริการในส่วนแอร์การ์ดตัวละ 400 บาทต่อเดือน ซึ่งจำนวนโน้ตบุ๊คมี 500 ตัว เท่ากับปีละ 2.4 ล้านบาท
ส่วน wifi สภาต้องจ่ายค่าบริการเดือนละ 600 บาท อยากถามว่า มีความจำเป็นหรือไม่ เพราะเรามีwifi ของสภาบริการอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเงินจ่ายค่าบริการเหล่านี้ มีสายสนกลในมาแถมให้สภาหรือไม่ อยากถามว่าไม่เอาได้ไหม ถ้าไม่อยากรับจะขอคืนได้หรือไม่
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่ตนได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม กรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร ให้บริการคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ให้กับส.ส.ทั้ง 500 คน พบว่า มีเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับผลประโยชน์ในโครงการนี้ คือบริษัทเอไอเอส. ที่ได้สิทธิ์ขายบริการระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย หรือ แอร์การ์ด ให้กับสมาชิก ส.ส. ซึ่งราคารวมภาษีอยู่ที่ 625 บาท ต่อคน ต่อเดือน ตกเดือนละ 312,500 บาท โดยสภาจะเป็นผู้จ่ายค่าบริการให้ และแม้จะมีสัญญาผูกพัน 12 เดือน เท่ากับ 3,750,000บาท แต่ข้อเท็จจริงสภามีนโยบายอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกจนครบวาระอยู่แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าหากสภานี้อยู่ครบเทอมคือ 4 ปี จะเก็บรายได้ถึง 15 ล้านบาท ส่วนตัวเครื่องแอร์การ์ด ทางบริษัทให้ยืม ไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าทำหาย สภาต้องชำระเงิน 1,390 บาท
ส่วนกรณีการให้บริการ wifi นั้น บริษัททรูมูฟ ที่ทำระบบ ได้แถมให้กับสมาชิกโดยแจกพาสเวิร์ด สำหรับใช้ในพื้นที่อื่นๆ ที่มีสัญญาณการให้บริการของทรูอยู่แล้ว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จึงยังคงมีคำถามอยู่ว่า ในเมื่อที่ผ่านมา และปัจจุบันสภาให้บริการ wifi ฟรี ครอบคลุมทุกพื้นที่ในบริเวณอาคารรัฐสภาอยู่แล้ว ทำไมต้องมีการจัดซื้อระบบแอร์การ์ดเพิ่มเติมอีก
ส่วนกรณีที่ยังมีการคืนเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ครบจำนวน 204 เครื่องนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่จะเป็นอดีตส.ส. ซึ่งทางสภาได้ทำหนังสือทวงถามไป แล้วหากยังไม่ติดต่อกลับ จะดำเนินการฟ้องตามกฏหมายต่อไป และตนจะเสนอให้คณะกรรมาธิการกิจการสภา สอบสวนเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณีความโปร่งใส ต่อกระบวนการประกวดราคาที่ทำไม บริษัทเอไอเอส ที่ได้เข้ามาเพียงเจ้าเดียว
ด้านนายพิทูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ให้สำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ทำหนังสือชี้แจงภายหลังจากที่สื่อ ได้นำเสนอข้อมูลการยืม-คืน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ของส.ส. รวมไปถึงการอภิปรายของ นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมสภา ระบุว่า ยังคงมีโน้ตบุ๊คที่ไม่ได้คืนอีก 204 เครื่อง และสภาฯได้ซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาให้สมาชิกยืมใช้งาน คาดว่าในวันที่ 7 ต.ค. จะทราบข้อเท็จจริง และแจ้งกับสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกับแหล่งข่าว ซึ่งเป็นข้าราชการในสภาฯ เปิดเผยว่า ข้อมูลที่เปิดเผยผ่านสื่อ และส.ส.ได้นำไปอภิปรายนั้น มีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากจำนวนโน้ตบุ๊คที่ยังไม่ได้รับคืนนั้น ล่าสุดเหลือไม่ถึง 50 เครื่องเท่านั้น และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามคืนจากอดีต ส.ส. ที่ไม่ได้รับเลือกตั้งในสมัยปัจจุบัน ด้วยวิธีการส่งเรื่องฟ้องศาลให้นำเครื่องมาคืน ซึ่งบางรายอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย
ส่วนโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่ ที่เป็นยี่ห้อเลอโนโวนั้น ไม่ได้เป็นการจัดซื้อเข้ามาใหม่ แต่เป็นเครื่องที่ได้รับบริจาคจากประเทศจีน เมื่อสมัยที่นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ ที่ไม่ได้ใช้งานในกิจการของสภาฯ จำนวน 50 เครื่อง เท่านั้น
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนตัวเลขที่ไม่ได้คืนจำนวน 204 เครื่องนั้น เป็นยอด ณ วันที่มีการยุบสภา โดยภายหลังจากนั้นได้มีอดีตส.ส.นำเครื่องมาคืน ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้มาคืน แต่ได้รับเลือกมาเป็นส.ส.อีก ก็ได้นำเครื่องที่ยืมจากสมัยที่ผ่านมา มาทำสัญญายืมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อใช้งานต่อไป
สำหรับประเด็น ส.ส.ทำเครื่องหายนั้น ต้องมีการชดใช้ แต่หากอุปกรณ์ชำรุด ต้องชดใช้ราคาอุปกรณ์เป็นรายชิ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าค่าชดใช้ความเสียหายของโน้ตบุ๊คมีราคาสูงกว่า 30,000 บาทนั้น เป็นราคาที่สูงกว่าท้องตลาด เนื่องจากตัวซอฟแวร์ ที่ลงไว้ให้สมาชิกนั้นเป็นลิขสิทธิ์แท้ และมีราคาแพงมาก เนื่องจากหน่วยงานราชการมีกฎห้ามใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์
ส่วนกรณีแอร์การ์ด ที่เป็นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ( มหาชน) หรือเอไอเอสนั้น แหล่งข่าวชี้แจงว่า ไม่ได้มีการผูกขาด หรือเอื้อให้กับบริษัทเอกชนรายใดเป็นพิเศษ เพราะตามกระบวนการของราชการ ต้องมีการเปิดประมูลทุกครั้ง และทำสัญญาปีต่อปี ซึ่งบริษัทที่มาให้บริการแอร์การ์ด เป็นผู้ที่ชนะการประมูล
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ต้องให้ ส.ส.มีแอร์การ์ด เพื่ออำนวยความสะดวกการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตนอกสถานที่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด–ขณะที่การลงทะเบียนไว-ไฟ ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นั้น ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเป็นเพียงการรับลงทะเบียนเพื่อขอรหัสลงชื่อเข้าใช้งานเท่านั้น ทุกอย่างที่ทำนั้นโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
