ทรูจีเอส มั่นใจทีวีโฮมชอปปิ้งยังมีโอกาสโตอีกมาก หวังโค้งท้ายโกย 100 ล้านบาท ปีหน้า 800 ล้านบาท ชี้ปัจจัยหนุนสินค้าต่าง มีสินค้าจาาเกาหลี 30% และคุณภาพรายการไม่ยัดเยียด
นายไพบูลย์ ผู้พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู จีเอส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งในไทย ผ่านรายการทรูซีเล็ค ในทรูวิชั่นส์ช่อง 11 เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้คาดว่าจะสามารถทำรายได้ 100 ล้านบาท และในปีหน้าทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 800 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากในตลาดมีผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 1-2 ราย นอกจากนั้นก็เป็นรายย่อยๆ ซึ่งยังไม่มีการแข่งขันกันอย่างจริงจัง
จุดแตกต่างของบริษัทกับรายอื่นคือ การที่เราผลิตรายการแบบไม่ยัดเยียด และการให้ข้อมูลลูกค้าที่ครบถ้วน รวมทั้งการส่งฟรีถึงบ้าน และสินค้าก็มีความหลากหลายโดยเฉพาะจากเกาหลี ทั้งนี้บริษัทมั่นใจในศักยภาพของบริษัทซึ่งเกิดจากการร่วมทุนกันระหว่าง 4 รายใหญ่ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญต่างกันไป คือ 1. ทรูวิชั่น ถือหุ้น 45% จะรับผิดชอบด้านคอนเท้นต์และรายการ 2.จีเอสจากเกาหลี 35% เชี่ยวชาญด้านโฮมชอปปิ้งรายใหญ่ของเกาหลีและดูแลสินค้าเกาหลีด้วย 3.เดอะมอลล์ ถือหุ้น 10% เชี่ยวชาญด้านค้าปลีกและเมอร์ชันไดส์ และ 4.ซีพีออลล์ ถือหุ้น 10% ซึ่งรับผิดชอบด้านโลจิสติกส์และเครือข่ายช่องทางรับสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทลงทุนไปแล้วกว่า 150 ล้านบาท
“โอกาสของธุรกิจนี้มีอีกมาก แต่ปัจจัยหลักที่จะทำให้ตลาดโตได้รวมทั้งบริษัทโตได้ก็คือ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อธุรกิจและตัวสินค้าที่เราจะนำมาจำหน่าย ส่วนภาวะน้ำท่วมตอนนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนหันมาชอปปิ้งผ่านสื่อทีวีกันมากขึ้นก็เป็นได้ แต่เราไม่ได้มองตรงนั้นเป็นจุดสำคัญเพราะพี่น้องต่างจังหวัดยังลำบากกันอยู่
แต่เรามองเป็นทางเลือกและช่องทางธุรกิจที่ลดต้นทุนประกอบการได้ และเปิดโอกาสให้สินค้าของเอสเอ็มอีได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าได้ด้วย ขณะที่เราก็มีฐานลูกค้าทรูวิชั่นส์มากกว่า 2 ล้านครัวเรือนเป็นลูกค้าอยู่แล้ว ”
สำหรับสินค้าที่จำหน่ายนั้นหลักๆเบื้องต้นจะมี 4 กลุ่มคือ 1.สินค้าแฟชั่นความงาม เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง2.กลุ่มสินค้าครัวเรือน เช่น ของตกแต่งบ้าน เครื่องออกกำลังกาย เครื่องครัว 3. กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว 4.กลุ่มบริการและอื่นๆ เช่น ประกันชีวิต แพคเกจทัวร์ เป็นต้น
โดยสินค้าที่จำหน่ายนี้จะเป็นสินค้าจากไทย ประมาณ 70% และสินค้าจากเกาหลีประมาณ 30% โดยเมื่อโทรสั่งซื้อสินค้าที่เบอร์ 02-688-6688 จะได้รับสินค้าภายใน 3 วัน และในกลางปีหน้าจะพัฒนาระบบให้รับสินค้าได้ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
นายไพบูลย์ ผู้พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู จีเอส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งในไทย ผ่านรายการทรูซีเล็ค ในทรูวิชั่นส์ช่อง 11 เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้คาดว่าจะสามารถทำรายได้ 100 ล้านบาท และในปีหน้าทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 800 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากในตลาดมีผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 1-2 ราย นอกจากนั้นก็เป็นรายย่อยๆ ซึ่งยังไม่มีการแข่งขันกันอย่างจริงจัง
จุดแตกต่างของบริษัทกับรายอื่นคือ การที่เราผลิตรายการแบบไม่ยัดเยียด และการให้ข้อมูลลูกค้าที่ครบถ้วน รวมทั้งการส่งฟรีถึงบ้าน และสินค้าก็มีความหลากหลายโดยเฉพาะจากเกาหลี ทั้งนี้บริษัทมั่นใจในศักยภาพของบริษัทซึ่งเกิดจากการร่วมทุนกันระหว่าง 4 รายใหญ่ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญต่างกันไป คือ 1. ทรูวิชั่น ถือหุ้น 45% จะรับผิดชอบด้านคอนเท้นต์และรายการ 2.จีเอสจากเกาหลี 35% เชี่ยวชาญด้านโฮมชอปปิ้งรายใหญ่ของเกาหลีและดูแลสินค้าเกาหลีด้วย 3.เดอะมอลล์ ถือหุ้น 10% เชี่ยวชาญด้านค้าปลีกและเมอร์ชันไดส์ และ 4.ซีพีออลล์ ถือหุ้น 10% ซึ่งรับผิดชอบด้านโลจิสติกส์และเครือข่ายช่องทางรับสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทลงทุนไปแล้วกว่า 150 ล้านบาท
“โอกาสของธุรกิจนี้มีอีกมาก แต่ปัจจัยหลักที่จะทำให้ตลาดโตได้รวมทั้งบริษัทโตได้ก็คือ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อธุรกิจและตัวสินค้าที่เราจะนำมาจำหน่าย ส่วนภาวะน้ำท่วมตอนนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนหันมาชอปปิ้งผ่านสื่อทีวีกันมากขึ้นก็เป็นได้ แต่เราไม่ได้มองตรงนั้นเป็นจุดสำคัญเพราะพี่น้องต่างจังหวัดยังลำบากกันอยู่
แต่เรามองเป็นทางเลือกและช่องทางธุรกิจที่ลดต้นทุนประกอบการได้ และเปิดโอกาสให้สินค้าของเอสเอ็มอีได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าได้ด้วย ขณะที่เราก็มีฐานลูกค้าทรูวิชั่นส์มากกว่า 2 ล้านครัวเรือนเป็นลูกค้าอยู่แล้ว ”
สำหรับสินค้าที่จำหน่ายนั้นหลักๆเบื้องต้นจะมี 4 กลุ่มคือ 1.สินค้าแฟชั่นความงาม เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง2.กลุ่มสินค้าครัวเรือน เช่น ของตกแต่งบ้าน เครื่องออกกำลังกาย เครื่องครัว 3. กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว 4.กลุ่มบริการและอื่นๆ เช่น ประกันชีวิต แพคเกจทัวร์ เป็นต้น
โดยสินค้าที่จำหน่ายนี้จะเป็นสินค้าจากไทย ประมาณ 70% และสินค้าจากเกาหลีประมาณ 30% โดยเมื่อโทรสั่งซื้อสินค้าที่เบอร์ 02-688-6688 จะได้รับสินค้าภายใน 3 วัน และในกลางปีหน้าจะพัฒนาระบบให้รับสินค้าได้ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น