วานนี้ (4 ต.ค.54) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงการติดตามตัวผู้แฮกข้อมูลในทวิตเตอร์ของนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้มีหลักฐานเพียงพอที่จะจับกุมผู้กระทำผิดภายใน 1-2 วันนี้ คาดว่ามีคนเดียวอยู่ในกรุงเทพฯ จะทำการขายสอบขยายผลว่าเป็นขบวนการหรือไม่ โดยจะตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ให้เกิดการจับผิดคน เพราะคนทำตั้งใจใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการนำข้อมูลรหัสผ่านของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุอาจนำข้อมูลไปทำกิจกรรมในกลุ่มของตนเอง หรืออาจเป็นกลุ่มคนที่เห็นต่างจากรัฐบาล แต่ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับแผน 9 ขั้นล้มรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบ
พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับการประสานร่วมดำเนินการตรวจสอบกรณีทวิตเตอร์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เบื้องต้นดีเอสไอได้กู้อีเมลพร้อมตรวจสอบข้อมูลอีเมลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และได้ส่งข้อมูลให้นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) และตำรวจแล้ว
โดยการตรวจสอบพบข้อมูลพบหลักฐานว่ามีบุคคลเข้าไปในอีเมลของนายกฯซึ่งจากหลักฐานที่ได้พบข้อมูลบุคคลต้องสงสัยเพียงคนเดียว และดีเอสไอทราบตัวบุคคลดังกล่าวแล้วว่าเป็นใคร โดยบุคคลดังกล่าวยังอยู่ในประเทศไทย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าส่งข้อมูลสำคัญที่ตรวจพบให้ตำรวจไปดำเนินการต่อแล้ว เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจสอบสวนของดีเอสไอ
นายอรรถพร พลบุตรส.ส.เพชรบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนต้องการเห็นความกระตือรือล้นเช่นนี้ของน.อ.อนุดิษฐ์ต่อกรณีเว็ปไซด์หมิ่นสถาบันเบื้องสูงซึ่งมีจำนวนมากและไม่ได้ลดลง และแม้ว่ารัฐมนตรีไอซีทีจะแถลงในสภาผู้แทนฯเมื่อครั้งรับตำแหน่งใหม่ๆว่าจะดำเนินการปราบปรามเว๊บไซด์หมิ่นสถาบันอย่างเด็ดขาด แต่จนบัดนี้ ไม่ปรากฏว่าจะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้แม้แต่รายเดียว
“ถ้าน.อ.อนุดิษฐ์มีความกระตือรือล้นแม้เพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับกรณีแฮกทวิตเตอร์ของนายกฯเราก็คงเห็นผลการปราบปรามเว๊บไซด์หมิ่นสถาบันหรือการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่แจ้งชัดกว่านี้”นายอรรถพรกล่าว
ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุอาจนำข้อมูลไปทำกิจกรรมในกลุ่มของตนเอง หรืออาจเป็นกลุ่มคนที่เห็นต่างจากรัฐบาล แต่ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับแผน 9 ขั้นล้มรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบ
พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับการประสานร่วมดำเนินการตรวจสอบกรณีทวิตเตอร์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เบื้องต้นดีเอสไอได้กู้อีเมลพร้อมตรวจสอบข้อมูลอีเมลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และได้ส่งข้อมูลให้นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) และตำรวจแล้ว
โดยการตรวจสอบพบข้อมูลพบหลักฐานว่ามีบุคคลเข้าไปในอีเมลของนายกฯซึ่งจากหลักฐานที่ได้พบข้อมูลบุคคลต้องสงสัยเพียงคนเดียว และดีเอสไอทราบตัวบุคคลดังกล่าวแล้วว่าเป็นใคร โดยบุคคลดังกล่าวยังอยู่ในประเทศไทย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าส่งข้อมูลสำคัญที่ตรวจพบให้ตำรวจไปดำเนินการต่อแล้ว เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจสอบสวนของดีเอสไอ
นายอรรถพร พลบุตรส.ส.เพชรบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนต้องการเห็นความกระตือรือล้นเช่นนี้ของน.อ.อนุดิษฐ์ต่อกรณีเว็ปไซด์หมิ่นสถาบันเบื้องสูงซึ่งมีจำนวนมากและไม่ได้ลดลง และแม้ว่ารัฐมนตรีไอซีทีจะแถลงในสภาผู้แทนฯเมื่อครั้งรับตำแหน่งใหม่ๆว่าจะดำเนินการปราบปรามเว๊บไซด์หมิ่นสถาบันอย่างเด็ดขาด แต่จนบัดนี้ ไม่ปรากฏว่าจะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้แม้แต่รายเดียว
“ถ้าน.อ.อนุดิษฐ์มีความกระตือรือล้นแม้เพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับกรณีแฮกทวิตเตอร์ของนายกฯเราก็คงเห็นผลการปราบปรามเว๊บไซด์หมิ่นสถาบันหรือการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่แจ้งชัดกว่านี้”นายอรรถพรกล่าว
