วานนี้ (28 ก.ย.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี ยังไม่อนุมัติโครงการจัดหาดเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางธุรการ ( UH-80 /M ) แบล็คฮอล์ค รุ่นเอ็ม ที่กองทัพบกเสนอว่า จะส่งเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงต่อสำนักงบประมาณ ถึงราคาของ ฮ.แบล็คฮอล์ค รุ่นเอ็ม ที่ถูกว่าแพงเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่นเอ็มที่กองทัพบกประจำการอยู่ ทั้งนี้ กองทัพบกได้ตั้งงบประมาณผูกพัน ปี 53-54 ในวงเงินที่ซื้อรุ่นแอลได้ 3 เครื่อง แต่เมื่อสภาคองเกรสสหรัฐฯอนุมัตขายให้เฉพาะรุ่นเอ็ม เพราะไม่ผลิตรุ่นแอลแล้ว แต่ราคาสูงขึ้นสองเท่า ทำคณะกรรมการจัดหายุทโธปกรณ์ได้หารือกัน และ สรุปว่าซื้อได้แค่ 2 ลำ ซึ่งรวมถึงแผนการฝึกนักบิน การซ่อมบำรุงชิ้นส่วนซ่อมตามห้วงระยะเวลา รวมทั้งอุปกรณ์ในการฝึกอบรมนักบิน หรือ ซิมูเลเตอร์ ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกส่วนหนึ่งก็เสนอไป โดยคณะรัฐมนตรีแจ้งกลับมาว่าเวลากะทันหันไป ดูรายละเอียดแล้วยังไม่พอเพียง เกรงว่าจะเกิดปัญหา และในสัปดาห์จะนำเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
คณะรัฐมนตรี ยังให้ข้อสังเกตว่า ขอเวลาทบทวนว่าถ้าลดลงจำนวนเครื่องที่ซื้อลงแล้ว ในอนาคตจะทำอย่างไร และต้องทำโครงการต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งทางรัฐบาลได้แจ้งมาให้ตนทราบแล้ว ก็ขอเวลาทำความเข้าใจกับทางสำนักงบประมาณ สัปดาห์หน้าคงเข้าครม. คงไม่ใช่ปัญหา และ ไม่ใช่ข้อขัดแย้ง ซึ่งคาดหวังว่าจะผ่านความเห็นชอบ แต่ถ้าไม่ผ่านก็ไม่เห็นเป็นไร เราก็ไม่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์
“ ฮ.รุ่นใหม่ ซึ่งผมอยากให้มีเรด้าร์ตรวจอากาศ เพราะที่ผ่านมาเราซื้อถูกเราไม่มีเรด้าร์ แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็คิดว่าต่อไปนี้ ก็ควรจะซื้อให้สมบูรณ์ แต่ราคาก็จะแพงอย่างเช่นกรณีนี้ ซึ่งเราก็พยายามเซฟแต่ก็ไม่ได้แล้ว เพราะทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปหมด และที่ซื้อสองลำจะได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะทางสหรัฐฯ เขาต้องการจะเปลี่ยนรุ่น แอล เป็นรุ่นเอ็ม ทั้งประเทศ ซึ่งเขาต้องผลิตในประเทศเขาประมาณ 500 เครื่อง ซึ่งเราก็ต้องซื้อต่อจากเขา ก็ต้องรอว่าเขาผลิตของเขาเสร็จหรือยัง จะได้ปีไหนก็ไม่ทราบ แต่เราก็อยากให้ได้ ฮ.มาทดแทนเร็วที่สุด อยากได้หลายประเทศ ทั้งฮ.ลำเลียง ขนส่ง เอนกประสงค์ ก็ต้องใช้ตามภารกิจที่มีอยู่ “
ส่วนที่มีการข้อสังเกตว่า ครม.อนุมัติยากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกน้อยใจ ทหารไม่มีใจน้อย แต่นักข่าวขี้น้อยใจมากกว่า ทหารไม่ใช่คนขี้น้อยใจ ทหารต้องหนักแน่นและทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้มากที่สุด และบ้านเมืองต้องไปได้ และทหารต้องเป็นหลักอย่ากังวล.
คณะรัฐมนตรี ยังให้ข้อสังเกตว่า ขอเวลาทบทวนว่าถ้าลดลงจำนวนเครื่องที่ซื้อลงแล้ว ในอนาคตจะทำอย่างไร และต้องทำโครงการต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งทางรัฐบาลได้แจ้งมาให้ตนทราบแล้ว ก็ขอเวลาทำความเข้าใจกับทางสำนักงบประมาณ สัปดาห์หน้าคงเข้าครม. คงไม่ใช่ปัญหา และ ไม่ใช่ข้อขัดแย้ง ซึ่งคาดหวังว่าจะผ่านความเห็นชอบ แต่ถ้าไม่ผ่านก็ไม่เห็นเป็นไร เราก็ไม่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์
“ ฮ.รุ่นใหม่ ซึ่งผมอยากให้มีเรด้าร์ตรวจอากาศ เพราะที่ผ่านมาเราซื้อถูกเราไม่มีเรด้าร์ แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็คิดว่าต่อไปนี้ ก็ควรจะซื้อให้สมบูรณ์ แต่ราคาก็จะแพงอย่างเช่นกรณีนี้ ซึ่งเราก็พยายามเซฟแต่ก็ไม่ได้แล้ว เพราะทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปหมด และที่ซื้อสองลำจะได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะทางสหรัฐฯ เขาต้องการจะเปลี่ยนรุ่น แอล เป็นรุ่นเอ็ม ทั้งประเทศ ซึ่งเขาต้องผลิตในประเทศเขาประมาณ 500 เครื่อง ซึ่งเราก็ต้องซื้อต่อจากเขา ก็ต้องรอว่าเขาผลิตของเขาเสร็จหรือยัง จะได้ปีไหนก็ไม่ทราบ แต่เราก็อยากให้ได้ ฮ.มาทดแทนเร็วที่สุด อยากได้หลายประเทศ ทั้งฮ.ลำเลียง ขนส่ง เอนกประสงค์ ก็ต้องใช้ตามภารกิจที่มีอยู่ “
ส่วนที่มีการข้อสังเกตว่า ครม.อนุมัติยากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกน้อยใจ ทหารไม่มีใจน้อย แต่นักข่าวขี้น้อยใจมากกว่า ทหารไม่ใช่คนขี้น้อยใจ ทหารต้องหนักแน่นและทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้มากที่สุด และบ้านเมืองต้องไปได้ และทหารต้องเป็นหลักอย่ากังวล.