หัวหินยังฮอตไม่เลิก กลุ่มทุนใหม่ทุ่มงบประมาณกว่า 1,200 ล้านบาท จับช่องว่างตลาด ผุดไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ สไตล์เวนิส หวังให้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งรวมกันให้ใหญ่สุดในหัวหิน รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ที่เดินทางมาหัวหินปีละกว่า 2.5 ล้านคน
นางสุทัศษา เหล่าหงษ์เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟชั่นวิลเลจ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มเม็ดเงินกว่า 1,200 ล้านบาท เนรมิตโครงการ เดอะ เวเนเซีย ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ สไตล์เวนิส บนพื้นที่ 46 ไร่ เพื่อหวังให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในหัวหิน ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ประมาณกิโลเมตรที่ 222 ตรงข้ามโรงแรมดุสิตธานี สำหรับรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในหัวหินปีละไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านคน แม้หัวหินจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีแหล่งท่องเที่ยวสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ก็ยังไม่มี พลาซ่า หรือ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการอันหลากหลายของนักท่องเที่ยว และคนในท้องถิ่นได้
“ บริษัทมองเห็นศักยภาพของ หัวหิน มานานแล้ว จึงได้ซื้อที่ดินจำนวนกว่า 80 ไร่ ไว้รองรับการทำโครงการของบริษัท โดยในโครงการเฟสแรก 46 ไร่นี้ เราได้อาศัยช่องว่างของตลาด ที่ในย่านนี้ยังไม่มีห้างหรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ไว้รองรับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงคนในพื้นที่ การเกิดขึ้นของ เดอะ เวเนเซีย ซึ่งเป็นศูนย์รวมของการ ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว พักผ่อน อาหารการกิน และความบันเทิงต่างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว จะทำให้ หัวหิน มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยโครงการ เดอะ เวเนเซีย แหล่งท่องเที่ยว – ช้อปปิ้งมอลล์ แห่งใหม่ สไตล์เวนิสนี้ ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณการลงทุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งได้ทำพิธีลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้วเมื่อเร็วๆนี้ โดยขณะนี้ตัวโครงการ อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการประมาณปลายปีหน้า ” นางสุทัศษา กล่าว
ทั้งนี้ ภายในโครงการจะประกอบไปด้วย พื้นที่ค้าปลีก สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า สินค้าท้องถิ่น ร้านอาหาร ภัตตาคาร Mini Zoo Playland สวนดอกไม้ รถไฟเล็กวิ่งรอบโครงการ รถม้าสไตล์อิตาลี พร้อมเรือกอนโดล่าสำหรับล่องใน Grand Canal เสมือนได้ไปเยือนเวนิสด้วยตนเอง พร้อมพื้นที่ส่วนกลางสำหรับจัดกิจกรรมกลางแจ้งในเทศกาลต่างๆถึง 4,000 ตารางเมตร พื้นที่สำหรับจอดรถกว่า 2,000 คัน ด้านความคืบหน้าของโครงการปัจจุบันมีผู้สนใจจองพื้นที่แล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถปิดยอดขายได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
นางสุทัศษา เหล่าหงษ์เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟชั่นวิลเลจ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มเม็ดเงินกว่า 1,200 ล้านบาท เนรมิตโครงการ เดอะ เวเนเซีย ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ สไตล์เวนิส บนพื้นที่ 46 ไร่ เพื่อหวังให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในหัวหิน ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ประมาณกิโลเมตรที่ 222 ตรงข้ามโรงแรมดุสิตธานี สำหรับรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในหัวหินปีละไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านคน แม้หัวหินจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีแหล่งท่องเที่ยวสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ก็ยังไม่มี พลาซ่า หรือ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการอันหลากหลายของนักท่องเที่ยว และคนในท้องถิ่นได้
“ บริษัทมองเห็นศักยภาพของ หัวหิน มานานแล้ว จึงได้ซื้อที่ดินจำนวนกว่า 80 ไร่ ไว้รองรับการทำโครงการของบริษัท โดยในโครงการเฟสแรก 46 ไร่นี้ เราได้อาศัยช่องว่างของตลาด ที่ในย่านนี้ยังไม่มีห้างหรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ไว้รองรับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงคนในพื้นที่ การเกิดขึ้นของ เดอะ เวเนเซีย ซึ่งเป็นศูนย์รวมของการ ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว พักผ่อน อาหารการกิน และความบันเทิงต่างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว จะทำให้ หัวหิน มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยโครงการ เดอะ เวเนเซีย แหล่งท่องเที่ยว – ช้อปปิ้งมอลล์ แห่งใหม่ สไตล์เวนิสนี้ ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณการลงทุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งได้ทำพิธีลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้วเมื่อเร็วๆนี้ โดยขณะนี้ตัวโครงการ อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการประมาณปลายปีหน้า ” นางสุทัศษา กล่าว
ทั้งนี้ ภายในโครงการจะประกอบไปด้วย พื้นที่ค้าปลีก สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า สินค้าท้องถิ่น ร้านอาหาร ภัตตาคาร Mini Zoo Playland สวนดอกไม้ รถไฟเล็กวิ่งรอบโครงการ รถม้าสไตล์อิตาลี พร้อมเรือกอนโดล่าสำหรับล่องใน Grand Canal เสมือนได้ไปเยือนเวนิสด้วยตนเอง พร้อมพื้นที่ส่วนกลางสำหรับจัดกิจกรรมกลางแจ้งในเทศกาลต่างๆถึง 4,000 ตารางเมตร พื้นที่สำหรับจอดรถกว่า 2,000 คัน ด้านความคืบหน้าของโครงการปัจจุบันมีผู้สนใจจองพื้นที่แล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถปิดยอดขายได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
