นายสุเทพ พีตกานนท์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)หรือ CNS เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานนักลงทุนเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายแตะ5 หมื่นบัญชีภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 3.7 หมื่นบัญชี โดยการเปิดสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้น และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะเปิดสาขาในต่างจังหวัดอีก 6 แห่ง หลังจากเปิดไปแล้ว 8 แห่ง และปี 55 จะเปิดสาขาอย่างน้อยอีก 5 สาขา พร้อมกับขยายฐานนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% จากปัจจุบันที่มี 8% ด้วยการรเน้นพัฒนาบทวิเคราะห์ ประกอบกับที่นักวิเคราะห์ของบริษัทได้รับรางวัลต่าง ๆ เชื่อว่าจะได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น และเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็น 20% เช่นกันจากปัจจุบันที่มี 11%
สำหรับ ส่วนแบ่งการตลาด ( มาร์เกตแชร์ ) ปีหน้าบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ 3% จาก 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีมาร์เกตแชร์เฉลี่ยอยู่ที่ 2.75% จากการขยายสาขาในต่างจังหวัดและการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ต ให้มีความรวดเร็วและมีข้อมูลให้กับนักลงทุนดูข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนผ่านอินเตอร์เน็ตมีสัดส่วนถึง 40%ของมูลค่าการซื้อขายรวมของบริษัท พร้อมกับการจัดโปรโมชั่นต่างๆ
โดยบริษัทมีแผนที่จะปล่อยมาร์จิ้นปี 55 ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการปล่อยมาร์จิ้นโลนไปแล้ว 3 พันล้านบาท ถือว่าเต็มวงเงินทุนของบริษัทแล้ว ทำให้บริษัทจะต้องกู้เงินในการปล่อยมาร์จิ้นได้อีก 500-600 ล้านบาท โดยถือว่าการปล่อยมาร์จิ้นโลนสร้างรายได้ที่ดีกับบริษัทและที่ผ่านมาไม่มีหนี้เสียจากการปล่อยมาร์จิ้นโลน เพราะการจัดระบบการดูแลและบริหารความเสี่ยงที่ดี
" บริษัทเตรียมรับมือกับการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ในปี 55 โดยการปรับกลยุทธ์ในเรื่องการขยายฐานลูกค้าในการเปิดสาขาในต่างจังหวัด การพัฒนาบทวิเคราะห์ พัฒนาระบบระบบอินเตอร์เน็ต และให้นักลงทุนไปลงทุนต่างประเทศจากมองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าการลงทุนต่างประเทศจะมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าของบริษัทสามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ 17 ประเทศ และปีหน้าก็จะเปิดให้ซื้อขายที่เวียดนาม " นายสุเทพ กล่าว
สำหรับ ส่วนแบ่งการตลาด ( มาร์เกตแชร์ ) ปีหน้าบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ 3% จาก 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีมาร์เกตแชร์เฉลี่ยอยู่ที่ 2.75% จากการขยายสาขาในต่างจังหวัดและการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ต ให้มีความรวดเร็วและมีข้อมูลให้กับนักลงทุนดูข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนผ่านอินเตอร์เน็ตมีสัดส่วนถึง 40%ของมูลค่าการซื้อขายรวมของบริษัท พร้อมกับการจัดโปรโมชั่นต่างๆ
โดยบริษัทมีแผนที่จะปล่อยมาร์จิ้นปี 55 ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการปล่อยมาร์จิ้นโลนไปแล้ว 3 พันล้านบาท ถือว่าเต็มวงเงินทุนของบริษัทแล้ว ทำให้บริษัทจะต้องกู้เงินในการปล่อยมาร์จิ้นได้อีก 500-600 ล้านบาท โดยถือว่าการปล่อยมาร์จิ้นโลนสร้างรายได้ที่ดีกับบริษัทและที่ผ่านมาไม่มีหนี้เสียจากการปล่อยมาร์จิ้นโลน เพราะการจัดระบบการดูแลและบริหารความเสี่ยงที่ดี
" บริษัทเตรียมรับมือกับการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ในปี 55 โดยการปรับกลยุทธ์ในเรื่องการขยายฐานลูกค้าในการเปิดสาขาในต่างจังหวัด การพัฒนาบทวิเคราะห์ พัฒนาระบบระบบอินเตอร์เน็ต และให้นักลงทุนไปลงทุนต่างประเทศจากมองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าการลงทุนต่างประเทศจะมีความสำคัญมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าของบริษัทสามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ 17 ประเทศ และปีหน้าก็จะเปิดให้ซื้อขายที่เวียดนาม " นายสุเทพ กล่าว