ที่พรรคเพื่อไทย วานนี้ (6ก.ย)สมาชิกสมาคมสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ประกอบด้วย ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รองประธานสภาอบต. สมาชิกสภาอบต. และเลขานุการสภา อบต.จากทั่วประเทศ จังหวัดละ 2 คน ประมาณ 200 คน นำโดยนายจุฬา มีบุญรอด นายกสมาคมสมาชิกสภา อบต.แห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ผ่านทางนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย มีนายสรรพภัญญู ศิริไปล์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับเรื่อง
โดยหนังสือดังกล่าวเนื้อหาระบุ 3 ข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย 1.สืบเนื่องจากกรณีที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ให้ปรับเพิ่มเงินเดือนของผู้บริหาร ประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภา เลขานุการนายกและสมาชิกสภา อบต. โดยมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 1 เมษายน 2554 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น ขอให้รัฐบาลดำเนินการปรับขึ้นค่าตอบแทนตามมติ ครม.ดังกล่าวเป็นกรณีเร่งด่วน 2.ขอให้รัฐบาลดำเนินการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการของสมาชิกสภาท้องถิ่น และ 3.พิจารณาปรับปรุง ทบทวนค่าตอบแทนขององค์การบริหารส่วนตำบลที่ไม่เป็นธรรมระหว่างคณะผู้บริหารกับประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภา และเลขานุการนายก
นายจุฬา กล่าวว่า ตนเดินทางมาพรรคเพื่อไทยเพราะทราบว่า มีการประชุมส.ส.พรรค พวกเราสมาชิกสภาอบต. จากทั่วประเทศ จึงต้องการทวงถามเรื่องค่าตอบแทนที่รัฐบาลชุดก่อนมีมติครม.ว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฎว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเนื่องจากยังไม่มีการประกาศเป็นกฎกระทรวง จึงมาเพื่อจะทวงถามสิทธิที่พวกเราควรได้เท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้มาเพื่อกดดันหรือเรียกร้องอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้ตามที่ทวงถามทางอบต.จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป นายจุฬากล่าวว่า เป็นสิ่งที่พวกเราจะต้องมีการหารือกันต่อไป แต่ที่มาวันนี้ 200 กว่าคนนั้นถือว่าไม่ได้มาเพื่อกดดัน เพราะสมาชิกของเราทั่วประเทศมีประมาณ 130,000 คน ซึ่งหากรวมพลกันจริง ๆ จะได้ประมาณ 60,000 คน ยืนยันว่าตรงนี้พวกเราทำได้สบาย ๆ เมื่อถามว่า หากไม่ได้ตามที่เรียกร้องอาจจะมีการรวมตัวกันของอบต.ร่วม 6 หมื่นคนใช่หรือไม่ นายจุฬากล่าวว่า ใช่ครับ
นายจำลอง มหิงสาเดช กรรมการบริหารสมาคมสมาชิกอบต.แห่งประเทศไทย และประธานสภาอบต.จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ที่พวกตนต้องการมาพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้นั้น ก็เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการขึ้นค่าตอบแทนผู้บริหารสภาอบต. เนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาโดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น ได้ทำให้ขั้นของเงินเดือนระหว่างนายกอบต.กับนายกสภาอบต.มีความแตกต่างกัน โดยขึ้นเงินเดือนให้กับนายกและรองนายกอบต. 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ขึ้นให้กับนายกและรองนายกสภาอบต.เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้ระดับเงินเดือนที่เคยมีความใกล้เคียงกันนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งนี้ ขณะนี้นายกอบต.ได้เงินเดือน 2 หมื่นกว่าบาท รองนายกอบต.ได้เงินเดือน 1.2 หมื่นบาท แต่ประธานสภาอบต.ได้เงินเดือนเพียงแค่ 9 พันกว่าบาท นอกจากนี้ยังมีการบีบให้อำนาจของสภาอบต.นั้นลดลงอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเข้ายื่นหนังสือของสมาคมสมาชิกสภา อบต.ครั้งนี้ไม่ได้แจ้งให้พรรคเพื่อไทยรับทราบล่วงหน้ามาก่อน ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ของพรรคต่างตื่นตกใจเพราะเข้าใจว่าเป็นม็อบที่เดินทางมาบุกพรรค อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นหนังสือต่อนายพร้อมพงศ์แล้วทั้งหมดได้เดินทางไปพบนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
โดยหนังสือดังกล่าวเนื้อหาระบุ 3 ข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย 1.สืบเนื่องจากกรณีที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ให้ปรับเพิ่มเงินเดือนของผู้บริหาร ประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภา เลขานุการนายกและสมาชิกสภา อบต. โดยมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 1 เมษายน 2554 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น ขอให้รัฐบาลดำเนินการปรับขึ้นค่าตอบแทนตามมติ ครม.ดังกล่าวเป็นกรณีเร่งด่วน 2.ขอให้รัฐบาลดำเนินการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการของสมาชิกสภาท้องถิ่น และ 3.พิจารณาปรับปรุง ทบทวนค่าตอบแทนขององค์การบริหารส่วนตำบลที่ไม่เป็นธรรมระหว่างคณะผู้บริหารกับประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภา และเลขานุการนายก
นายจุฬา กล่าวว่า ตนเดินทางมาพรรคเพื่อไทยเพราะทราบว่า มีการประชุมส.ส.พรรค พวกเราสมาชิกสภาอบต. จากทั่วประเทศ จึงต้องการทวงถามเรื่องค่าตอบแทนที่รัฐบาลชุดก่อนมีมติครม.ว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฎว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเนื่องจากยังไม่มีการประกาศเป็นกฎกระทรวง จึงมาเพื่อจะทวงถามสิทธิที่พวกเราควรได้เท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้มาเพื่อกดดันหรือเรียกร้องอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้ตามที่ทวงถามทางอบต.จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป นายจุฬากล่าวว่า เป็นสิ่งที่พวกเราจะต้องมีการหารือกันต่อไป แต่ที่มาวันนี้ 200 กว่าคนนั้นถือว่าไม่ได้มาเพื่อกดดัน เพราะสมาชิกของเราทั่วประเทศมีประมาณ 130,000 คน ซึ่งหากรวมพลกันจริง ๆ จะได้ประมาณ 60,000 คน ยืนยันว่าตรงนี้พวกเราทำได้สบาย ๆ เมื่อถามว่า หากไม่ได้ตามที่เรียกร้องอาจจะมีการรวมตัวกันของอบต.ร่วม 6 หมื่นคนใช่หรือไม่ นายจุฬากล่าวว่า ใช่ครับ
นายจำลอง มหิงสาเดช กรรมการบริหารสมาคมสมาชิกอบต.แห่งประเทศไทย และประธานสภาอบต.จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ที่พวกตนต้องการมาพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้นั้น ก็เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการขึ้นค่าตอบแทนผู้บริหารสภาอบต. เนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาโดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น ได้ทำให้ขั้นของเงินเดือนระหว่างนายกอบต.กับนายกสภาอบต.มีความแตกต่างกัน โดยขึ้นเงินเดือนให้กับนายกและรองนายกอบต. 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ขึ้นให้กับนายกและรองนายกสภาอบต.เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้ระดับเงินเดือนที่เคยมีความใกล้เคียงกันนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งนี้ ขณะนี้นายกอบต.ได้เงินเดือน 2 หมื่นกว่าบาท รองนายกอบต.ได้เงินเดือน 1.2 หมื่นบาท แต่ประธานสภาอบต.ได้เงินเดือนเพียงแค่ 9 พันกว่าบาท นอกจากนี้ยังมีการบีบให้อำนาจของสภาอบต.นั้นลดลงอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเข้ายื่นหนังสือของสมาคมสมาชิกสภา อบต.ครั้งนี้ไม่ได้แจ้งให้พรรคเพื่อไทยรับทราบล่วงหน้ามาก่อน ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ของพรรคต่างตื่นตกใจเพราะเข้าใจว่าเป็นม็อบที่เดินทางมาบุกพรรค อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นหนังสือต่อนายพร้อมพงศ์แล้วทั้งหมดได้เดินทางไปพบนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
