เดลิเมล์ – แนะพ่อแม่อย่ามัวบ่นลูกเล่นเกมมากเกินไป แต่ควรถือโอกาสนี้มีส่วนร่วมกับลูก เพราะนอกจากจะเพิ่มความใกล้ชิดสนิทสนมแล้ว ยังได้ประโยชน์อีกมากมายด้วยกันทั้งสองฝ่าย
การศึกษาฉบับใหม่พบว่าพ่อแม่ 1 ใน 3 เล่นเกมคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกมกับลูกทุกวัน โดยที่ 80% บอกว่าเป็นการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ และอีก 1 ใน 3 บอกว่าช่วยให้สนิทสนมกับลูกยิ่งขึ้น
งานวิจัยยังบอกอีกว่า การเล่นเกมด้วยกันทำให้คนต่างรุ่นเข้าใจในเทคโนโลยีมากขึ้น
พ่อแม่ 1 ใน 5 บอกว่าลูกรอบรู้เทคโนโลยีมากขึ้นจากการเล่นเกม ขณะที่ปู่ย่าตายายหลายคนได้เรียนรู้วิธีเล่นเกมเพื่อใกล้ชิดกับหลานๆ
และแม้มีความกังวลว่าเกมคอมพิวเตอร์ทำให้เด็กๆ ไม่ยอมออกไปเล่นนอกบ้าน แต่พ่อแม่ 3 ใน 4 บอกว่าลูกยังออกกำลังกายเป็นประจำและแข็งแรงดี และอีก 1 ใน 3 บอกว่าการเล่นเกมช่วยฝึกทักษะการใช้สมาธิสำหรับเด็ก
งานวิจัยนี้เน้นที่เกมที่มีกฎกติกาง่ายๆ และไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษมากนัก และเป็นเกมที่ได้รับความนิยมหลังจากสามารถเล่นได้แพร่หลายบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เช่น เกมแองกรี้เบิร์ดส์ เป็นต้น
เกมเหล่านี้ส่งผลให้เด็กอายุแค่ 2 ขวบสามารถเรียนรู้เทคโนโลยี โดยผู้เข้าร่วมการศึกษา 27% บอกว่าลูกยืมสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปเล่นเกมทุกวัน
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยคราวนี้ ประกอบด้วยพ่อแม่และปู่ย่าตายายราว 3,250 คน และดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยโกลด์สมิธส์ ร่วมกับป็อปแคป ผู้ผลิตเกม อาทิ บีจิวเวลล์ที่ได้รับความนิยมบนสมาร์ทโฟน
ดร.โทมัส ชามอร์โร-พรีมิวสิก กล่าวว่าการค้นพบนี้มีความสำคัญเนื่องจากเน้นย้ำประโยชน์ด้านสังคมจากการเล่นวิดีโอเกมทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
การศึกษาฉบับใหม่พบว่าพ่อแม่ 1 ใน 3 เล่นเกมคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกมกับลูกทุกวัน โดยที่ 80% บอกว่าเป็นการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ และอีก 1 ใน 3 บอกว่าช่วยให้สนิทสนมกับลูกยิ่งขึ้น
งานวิจัยยังบอกอีกว่า การเล่นเกมด้วยกันทำให้คนต่างรุ่นเข้าใจในเทคโนโลยีมากขึ้น
พ่อแม่ 1 ใน 5 บอกว่าลูกรอบรู้เทคโนโลยีมากขึ้นจากการเล่นเกม ขณะที่ปู่ย่าตายายหลายคนได้เรียนรู้วิธีเล่นเกมเพื่อใกล้ชิดกับหลานๆ
และแม้มีความกังวลว่าเกมคอมพิวเตอร์ทำให้เด็กๆ ไม่ยอมออกไปเล่นนอกบ้าน แต่พ่อแม่ 3 ใน 4 บอกว่าลูกยังออกกำลังกายเป็นประจำและแข็งแรงดี และอีก 1 ใน 3 บอกว่าการเล่นเกมช่วยฝึกทักษะการใช้สมาธิสำหรับเด็ก
งานวิจัยนี้เน้นที่เกมที่มีกฎกติกาง่ายๆ และไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษมากนัก และเป็นเกมที่ได้รับความนิยมหลังจากสามารถเล่นได้แพร่หลายบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เช่น เกมแองกรี้เบิร์ดส์ เป็นต้น
เกมเหล่านี้ส่งผลให้เด็กอายุแค่ 2 ขวบสามารถเรียนรู้เทคโนโลยี โดยผู้เข้าร่วมการศึกษา 27% บอกว่าลูกยืมสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปเล่นเกมทุกวัน
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยคราวนี้ ประกอบด้วยพ่อแม่และปู่ย่าตายายราว 3,250 คน และดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยโกลด์สมิธส์ ร่วมกับป็อปแคป ผู้ผลิตเกม อาทิ บีจิวเวลล์ที่ได้รับความนิยมบนสมาร์ทโฟน
ดร.โทมัส ชามอร์โร-พรีมิวสิก กล่าวว่าการค้นพบนี้มีความสำคัญเนื่องจากเน้นย้ำประโยชน์ด้านสังคมจากการเล่นวิดีโอเกมทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
