ASTVผู้จัดการรายวัน – “เอ็มอีไอ” ทุ่ม 30 ล้านบาท คว้า “นิตยสารโลนลี แพลนเน็ต” ลุยแผงหนังสือในไทย หวังปีหน้าขึ้นแท่นท็อป3 คุ้มทุนใน 3 ปี มองช่องทางดิจิตอลมีเดีย 5 ปีมาแรง พร้อมปูทางรับตลาด ผุดแอพพลิเคชั่นลงไอโฟน-ไอแพด
นางสาวฐิติกร ธีรพัฒนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MEI เปิดเผยว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้เปิดนิตยสารหัวใหม่ แต่จะเน้นดูแลและพัฒนานิตยสารที่อยู่เดิมทั้ง 7 เล่ม คือ Prestige, Harper’s BAZAAR, HAIR, Living etc, Wallpaper*, Top Gear และSWING Golf แต่ทั้งนี้ก็มองหาโอกาสและทิศทางตลาดในการจะเพิ่มนิตยสารหัวใหม่มาโดยตลอด
ล่าสุดปีนี้ได้ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายของ นิตยสารโลนลี แพลนเน็ต (Lonely Planet Magazine) เริ่มวางแผงฉบับปฐมฤกษ์ในเดือนกันยายนนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่กว่า 70% จะเป็นเนื้อหาเดิม และอีก 30% เป็นเนื้อหาที่ปรับขึ้นใหม่เพื่อกลุ่มเป้าหมายคนไทยโดยเฉพาะ โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนรุ่นใหม่อายุ2 2-45 ปีขึ้นไป ขณะที่ไทยเป็นประเทศที่ 11 ของโลกที่ได้สิทธิ์ครั้งนี้ ขณะที่ในเอเชียถือเป็นประเทศที่ 6-7 ที่นำเข้ามา
ตลาดนิตยสารในกลุ่มท่องเที่ยวนั้น ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 15 หัวบนแผงหนังสือ และมีเพียง 5 หัวเท่านั้นที่ติดตลาดและเป็นที่รู้จัก ส่วนใหญ่นิตยสารกลุ่มนี้จะเป็นของคนไทยผลิตขึ้นเองทั้งหมด ยังไม่มีนิตยสารหัวนอกเข้ามาทำตลาด บวกกับตัวเลขของการท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่อง 6%ในปีนี้ และกว่า 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยว จะเดินทางมาด้วยตนเอง ดังนั้นจึงมองเป็นโอกาสในการเข้ามารุกตลาดนิตยสารท่องเที่ยวครั้งนี้ คาดว่าภายใน1ปีจะสามารถก้าวขึ้นเป็นท็อป3ของกลุ่มนิตยสารท่องเที่ยวได้ ทั้งในแง่รายได้และจำนวนผู้อ่าน ซึ่งแต่ละเดือนตั้งเป้ายอดพิมพ์ไว้ที่ 1 แสนเล่มต่อเดือน รายได้หลังจะมาจากโฆษณาเป็นหลัก โดยเฉพาะการทำโปรเจกต์ร่วมกับลูกค้า
และสื่อออนไลน์ดิจิตอลอีกส่วนหนึ่งด้วย
นางสาวฐิติกร กล่าวต่อว่า สำหรับช่องทางดิจิตอลนั้น มองว่าใน5ปี น่าจะเห็นความชัดเจนและการใช้งานจริง ขณะที่ปัจจุบันช่องทางดิจิตอลยังเป็นเพียงกระแสเท่านั้น ส่วนการใช้งานจริงยังต้องรอสักระยะ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มที่ใช้งานจริงยังเป็นกลุ่มคนเมืองเป็นหลัก ในส่วนของเอ็มอีไอเองนั้น ได้จัดงบประมาณในการพัฒนาช่องทางดิจิตอลแล้วเช่นกัน เช่น
การพัฒนาแอพพลิเคชั่นลงบนมือถือไอโฟนและไอแพด เปิดตัวมาได้กว่าครึ่งปีแล้ว กับนิตยสาร 4-5 เล่มในเครือ เช่น Prestige, Harper’s BAZAAR และ HAIR ทั้งนี้มองว่าในปีหน้าจะเริ่มเห็นรายได้กลับมาบ้าง ขณะที่รายได้รวมในปีนี้มองว่าจะยังเติบโตขึ้นต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยนิตยสารที่สร้างรายได้หลักให้บริษัท คือ Prestige และHarper’s BAZAAR เป็นต้น
นางสาวฐิติกร ธีรพัฒนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MEI เปิดเผยว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้เปิดนิตยสารหัวใหม่ แต่จะเน้นดูแลและพัฒนานิตยสารที่อยู่เดิมทั้ง 7 เล่ม คือ Prestige, Harper’s BAZAAR, HAIR, Living etc, Wallpaper*, Top Gear และSWING Golf แต่ทั้งนี้ก็มองหาโอกาสและทิศทางตลาดในการจะเพิ่มนิตยสารหัวใหม่มาโดยตลอด
ล่าสุดปีนี้ได้ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายของ นิตยสารโลนลี แพลนเน็ต (Lonely Planet Magazine) เริ่มวางแผงฉบับปฐมฤกษ์ในเดือนกันยายนนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่กว่า 70% จะเป็นเนื้อหาเดิม และอีก 30% เป็นเนื้อหาที่ปรับขึ้นใหม่เพื่อกลุ่มเป้าหมายคนไทยโดยเฉพาะ โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนรุ่นใหม่อายุ2 2-45 ปีขึ้นไป ขณะที่ไทยเป็นประเทศที่ 11 ของโลกที่ได้สิทธิ์ครั้งนี้ ขณะที่ในเอเชียถือเป็นประเทศที่ 6-7 ที่นำเข้ามา
ตลาดนิตยสารในกลุ่มท่องเที่ยวนั้น ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 15 หัวบนแผงหนังสือ และมีเพียง 5 หัวเท่านั้นที่ติดตลาดและเป็นที่รู้จัก ส่วนใหญ่นิตยสารกลุ่มนี้จะเป็นของคนไทยผลิตขึ้นเองทั้งหมด ยังไม่มีนิตยสารหัวนอกเข้ามาทำตลาด บวกกับตัวเลขของการท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่อง 6%ในปีนี้ และกว่า 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยว จะเดินทางมาด้วยตนเอง ดังนั้นจึงมองเป็นโอกาสในการเข้ามารุกตลาดนิตยสารท่องเที่ยวครั้งนี้ คาดว่าภายใน1ปีจะสามารถก้าวขึ้นเป็นท็อป3ของกลุ่มนิตยสารท่องเที่ยวได้ ทั้งในแง่รายได้และจำนวนผู้อ่าน ซึ่งแต่ละเดือนตั้งเป้ายอดพิมพ์ไว้ที่ 1 แสนเล่มต่อเดือน รายได้หลังจะมาจากโฆษณาเป็นหลัก โดยเฉพาะการทำโปรเจกต์ร่วมกับลูกค้า
และสื่อออนไลน์ดิจิตอลอีกส่วนหนึ่งด้วย
นางสาวฐิติกร กล่าวต่อว่า สำหรับช่องทางดิจิตอลนั้น มองว่าใน5ปี น่าจะเห็นความชัดเจนและการใช้งานจริง ขณะที่ปัจจุบันช่องทางดิจิตอลยังเป็นเพียงกระแสเท่านั้น ส่วนการใช้งานจริงยังต้องรอสักระยะ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มที่ใช้งานจริงยังเป็นกลุ่มคนเมืองเป็นหลัก ในส่วนของเอ็มอีไอเองนั้น ได้จัดงบประมาณในการพัฒนาช่องทางดิจิตอลแล้วเช่นกัน เช่น
การพัฒนาแอพพลิเคชั่นลงบนมือถือไอโฟนและไอแพด เปิดตัวมาได้กว่าครึ่งปีแล้ว กับนิตยสาร 4-5 เล่มในเครือ เช่น Prestige, Harper’s BAZAAR และ HAIR ทั้งนี้มองว่าในปีหน้าจะเริ่มเห็นรายได้กลับมาบ้าง ขณะที่รายได้รวมในปีนี้มองว่าจะยังเติบโตขึ้นต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยนิตยสารที่สร้างรายได้หลักให้บริษัท คือ Prestige และHarper’s BAZAAR เป็นต้น
