ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยได้ตั้งกระทู้ถามสด เรื่องการคุกคามสื่อ พร้อมนำภาพมาประกอบการตั้งกระทู้ โดยนายศุภชัย กล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา ประชาชนมีความรู้สึกว่ามีการใช้อำนาจคุกคาม ล่วงละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่ร้ายแรงสุดคือ การคุกคามสื่อมวลชนสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 โดยมีการส่งต่ออีเมลข่มขู่ แต่รัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังเรื่องนี้ ขอถามนายกรัฐมนตรี ว่า 1. รัฐบาลจะเข้าไปคุ้มครองสื่อมวลชนอย่างไร 2. กรณีคนเสื้อแดงรุมทำร้ายนักศึกษาที่นำพวงหรีดไปวางหน้ารัฐสภา และกรณีการไล่ทุบรถนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ รัฐบาลจะมีวิธีการจัดการอย่างไร
** "เหลิม"ป้องแดงไม่สบอารมณ์สื่อ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ชี้แจงแทน กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีวันคุกคามสื่อเด็ดขาด เพราะไม่มีประโยชน์ เราชนะเลือกตั้งเพราะศรัทธาประชาชน ไม่ใช่เพราะศรัทธาสื่อ แต่สื่อต้องพึงระวัง ยึดหลักความถูกต้อง ไม่เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา มีผู้จัดรายการไม่ใช่สื่อ เป็นมือปืนรับจ้างโจมตีพวกเสื้อแดง
ส่วนนักขาวช่อง 7 มีหลายคนรู้สึกว่าการตั้งคำถามนายกฯ ผิดปกติจากนักข่าวผู้อื่นเหมือนถามแทนผู้นำฝ่ายค้านในสภา การที่นายกฯไม่ตอบเป็นความผิดหรือ ตร.เอาปืนจี้หรือว่าถามแล้วต้องตอบ
" ส่วนคำว่า "จำหน้าหล่อนไว้ เห็นทีไหนก็จัดให้หน่อยละกัน" เปิดพจนานุกรมดูแล้ว ไม่ใช่การข่มขู่ ซึ่งตำรวจได้เรียกตัวผู้ส่งอีเมล์มาพบแล้ว แต่ผมเคยเขียนสำนวนมา 11 ปี เห็นข้อความนี้แล้วไม่ลงบันทึกประจำวันให้แน่นนอน หรือถ้ามีการฟ้องร้องกัน ก็เป็นแค่ลหุโทษ ปรับได้ถ้าเจ้าทุกข์ยินยอม นี่ตำรวจก็นัดคุณพรทิพย์ ให้มาพบ 8 ก.ย. ฉะนั้นเลิกพูดเสียที ที่บอกรัฐบาลข่มขู่ บอกเลยว่าเป็นใคร จะได้เอามาเปิดเผยตัว มีการให้ข่าวทำนองกระซิบว่าหลังจากอีเมล มีโทรศัพท์มาข่มขู่ เอาหมายเลขมา ผมจะเช็กตรวจสอบให้ 2 ชั่วโมงก็รู้ว่า เป็นใคร จะเปิดหน้ากากคนที่ทำใจไม่ได้ แล้วสร้างเรื่องให้รัฐบาล ยืนยันเบื้องต้นว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย คนส่งต่ออีเมล ก็รับสารภาพแล้ว"
ร.ต.อ.เฉลิมว่า ขอยืนยันว่าชายสองคนที่มาวางหรีดประท้วงหน้ารัฐสภานั้นไม่ใช่นักศึกษา ขอให้เลิกอ้างเสียทีว่าเป็นนักศึกษา และช่วงที่โดนถีบไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า เป็นการถีบตอนตำรวจไม่เห็น จับไม่ได้ ส่วนรถที่นำนักศึกษา 2 คนมา มีโลโก้พรรคประชาธิปัตย์ และสมุดบันทึกของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์อยู่ ที่สำคัญคนที่ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ยอมไปร้องทุกข์กล่าวโทษ แล้วจะให้รัฐบาลทำอย่างไร คนเสื้อแดงรักบ้านเมืองไม่น้อยกว่าใคร แต่การมาเรียกร้องประชาธิปไตยแล้วได้รับหีบศพกลับไป ก็ต้องแสดงอารมณ์บ้าง เป็นธรรมดา ซึ่งได้สั่งให้ตำรวจดำเนินคดีโดยเคร่งครัด แม้เป็นคนเสื้อแดงก็ตาม
จากนั้น นายศุภชัย ได้ถามต่อว่าวันนี้ เสื้อแดงกับรัฐบาลเป็นหนึ่งเดียวกัน จะทำให้ประชาชนที่ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน รู้สึกปลอดภัยได้อย่างไร รัฐบาลจะทำให้แนวคิด แก้ไข ไม่แก้แค้น เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะรัฐบาลมีมาตรฐานเดียว คืออยู่ข้างเสื้อแดงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งเสื้อแดงบางคนที่ถูกคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมารับตำแหน่งทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงตรงนี้ ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะแกนนำ นปช. ต่างลุกขึ้มาใช้สิทธิ์ประท้วงอย่างหนัก ทั้ง นพ.เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ขอให้ถอนคำพูดหมิ่นประมาทเสื้อแดง จนเกิดการโต้เถียงไปมากับนายศุภชัย และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อยู่เป็นเวลานาน แม้ทางนายศุภชัย จะมี ส.ส.ฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นช่วยโต้ตอบเป็นระยะ ก่อนที่นายศุภชัย กล่าวยืนยันว่าไม่ถอนคำพูด เพราะไม่ได้พูดหมิ่นประมาท
ในที่สุดนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานในที่ประชุม เห็นว่าหากให้ประชุมต่อจะทำให้คุมเกมไม่อยู่ เพราะต่างฝ่ายต่างลุกขึ้นประท้วง และเสียดสีกันเป็นระยะๆ จึงสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที
ต่อมาการประชุมได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยประธานได้อ่านคำอภิปรายของนายศุภชัย และและวินิจฉัยว่า การอภิปรายดังกล่าวที่นายจตุพร อ้างว่าเป็นการพาดพิงนั้น เป็นการเข้าใจผิด ดังนั้นจึงไม่ต้องถอนคำพูด
**"เหลิม"ยืดอก รัฐบาล-แดง พวกเดียวกัน
จากนั้น นายศุภชัยได้ตั้งคำถามต่อว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปรัฐบาลจะมีแนวคิดหรือไปบอกผู้ใต้บังคับบัญชากับท่าทีที่ออกมาเคลื่อนไหวต่างๆควรจะยุติ และรัฐบาลจะเอาจริงเอาจังอย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายสร้างความปรองดอง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลกับเสื้อแดงเป็นพวกเดียวกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น
ส่วนการแต่งตั้งคนเสื้อแดงมาเป็นเลขานุการฯ และที่ปรึกษา เป็นสิทธิของพวกตนหากแต่งตั้งไปแล้วประชาชนไม่ชอบ การเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนก็ไม่เลือก แต่ถ้าประชาชนชอบ ก็จะได้ที่นั่งเพิ่มมากกว่า 265 เสียง
นอกจากนี้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้กำหนดห้ามคนที่ต้องคดีมารับตำแหน่งทางการเมือง จนกว่าคำพิพากษาจะถึงที่สุด ถึงเรียกว่าขาดคุณสมบัติ ดังนั้นกรณีของ นายเจ๋ง ดอกจิก เป็นการเข้าใจผิด เพราะว่าจำเลยปฏิเสธ ศาลจึงให้โอกาสในการไต่สวนใหม่ เหมือนกรณีที่ตนถูกไล่ที่ จ.กระบี่ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกับตน ยืนยันว่าตนไม่ใช่คนบ้าอำนาจ เมาอำนาจ ส่วนเรื่องการปรองดอง รัฐบาลจะทำให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด แต่ยอมรับว่าการดำเนินการไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้เวลา
** "วัชระ"ยันไม่เกี่ยว 2 นศ.
ต่อมานายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ตามที่ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวหาทั้งสิ้น เป็นการพูดเท็จ ซึ่งทำให้ตน และพรรคประชาธิปัตย์เสียหาย โดยได้นำรูปภาพเหตุการณ์หน้ารัฐสภาเป็นหลักฐาน ซึ่งรถของตนไม่สามารถเอาไปส่งใครได้ เพราะถูกคนเสื้อแดงปล่อยลมยางทั้งสี่ล้อ รวมทั้งคนเสื้อแดง ได้นำสติกเกอร์แก้ไข มาตรา112 มาติดทับตราพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ทั้งที่ ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันจะไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งได้ชูภาพที่เสื้อแดงทำการข่มขู่ ทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นภาพแขวนคอคนทั้งคู่ พร้อมกับกล่าวว่า แล้วจะปรองดองได้อย่างไร
นอกจากนี้ ยังได้นำภาพที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สวมใส่เสื้อแดงไปร่วมกิจกรรมกับเสื้อแดงโดยย้ำว่า ภาพนี้เป็นการยืนยันว่า คนในภาพเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับเสื้อแดง
ด้านนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ ได้ทำหน้าที่ประธาน โดยได้ตัดบทว่ากรณีดังกล่าวประธานสภาฯได้แต่งตั้งให้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และหาข้อเท็จจริงในกรณีต่อไป
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม ได้ลุกชี้แจงว่า เป็นรูปภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์ หาเสียง เป็นการไปพบคนเสื้อแดง ก็เป็นสิทธิ มันเสียหายตรงไหน เพราะเราทำจริง ไปหาเสียงจริง ก็ขอเรียนย้ำว่าขณะนี้ตำรวจพยายามติดตามผู้เสียหายไป ถึงจะไม่ใช่ เปาบุ้นจิ้น แต่เป็นคนตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตาม ขอยืนว่า ถ้าตนไปเกี่ยวข้องกับบ่อนเจ๊ตู้ เจ๊แต๋วจริง ขอให้ตำรวจไปจับได้เลย และถ้าตนไปเกี่ยวข้องจริง ก็ขอให้วิบัติ
หลังจากนั้น นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงอ้างจากกรณีดังกล่าวได้ที่มีคนเพชรบุรี ส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ ข่มขูสื่อมวลชนทำให้คนเพชรบุรีเสียหาย ทำให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยได้ประท้วงอ้างว่า นางพรทิพย์ ปักษานนท์ ได้โทรมาบอกตนว่า มีการกล่าวอ้างเป็นคนเสื้อแดง เป็นคนบริสุทธิ์ และเป็นคนเพชรบุรี ได้ขอความเป็นธรรมว่า ให้เลิกที่กล่าวพาดพิง อย่างไรก็ตามหลังจากปล่อยให้สมาชิกใช้สิทธิประท้วง และพาดพิงกันพอสมควร นายเจริญ ได้สั่งให้จบการตั้งกระทู้สด
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการประชุมสภา ร.ต.อ.เฉลิม ลุกขึ้นชี้แจงตอนหนึ่งหลังจากโดนนายวัชระ กล่าวพาดพิงถึงเรื่องบ่อนเจ๊ตู้ ที่อยู่ใกล้บ้าน ร.ต.อ.เฉลิม แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปจับว่า
" เรื่องบ่อนเจ๊ตู้ เจ๊แต๋ว เจ๊อะไรก็แล้วแต่ ถ้าตำรวจได้ยินขอให้เข้าไปจับด้วย ถ้าผมมีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรกับบ่อนเจ๊ตู้ เจ๊แต๋ว ขอให้วิบัติ อย่าพูดเอามันอย่างเดียว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
**สภาตั้งกก.สอบเสื้อแดงทำร้าย 2 นศ.
ด้านนายสมศักดิ์ เกรียติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่กลุ่มเสื้อแดงทำร่ายร่างการนักศึกษา 2 คน บริเวณหน้ารัฐสภาว่า ตนได้มอบหมายให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาคนที่ 2 ไปดูแลเรื่องนี้ แต่โดยส่วนตัวตนไม่เห็นด้วยที่จะตั้งคณะกรรมาการขึ้นมาตรวจสอบ เพราะน่าจะยุติได้แล้ว แต่ที่ประชุมอยากให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ตนก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้จะต้องมีการเรียกวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน มาหารือกัน เพื่อหาข้อยุติส่วนคณะกรรมการจะมาจากกลุ่มใดนั้นยังไม่ทราบ
เมื่อถามว่าต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มเสื้อแดงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องมีการพูดคุย และขอความร่วมมือไปยังทุกฝ่าย โดยที่ไม่ระบุว่าเป็นคนใดคนหนึ่ง ซึ่งในการชุมนุมถ้าเป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยก็สามารถทำได้ แต่ถ้านอกเหนือจากนั้น ก็จะต้องให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น
ส่วนที่มีการเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นผู้มาตอบกระทู้ด้วยตนเองนั้น ตามประเพณีปฏิบัติกันมา นายกฯมีสิทธิให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตอบกระทู้แทนได้
** "เหลิม"ป้องแดงไม่สบอารมณ์สื่อ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ชี้แจงแทน กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีวันคุกคามสื่อเด็ดขาด เพราะไม่มีประโยชน์ เราชนะเลือกตั้งเพราะศรัทธาประชาชน ไม่ใช่เพราะศรัทธาสื่อ แต่สื่อต้องพึงระวัง ยึดหลักความถูกต้อง ไม่เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา มีผู้จัดรายการไม่ใช่สื่อ เป็นมือปืนรับจ้างโจมตีพวกเสื้อแดง
ส่วนนักขาวช่อง 7 มีหลายคนรู้สึกว่าการตั้งคำถามนายกฯ ผิดปกติจากนักข่าวผู้อื่นเหมือนถามแทนผู้นำฝ่ายค้านในสภา การที่นายกฯไม่ตอบเป็นความผิดหรือ ตร.เอาปืนจี้หรือว่าถามแล้วต้องตอบ
" ส่วนคำว่า "จำหน้าหล่อนไว้ เห็นทีไหนก็จัดให้หน่อยละกัน" เปิดพจนานุกรมดูแล้ว ไม่ใช่การข่มขู่ ซึ่งตำรวจได้เรียกตัวผู้ส่งอีเมล์มาพบแล้ว แต่ผมเคยเขียนสำนวนมา 11 ปี เห็นข้อความนี้แล้วไม่ลงบันทึกประจำวันให้แน่นนอน หรือถ้ามีการฟ้องร้องกัน ก็เป็นแค่ลหุโทษ ปรับได้ถ้าเจ้าทุกข์ยินยอม นี่ตำรวจก็นัดคุณพรทิพย์ ให้มาพบ 8 ก.ย. ฉะนั้นเลิกพูดเสียที ที่บอกรัฐบาลข่มขู่ บอกเลยว่าเป็นใคร จะได้เอามาเปิดเผยตัว มีการให้ข่าวทำนองกระซิบว่าหลังจากอีเมล มีโทรศัพท์มาข่มขู่ เอาหมายเลขมา ผมจะเช็กตรวจสอบให้ 2 ชั่วโมงก็รู้ว่า เป็นใคร จะเปิดหน้ากากคนที่ทำใจไม่ได้ แล้วสร้างเรื่องให้รัฐบาล ยืนยันเบื้องต้นว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย คนส่งต่ออีเมล ก็รับสารภาพแล้ว"
ร.ต.อ.เฉลิมว่า ขอยืนยันว่าชายสองคนที่มาวางหรีดประท้วงหน้ารัฐสภานั้นไม่ใช่นักศึกษา ขอให้เลิกอ้างเสียทีว่าเป็นนักศึกษา และช่วงที่โดนถีบไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า เป็นการถีบตอนตำรวจไม่เห็น จับไม่ได้ ส่วนรถที่นำนักศึกษา 2 คนมา มีโลโก้พรรคประชาธิปัตย์ และสมุดบันทึกของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์อยู่ ที่สำคัญคนที่ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ยอมไปร้องทุกข์กล่าวโทษ แล้วจะให้รัฐบาลทำอย่างไร คนเสื้อแดงรักบ้านเมืองไม่น้อยกว่าใคร แต่การมาเรียกร้องประชาธิปไตยแล้วได้รับหีบศพกลับไป ก็ต้องแสดงอารมณ์บ้าง เป็นธรรมดา ซึ่งได้สั่งให้ตำรวจดำเนินคดีโดยเคร่งครัด แม้เป็นคนเสื้อแดงก็ตาม
จากนั้น นายศุภชัย ได้ถามต่อว่าวันนี้ เสื้อแดงกับรัฐบาลเป็นหนึ่งเดียวกัน จะทำให้ประชาชนที่ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน รู้สึกปลอดภัยได้อย่างไร รัฐบาลจะทำให้แนวคิด แก้ไข ไม่แก้แค้น เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะรัฐบาลมีมาตรฐานเดียว คืออยู่ข้างเสื้อแดงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งเสื้อแดงบางคนที่ถูกคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมารับตำแหน่งทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงตรงนี้ ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะแกนนำ นปช. ต่างลุกขึ้มาใช้สิทธิ์ประท้วงอย่างหนัก ทั้ง นพ.เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ขอให้ถอนคำพูดหมิ่นประมาทเสื้อแดง จนเกิดการโต้เถียงไปมากับนายศุภชัย และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อยู่เป็นเวลานาน แม้ทางนายศุภชัย จะมี ส.ส.ฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นช่วยโต้ตอบเป็นระยะ ก่อนที่นายศุภชัย กล่าวยืนยันว่าไม่ถอนคำพูด เพราะไม่ได้พูดหมิ่นประมาท
ในที่สุดนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานในที่ประชุม เห็นว่าหากให้ประชุมต่อจะทำให้คุมเกมไม่อยู่ เพราะต่างฝ่ายต่างลุกขึ้นประท้วง และเสียดสีกันเป็นระยะๆ จึงสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที
ต่อมาการประชุมได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยประธานได้อ่านคำอภิปรายของนายศุภชัย และและวินิจฉัยว่า การอภิปรายดังกล่าวที่นายจตุพร อ้างว่าเป็นการพาดพิงนั้น เป็นการเข้าใจผิด ดังนั้นจึงไม่ต้องถอนคำพูด
**"เหลิม"ยืดอก รัฐบาล-แดง พวกเดียวกัน
จากนั้น นายศุภชัยได้ตั้งคำถามต่อว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปรัฐบาลจะมีแนวคิดหรือไปบอกผู้ใต้บังคับบัญชากับท่าทีที่ออกมาเคลื่อนไหวต่างๆควรจะยุติ และรัฐบาลจะเอาจริงเอาจังอย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายสร้างความปรองดอง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลกับเสื้อแดงเป็นพวกเดียวกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น
ส่วนการแต่งตั้งคนเสื้อแดงมาเป็นเลขานุการฯ และที่ปรึกษา เป็นสิทธิของพวกตนหากแต่งตั้งไปแล้วประชาชนไม่ชอบ การเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนก็ไม่เลือก แต่ถ้าประชาชนชอบ ก็จะได้ที่นั่งเพิ่มมากกว่า 265 เสียง
นอกจากนี้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้กำหนดห้ามคนที่ต้องคดีมารับตำแหน่งทางการเมือง จนกว่าคำพิพากษาจะถึงที่สุด ถึงเรียกว่าขาดคุณสมบัติ ดังนั้นกรณีของ นายเจ๋ง ดอกจิก เป็นการเข้าใจผิด เพราะว่าจำเลยปฏิเสธ ศาลจึงให้โอกาสในการไต่สวนใหม่ เหมือนกรณีที่ตนถูกไล่ที่ จ.กระบี่ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกับตน ยืนยันว่าตนไม่ใช่คนบ้าอำนาจ เมาอำนาจ ส่วนเรื่องการปรองดอง รัฐบาลจะทำให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด แต่ยอมรับว่าการดำเนินการไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้เวลา
** "วัชระ"ยันไม่เกี่ยว 2 นศ.
ต่อมานายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ตามที่ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวหาทั้งสิ้น เป็นการพูดเท็จ ซึ่งทำให้ตน และพรรคประชาธิปัตย์เสียหาย โดยได้นำรูปภาพเหตุการณ์หน้ารัฐสภาเป็นหลักฐาน ซึ่งรถของตนไม่สามารถเอาไปส่งใครได้ เพราะถูกคนเสื้อแดงปล่อยลมยางทั้งสี่ล้อ รวมทั้งคนเสื้อแดง ได้นำสติกเกอร์แก้ไข มาตรา112 มาติดทับตราพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ทั้งที่ ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันจะไม่มีการแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งได้ชูภาพที่เสื้อแดงทำการข่มขู่ ทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นภาพแขวนคอคนทั้งคู่ พร้อมกับกล่าวว่า แล้วจะปรองดองได้อย่างไร
นอกจากนี้ ยังได้นำภาพที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สวมใส่เสื้อแดงไปร่วมกิจกรรมกับเสื้อแดงโดยย้ำว่า ภาพนี้เป็นการยืนยันว่า คนในภาพเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับเสื้อแดง
ด้านนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ ได้ทำหน้าที่ประธาน โดยได้ตัดบทว่ากรณีดังกล่าวประธานสภาฯได้แต่งตั้งให้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และหาข้อเท็จจริงในกรณีต่อไป
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม ได้ลุกชี้แจงว่า เป็นรูปภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์ หาเสียง เป็นการไปพบคนเสื้อแดง ก็เป็นสิทธิ มันเสียหายตรงไหน เพราะเราทำจริง ไปหาเสียงจริง ก็ขอเรียนย้ำว่าขณะนี้ตำรวจพยายามติดตามผู้เสียหายไป ถึงจะไม่ใช่ เปาบุ้นจิ้น แต่เป็นคนตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตาม ขอยืนว่า ถ้าตนไปเกี่ยวข้องกับบ่อนเจ๊ตู้ เจ๊แต๋วจริง ขอให้ตำรวจไปจับได้เลย และถ้าตนไปเกี่ยวข้องจริง ก็ขอให้วิบัติ
หลังจากนั้น นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงอ้างจากกรณีดังกล่าวได้ที่มีคนเพชรบุรี ส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ ข่มขูสื่อมวลชนทำให้คนเพชรบุรีเสียหาย ทำให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยได้ประท้วงอ้างว่า นางพรทิพย์ ปักษานนท์ ได้โทรมาบอกตนว่า มีการกล่าวอ้างเป็นคนเสื้อแดง เป็นคนบริสุทธิ์ และเป็นคนเพชรบุรี ได้ขอความเป็นธรรมว่า ให้เลิกที่กล่าวพาดพิง อย่างไรก็ตามหลังจากปล่อยให้สมาชิกใช้สิทธิประท้วง และพาดพิงกันพอสมควร นายเจริญ ได้สั่งให้จบการตั้งกระทู้สด
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการประชุมสภา ร.ต.อ.เฉลิม ลุกขึ้นชี้แจงตอนหนึ่งหลังจากโดนนายวัชระ กล่าวพาดพิงถึงเรื่องบ่อนเจ๊ตู้ ที่อยู่ใกล้บ้าน ร.ต.อ.เฉลิม แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปจับว่า
" เรื่องบ่อนเจ๊ตู้ เจ๊แต๋ว เจ๊อะไรก็แล้วแต่ ถ้าตำรวจได้ยินขอให้เข้าไปจับด้วย ถ้าผมมีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรกับบ่อนเจ๊ตู้ เจ๊แต๋ว ขอให้วิบัติ อย่าพูดเอามันอย่างเดียว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
**สภาตั้งกก.สอบเสื้อแดงทำร้าย 2 นศ.
ด้านนายสมศักดิ์ เกรียติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่กลุ่มเสื้อแดงทำร่ายร่างการนักศึกษา 2 คน บริเวณหน้ารัฐสภาว่า ตนได้มอบหมายให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาคนที่ 2 ไปดูแลเรื่องนี้ แต่โดยส่วนตัวตนไม่เห็นด้วยที่จะตั้งคณะกรรมาการขึ้นมาตรวจสอบ เพราะน่าจะยุติได้แล้ว แต่ที่ประชุมอยากให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ตนก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้จะต้องมีการเรียกวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน มาหารือกัน เพื่อหาข้อยุติส่วนคณะกรรมการจะมาจากกลุ่มใดนั้นยังไม่ทราบ
เมื่อถามว่าต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มเสื้อแดงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องมีการพูดคุย และขอความร่วมมือไปยังทุกฝ่าย โดยที่ไม่ระบุว่าเป็นคนใดคนหนึ่ง ซึ่งในการชุมนุมถ้าเป็นการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยก็สามารถทำได้ แต่ถ้านอกเหนือจากนั้น ก็จะต้องให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น
ส่วนที่มีการเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นผู้มาตอบกระทู้ด้วยตนเองนั้น ตามประเพณีปฏิบัติกันมา นายกฯมีสิทธิให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตอบกระทู้แทนได้