ภูมิภาค - ครม.ยิ่งลักษณ์ เทงบ 8 พันล้านเยียวยาน้ำท่วมอีสานเหนือ ขณะที่น้ำท่วมขยายวงกว้างลงภาคใต้ "ภูเก็ต-พังงา" เริ่มจม หลายหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหลังน้ำป่าทะลักท่วม ส่วนที่ "น่าน" โผล่อีกรอยแยกและรอยเลื่อนดินภูเขาทรุดตัวเหนือหมู่บ้านเป็นแนวยาวหลายแห่ง เกรงจะถล่มลงใส่บ้านเรือนที่มีกว่า 100 หลัง
วานนี้ (25 ส.ค) นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบเรื่องการให้ความช่วยเหลือของผู้ที่รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยให้การช่วยเหลือร้อยละ 55 ของต้นทุนที่แท้จริง รวมทั้งจะใช้เทคโนโลยีเข้าประกอบและเร่งรัดให้นำเงินช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้ถึงมือเกษตรกรโดยไม่ต้องรอให้น้ำลด 2-3 เดือนเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ได้มีการมอบหมายงานให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำเอาภาพถ่ายทางอากาศ มาใช้ประกอบในการพิจารณา ซึ่งงบประมาณที่ใช้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีจะออกไปติดตามสถานการณ์ทั้งภาคอีสานและภาคเหนือทันทีหลังจากนี้
**น้ำทะลักท่วม-ดินถล่มภูเก็ต-พังงาแล้ว
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และภาคตะวัน ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักและต่อเนื่อง ล่าสุดทางภาคใต้ก็เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วเช่นกันหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดคืนวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำท่วมขังถนนสายต่างๆ จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้วเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 14.30 น.วานนี้(25 ส.ค.)ปริมาณน้ำได้เริ่มลดลงตามลำดับเนื่องจากฝนเริ่มหยุด
นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมป่าตองอย่างใกล้ชิด ซึ่งน้ำท่วมในป่าตองเริ่มลดระดับลงเรื่อยๆ คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาอีกในพื้นที่ป่าตองจะสามารถระบายน้ำได้หมดภายใน 2-3 ชั่วโมง แต่จุดที่ยังน่าเป็นห่วงในขณะนี้คือจุดบริเวณโรงพยาบาลป่าตองที่น้ำยังท่วมขังสูงอยู่ ทำให้รถพยาบาลไม่สามารถนำผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลได้และทางโรงพยาบาลได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ป่วยในเขตป่าตองไปใช้บริการที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแทนในช่วงนี้ ส่วนร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญส่วนใหญ่ปิดให้บริการ
ขณะที่ในพื้นที่ อ.กะทู้ เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้ดินบริเวณเนินเขาซอยสี่กอ เขตเทศบาลเมืองกะทู้ถล่มลงมาทับบ้านพักคนงานของ โรงงานไอส์แลนด์ ที ลอนดรี้ ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะบริเวณหลังคาบ้านพังเสียหายทั้งหมดนอกจากนั้นยังสไลด์ลงไปทับโรงเก็บรถบริเวณใกล้เคียงทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คันโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองกะทู้ได้เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
นายชัยยะ สุทธิกุล รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ อ.กะทู้ กล่าวว่า จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองกะทู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกดังกล่าว ทั้งดินสไลด์ลงมายังถนนบริเวณทางขึ้นเขาป่าตองฝั่งเทศบาลเมืองกะทู้ ดินสไลด์ลงพื้นถนนบริเวณด้านหน้าสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม บ้านเรือนราษฎรในซอยสี่กอ 2 หลังได้รับความเสียหายจากดินภูเขาสไลด์ลงมาและน้ำไหลเข้าบ้านเรือนราษฎร บริเวณซอยตาเลื่อน มีน้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
ส่วนที่ จ.พังงา หลังฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่คืนวันที่ 24 ส.ค.ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงมาท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า ไม่ต่ำกว่า 50 ครัวเรือน อ.กะปง ไม่ต่ำกว่า 70 ครัวเรือน และ อ.ท้ายเหมือง ประมาณ 300-400 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่ระดับน้ำในป่าได้ไหลหลากเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว
**ชาวน่านผวาพบรอยแยกบนเขานับ10จุด
ด้านชาวบ้านบ้านหัวน้ำ หมู่ที่ 5 ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลศิลาแลง ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 น่าน เข้าตรวจสอบรอยเลื่อนและรอยแยก บนเขาเหนือหมู่บ้าน ซึ่งมีกว่า 10 จุดและเป็นแนวยาวกว่า 500 เมตร กว้างกว่า 10 ซม.ลึกกว่า 2 เมตร โดยชาวบ้านนำไผ่ที่ขนาดยาวกว่า 5 เมตร หยั่งในหลายๆ จุดที่เป็นดินแยก พบมีความลึกต่างกันไป นอกจากนั้นยังมีดินทรุดตัวลงมาแยกเป็นชั้นๆ ตามแนวดิ่งของเนินเขา
ชาวบ้านที่นำทีมเจ้าหน้าที่ดูพื้นที่บอกว่า ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้มีดินโคลนบางส่วนไหลลงสู่หมู่บ้านที่อยู่ติดเขาข้างล่าง จึงได้เข้ามาสำรวจจนพบสภาพดินภูเขาที่เกิดรอยแยกดังกล่าว
นางรำแพน โนพรวน นายกเทศมนตรีตำบลศิลาแลง กล่าวว่า ได้เตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง และจัดเวรยามตรวจอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง ในขั้นต้นนี้ได้ประสานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ให้มาตรวจสอบ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า รอยแยกของดินอาจจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากที่อยู่แนวเดียวกับรอยเลื่อนปัวที่ยังมีพลังอยู่ ชาวบ้านจึงวิตกมากเกรงจะเกิดอุบัติภัยทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แต่จะให้ชาวบ้านย้ายไปที่อื่น ก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เพราะบริเวณนี้ส่วนใหญ่ก็มีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าเขาทั้งสิ้น
ด้าน พ.อ.ดำรงค์ คงเดช ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 น่าน กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือหากมีการร้องขอ โดยเฉพาะการขนย้ายคนและสิ่งของออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยต่อไป
สำหรับบ้านหัวน้ำ หมู่ที่ 5 ต.ศิลาแลง มีประชากรน 136 ครัวเรือน 580 คน ล่าสุดได้เกิดดินทรุดตัวสไลด์ลงใส่บ้าน 2 หลัง ที่สร้างติดกับเชิงเขา เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ทำความเสียหายให้แก่ตัวบ้านเกือบทั้งหมด ขณะนี้ชาวบ้านจึงเกิดความหวาดผวาหลังพบรอยแยกและรอยเลื่อนตลอดจนดินทรุดตัวเป็นแนวยาว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการป้องกันต่อไป.
วานนี้ (25 ส.ค) นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบเรื่องการให้ความช่วยเหลือของผู้ที่รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยให้การช่วยเหลือร้อยละ 55 ของต้นทุนที่แท้จริง รวมทั้งจะใช้เทคโนโลยีเข้าประกอบและเร่งรัดให้นำเงินช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้ถึงมือเกษตรกรโดยไม่ต้องรอให้น้ำลด 2-3 เดือนเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ได้มีการมอบหมายงานให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำเอาภาพถ่ายทางอากาศ มาใช้ประกอบในการพิจารณา ซึ่งงบประมาณที่ใช้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีจะออกไปติดตามสถานการณ์ทั้งภาคอีสานและภาคเหนือทันทีหลังจากนี้
**น้ำทะลักท่วม-ดินถล่มภูเก็ต-พังงาแล้ว
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และภาคตะวัน ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักและต่อเนื่อง ล่าสุดทางภาคใต้ก็เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วเช่นกันหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดคืนวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำท่วมขังถนนสายต่างๆ จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้วเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 14.30 น.วานนี้(25 ส.ค.)ปริมาณน้ำได้เริ่มลดลงตามลำดับเนื่องจากฝนเริ่มหยุด
นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองป่าตอง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมป่าตองอย่างใกล้ชิด ซึ่งน้ำท่วมในป่าตองเริ่มลดระดับลงเรื่อยๆ คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาอีกในพื้นที่ป่าตองจะสามารถระบายน้ำได้หมดภายใน 2-3 ชั่วโมง แต่จุดที่ยังน่าเป็นห่วงในขณะนี้คือจุดบริเวณโรงพยาบาลป่าตองที่น้ำยังท่วมขังสูงอยู่ ทำให้รถพยาบาลไม่สามารถนำผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลได้และทางโรงพยาบาลได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ป่วยในเขตป่าตองไปใช้บริการที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแทนในช่วงนี้ ส่วนร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญส่วนใหญ่ปิดให้บริการ
ขณะที่ในพื้นที่ อ.กะทู้ เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้ดินบริเวณเนินเขาซอยสี่กอ เขตเทศบาลเมืองกะทู้ถล่มลงมาทับบ้านพักคนงานของ โรงงานไอส์แลนด์ ที ลอนดรี้ ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะบริเวณหลังคาบ้านพังเสียหายทั้งหมดนอกจากนั้นยังสไลด์ลงไปทับโรงเก็บรถบริเวณใกล้เคียงทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คันโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองกะทู้ได้เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
นายชัยยะ สุทธิกุล รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ อ.กะทู้ กล่าวว่า จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองกะทู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกดังกล่าว ทั้งดินสไลด์ลงมายังถนนบริเวณทางขึ้นเขาป่าตองฝั่งเทศบาลเมืองกะทู้ ดินสไลด์ลงพื้นถนนบริเวณด้านหน้าสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม บ้านเรือนราษฎรในซอยสี่กอ 2 หลังได้รับความเสียหายจากดินภูเขาสไลด์ลงมาและน้ำไหลเข้าบ้านเรือนราษฎร บริเวณซอยตาเลื่อน มีน้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
ส่วนที่ จ.พังงา หลังฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่คืนวันที่ 24 ส.ค.ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงมาท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า ไม่ต่ำกว่า 50 ครัวเรือน อ.กะปง ไม่ต่ำกว่า 70 ครัวเรือน และ อ.ท้ายเหมือง ประมาณ 300-400 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่ระดับน้ำในป่าได้ไหลหลากเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว
**ชาวน่านผวาพบรอยแยกบนเขานับ10จุด
ด้านชาวบ้านบ้านหัวน้ำ หมู่ที่ 5 ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน ได้นำเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลศิลาแลง ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 น่าน เข้าตรวจสอบรอยเลื่อนและรอยแยก บนเขาเหนือหมู่บ้าน ซึ่งมีกว่า 10 จุดและเป็นแนวยาวกว่า 500 เมตร กว้างกว่า 10 ซม.ลึกกว่า 2 เมตร โดยชาวบ้านนำไผ่ที่ขนาดยาวกว่า 5 เมตร หยั่งในหลายๆ จุดที่เป็นดินแยก พบมีความลึกต่างกันไป นอกจากนั้นยังมีดินทรุดตัวลงมาแยกเป็นชั้นๆ ตามแนวดิ่งของเนินเขา
ชาวบ้านที่นำทีมเจ้าหน้าที่ดูพื้นที่บอกว่า ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้มีดินโคลนบางส่วนไหลลงสู่หมู่บ้านที่อยู่ติดเขาข้างล่าง จึงได้เข้ามาสำรวจจนพบสภาพดินภูเขาที่เกิดรอยแยกดังกล่าว
นางรำแพน โนพรวน นายกเทศมนตรีตำบลศิลาแลง กล่าวว่า ได้เตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง และจัดเวรยามตรวจอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง ในขั้นต้นนี้ได้ประสานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ให้มาตรวจสอบ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า รอยแยกของดินอาจจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากที่อยู่แนวเดียวกับรอยเลื่อนปัวที่ยังมีพลังอยู่ ชาวบ้านจึงวิตกมากเกรงจะเกิดอุบัติภัยทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แต่จะให้ชาวบ้านย้ายไปที่อื่น ก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เพราะบริเวณนี้ส่วนใหญ่ก็มีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าเขาทั้งสิ้น
ด้าน พ.อ.ดำรงค์ คงเดช ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 น่าน กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือหากมีการร้องขอ โดยเฉพาะการขนย้ายคนและสิ่งของออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยต่อไป
สำหรับบ้านหัวน้ำ หมู่ที่ 5 ต.ศิลาแลง มีประชากรน 136 ครัวเรือน 580 คน ล่าสุดได้เกิดดินทรุดตัวสไลด์ลงใส่บ้าน 2 หลัง ที่สร้างติดกับเชิงเขา เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ทำความเสียหายให้แก่ตัวบ้านเกือบทั้งหมด ขณะนี้ชาวบ้านจึงเกิดความหวาดผวาหลังพบรอยแยกและรอยเลื่อนตลอดจนดินทรุดตัวเป็นแนวยาว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการป้องกันต่อไป.