เกาหลีฟีเวอร์ “เดอะ เฟส ชอป” ดึงดาราเกาหลีกระตุ้นยอดเพิ่มเป็นเท่าตัว พร้อมลุยขยายสาขาต่อเนื่อง ตั้งเป้าครบ 50 สาขาใน3 ปี มั่นใจสิ้นปีรายได้แตะ 90 ล้านบาท โต50-60%
นายณัฐยุทธิ์ อภิรติเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอฟเอส (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเครื่องสำอางและความงามภายใต้แบรนด์ เดอะ เฟส ชอป เปิดเผยว่า จากกระแสเกาหลีฟีเวอร์ คนไทยให้ความสนใจและชื่นชอบกับดารานักร้องจากประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้นนั้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทางบริษัทจึงได้เน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับกระแสเกาหลีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าส่งผลให้ยอดขายในช่วงนั้นๆเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงปกติ
ส่งผลให้ในครึ่งปีหลังจากนี้ ทางบริษัทยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ดดารา ศิลปินเกาหลี ล่าสุดได้นำดาราเกาหลี “คิม ฮยอน จุง” เข้ามาให้ลูกค้าได้ใกล้ชิดและร่วมสนุก เมื่อซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท ได้ลายเซ็น และซื้อ 15,000 บาท ได้ถ่ายรูป ซึ่งในส่วนของซื้อครบ 5,000 บาท ยอดครบภายใน 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า15-20% ด้วย
ขณะที่ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,800-2,500 บาท ยาทาเล็บเริ่มต้นที่ 95-500 บาท เมคอัพ 300-2,000 บาท ราคาดังกล่าวสูงกว่าที่เกาหลี 2.5 เท่า เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังต้องเสียค่าภาษีนำเข้าสูงถึง 30-40% แม้ว่าจะมีเขตการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN - Korea Free Trade Agreement) ที่ไทยได้ตกลงเปิดเสรีการค้ากับประเทศเกาหลีใต้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 เนื่องจากรายละเอียดของการลดอัตราภาษีมีเยอะมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่บริษัทเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาด และนำสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมียอดขายอยู่ที่ 90ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 50ล้านบาท
นายณัฐยุทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจใน 3 ปีหลังจากนี้ บริษัทจะเน้นขยายสาขาร้านเดอะ เฟส ชอปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบ ช็อปจำหน่าย และจุดจำหน่าย มั่นใจว่าในอีก 3 ปีน่าจะมีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการครบ 50 สาขา โดยช็อปจำหน่ายจะใช้งบลงทุนต่อสาขาอยู่ที่ 2.3ล้านบาท ส่วนจุดจำหน่ายจะใช้งบลงทุนที่ประมาณ 4-5แสนบาท เน้นทำเลหลักในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า โดยปีนี้มีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 12 สาขา เปิดแล้ว 5 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่ม7สาขา ทั้งในรูปแบบช็อปจำหน่ายและจุดจำหน่ายคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 15-20 ล้านบาท จากปัจจุบันมีอยู่ 26สาขา แบ่งเป็น ช็อปจำหน่าย 5สาขา และจุดจำหน่าย19 สาขา
นายณัฐยุทธิ์ อภิรติเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอฟเอส (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเครื่องสำอางและความงามภายใต้แบรนด์ เดอะ เฟส ชอป เปิดเผยว่า จากกระแสเกาหลีฟีเวอร์ คนไทยให้ความสนใจและชื่นชอบกับดารานักร้องจากประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้นนั้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทางบริษัทจึงได้เน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับกระแสเกาหลีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าส่งผลให้ยอดขายในช่วงนั้นๆเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงปกติ
ส่งผลให้ในครึ่งปีหลังจากนี้ ทางบริษัทยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ดดารา ศิลปินเกาหลี ล่าสุดได้นำดาราเกาหลี “คิม ฮยอน จุง” เข้ามาให้ลูกค้าได้ใกล้ชิดและร่วมสนุก เมื่อซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท ได้ลายเซ็น และซื้อ 15,000 บาท ได้ถ่ายรูป ซึ่งในส่วนของซื้อครบ 5,000 บาท ยอดครบภายใน 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า15-20% ด้วย
ขณะที่ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,800-2,500 บาท ยาทาเล็บเริ่มต้นที่ 95-500 บาท เมคอัพ 300-2,000 บาท ราคาดังกล่าวสูงกว่าที่เกาหลี 2.5 เท่า เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังต้องเสียค่าภาษีนำเข้าสูงถึง 30-40% แม้ว่าจะมีเขตการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN - Korea Free Trade Agreement) ที่ไทยได้ตกลงเปิดเสรีการค้ากับประเทศเกาหลีใต้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 เนื่องจากรายละเอียดของการลดอัตราภาษีมีเยอะมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่บริษัทเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาด และนำสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมียอดขายอยู่ที่ 90ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 50ล้านบาท
นายณัฐยุทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจใน 3 ปีหลังจากนี้ บริษัทจะเน้นขยายสาขาร้านเดอะ เฟส ชอปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบ ช็อปจำหน่าย และจุดจำหน่าย มั่นใจว่าในอีก 3 ปีน่าจะมีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการครบ 50 สาขา โดยช็อปจำหน่ายจะใช้งบลงทุนต่อสาขาอยู่ที่ 2.3ล้านบาท ส่วนจุดจำหน่ายจะใช้งบลงทุนที่ประมาณ 4-5แสนบาท เน้นทำเลหลักในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า โดยปีนี้มีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 12 สาขา เปิดแล้ว 5 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่ม7สาขา ทั้งในรูปแบบช็อปจำหน่ายและจุดจำหน่ายคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 15-20 ล้านบาท จากปัจจุบันมีอยู่ 26สาขา แบ่งเป็น ช็อปจำหน่าย 5สาขา และจุดจำหน่าย19 สาขา